รัฐสภา 9 มี.ค.- สนช. นัดแถลงเปิดคดีถอดถอน สุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทางธรรมดาให้ โดยมิชอบ 16 มี.ค.นี้ ขณะที่ ผู้ถูกกล่าวหาขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติของ ป.ป.ช.ที่ชี้มูลความผิด แต่ สนช.ไม่อนุญาต
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (9 มี.ค.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระบวนการถอดถอน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง กรณีใช้อำนาจหน้าที่ออกหนังสือเดินทางธรรมดาให้นายทักษิณ ชินวัตร โดยมิชอบ เพื่อช่วยเหลือนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการติดตามตามหมายจับ ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ประกอบมาตรา 64 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
นายสุรพงษ์ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนความไม่ชอบมาพากล 5 ฉบับต่อ สนช.เพื่อประกอบการพิจารณา ได้แก่ ฉบับที่ 1 เรื่องพบความไม่ชอบในการแจ้งข้อกล่าวหานายสุรพงษ์ ฉบับที่ 2 การตรวจพบสถานะการเข้าดำรงตำแหน่งของนายปรีชา เลิศกมลมาศและพล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉบับที่ 3 เรื่องตรวจสอบพบว่าคำร้องถอดถอน นายสุรพงษ์ ออกจากตำแหน่ง ส.ส.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ฉบับที่ 4 การปฏิเสธที่จะให้พยานหลักฐานสำคัญ และไม่ยอมให้ถ่ายสำเนาในการประกอบการชี้แจงข้อกล่าวหา และฉบับที่ 5 เรื่องมติที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีนายภักดี โพธิศิริ ร่วมประชุมด้วย
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังได้ยื่นเอกสารลับให้กับสมาชิกได้พิจารณาด้วย โดยประธานแจ้งว่า ให้สมาชิกพิจารณาเอกสารลับภายในห้องประชุมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้สมาชิกนำเอกสารดังกล่าวออกจากห้องประชุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดวันแถลงเปิดคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้กล่าวหา และนายสุรพงษ์ ผู้ถูกกล่าวหา ในวันที่ 16 มีนาคม จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานของนายสุรพงษ์ จำนวน 2 คำขอ 5 รายการ ได้แก่ 1.หนังสือของสำนักงาน ป.ป.ช. เรื่องขอทราบผลการตรวจสอบการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนให้แก่ นายภักดี โพธิศิริ 2. หนังสือของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อง ขอทราบผลการตรวจสอบการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนให้นายภักดี โพธิศิริ 3. รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 เมษายน2555 4. รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2556 และ 5.รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559
จากนั้น นายสุรพงษ์ ชี้แจงเหตุผลการขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานต่อที่ประชุมว่า การเพิ่มเติมหนังสือเรื่องการตรวจสอบการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนของนายภักดี เนื่องจากนายภักดีได้ร่วมลงมติชี้มูลว่าตนมีความผิด แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า นายภักดีขาดคุณสมบัติการเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งแต่ต้น ซึ่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินชี้ว่า นายภักดีไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท องค์การเภสัชกรรมเมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด ภายใน 15 วันตามที่กฎหมายกำหนด
ขณะที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. คัดค้านการขอเพิ่มเติมพยานหลักฐาน พร้อมชี้แจงว่า นายภักดีได้ชี้แจงและแสดงหลักฐานการลาออกจากทุกบริษัทผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว ดังนั้น สถานะของนายภักดีถือว่าสมบูรณ์ ซึ่งนายสุรพงษ์ได้เคยขอยื่นหลักฐานนี้ต่อ ป.ป.ช. แต่ ป.ป.ช.เห็นว่า เอกสารดังกล่าวไม่เกี่ยวกับคดีนี้แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการชี้แจง ที่ประชุมมีมติไม่อนุญาตให้นายสุรพงษ์เพิ่มเติมพยานหลักฐานทั้ง 5 รายการ และมีมติไม่ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่สรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และพยานหลักฐานอันจำเป็นของคู่กรณี เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่า ไม่ใช่คดีที่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด .- สำนักข่าวไทย