ยธ.6มี.ค.-ครอบครัวชาวจีนร้องศูนย์ฯยธ.ติดตามความคืบหน้าคดีบุตรสาวเสียชีวิตที่เกาะสมุย หลังดีเอสไอสั่งยกฟ้องคดี โดยอธิบดีดีเอสไอเผยครอบครัวยังคลางแคลงใจ จึงตั้งทีมสอบสวนใหม่ ขอเวลา 1เดือนสอบข้อเท็จจริง
พ.ต.อ.ดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) ในฐานะ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม (ศนธ.ยธ.) เปิดให้นายหลิน กัว เฮียง และนาง หวัง ไฮ่ เซิง บิดาและมารดา ของนาง ลิน ลิน ที่เสียชีวิต ภายในที่พักที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2556 โดยในคดีดังกล่าว มีการสืบสวนสอบสวนจากตำรวจ ก่อนที่ดีเอสไอจะรับไว้เป็นคดีพิเศษ และสั่งยกฟ้องต่อมาในปี 2558 เนื่องจากให้เหตุผลว่า ไม่มีประจักษ์พยานและหลักฐานใม่เพียงพอ ทางครอบครัวจึงไม่มั่นใจและไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรมของไทย จึงมาร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนจะส่งเรื่องมาให้กระทรวงยุติธรรม โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ดุษฏี รับผิดชอบในเรื่องนี้
นายณรงค์ ทองคำ ทนายความครอบครัวนางลินลิน กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องขึ้นทางตำรวจสมุยได้มีการดำเนินการโดยจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นสามีของนางลินลิน คือนาย ยู ลิน ชาวจีน ซึ่งสามีบอกว่าจมน้ำเสียชีวิต แต่ทางนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์ว่าขาดอากาศหายใจและมีร่องรอยที่บริเวณคอ รวมถึงพบร่องร่อยนาฬิกาผู้ตายมีรอยแตกคล้ายกับมีการต่อสู้ก่อน นอกจากนี้การตรวจดีเอ็นเอจากเนื้อที่เล็บผู้ตาย ยังพบว่ามีดีเอ็นเอที่เข้ากันของทั้งผู้ตาย ผู้ต้องหา โดยตำรวจสมุยเดินหน้าสอบสวนได้หลักฐานพยานเต็มที่แต่ผู้ต้องหาร้องขอให้ตำรวจกองปราบปรามเข้ามาดูแลเรื่องนี้แทนตำรวจท้องที่ ทำให้ครอบครัวผู้ตายไปร้องเรียนสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ ขอให้โอนสำนวนกลับไปยังเกาะสมุย ในสมัยที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว เป็น ผบ.ตร.จึงให้ความเป็นธรรมทั้ง 2ฝ่าย ด้วยการตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมสอบสวน แต่เมื่อเหลือระยะเวลาอีก 1 เดือนกรรมการ และพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหา ปรากฎว่าดีเอสไอมีคำสั่งด่วนให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ โดยพ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน เป็นคนมีคำสั่งและรับเป็นเจ้าพนักงานสอบ สวนในคดีนี้เอง หลังจากนั้นอีก 1 เดือนถัดมา ก็มีคำสั่งไม่ฟ้อง
อย่างไรก็ตามบิดาผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของกระทรวงการต่างประเทศของจีน เรื่องนี้รัฐบาลจีนให้ความสนใจ จึงส่งตำรวจระดับรองอธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติจีน มาสอบถามข้อเท็จจริงจากดีเอสไอ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ บิดาของผู้ตายจึงดำเนินการฟ้องศาลจังหวัดเกาะสมุยเอง ต่อสู้กันนานกว่า 2 ปี จนกระทั่งในเดือนพ.ย.2558 ศาลมีความเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่เชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำผิด จึงประทับรับฟ้องไว้ ก่อนจะทำเรื่องไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) และกระทรวงยุติธรรมถึง 2 ครั้งก่อนที่กระทรวงฯจะมีคำสั่งให้รื้อฟื้นคดีเพราะ มีข้อสงสัยที่ขัดกันกับคำวินิจฉัยของศาล
ทั้งนี้ในส่วนผู้ต้องหาคือนายยู ลิน เคยมีคดีมีส่วนร่วมฆ่าภรรยาตัวเอง ที่เป็นชาวสวีเดนและต่อสู้คดีจนหลุดออกมาได้นานกว่า 9 ปีก่อนจะมาเจอ คดีนี้เมื่อปี 2556 โดย นายยูลิน เป็น น้องชายของมหาเศรษฐีที่จีน เป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวาง และเมื่อมาอยู่เมืองไทย เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีทรัพย์สินกว่า 500 ล้านบาท ขณะนี้หลบหนีกลับไปอยู่ที่ประเทศจีน โดยทางตำรวจจีนไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะไม่มีหลักฐานเอาผิดจากประเทศไทย
พ.ต.อ.ดุษฏี กล่าาหลังรับเรื่องว่า ได้ประสาน และรับคำชี้แจงจาก ดีเอสไอ และแจ้งไปทางครอบครัวแต่ยังมีความคลางแคลงใจจึงตั้งทีมขึ้นมาสอบสวนดูแลใหม่ จึงถือเป็นการดีที่จะได้ตรวจสอบ หากพบขั้นตอนบกพร่องจุดใด จะได้แจ้งพนักงานอัยการทราบ และจะต้องตอบสังคมให้ได้ว่าเกิดข้อบกพร่องตรงไหน มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ แม้จะเป็นหน่วยงานในสังกัดเดียวกันก็ต้องจัดการแก้ไข ส่วนที่มีปัญหาตอนนี้ยังไม่ขอพูดถึง ขอระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวนประมาณ 1เดือน เชื่อจะเห็นความก้าวหน้า และเห็นข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด ยืนยันจะคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย และครอบครัวผู้ตายอย่างดีที่สุด .-สำนักข่าวไทย