นายกฯ เปิดหลักสูตร ป.ย.ป. ย้ำ ขรก.มีส่วนสำคัญในการเดินหน้าประเทศ

2222เมืองทองธานี 2 มี.ค.-นายกรัฐมนตรี เปิดหลักสูตร การบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ยัน ขรก.มีส่วนสำคัญในการเดินหน้าประเทศ ขอให้ผู้เข้าอบรม มีหลักคิด เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ช่วยกันเดินหน้าปฏิรูปประเทศ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในการเปิดหลักสูตร การบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “โครงสร้างและแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.)” โดยมีข้าราชการระดับปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง อธิบดี ผู้ช่วยปลัดกระทรวง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการทหารและตํารวจ ที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่า 1,200 คน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้าราชการเป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้าประเทศ และขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด พร้อมกับจัดสรรเวลาให้ครอบครัวอย่างเหมาะสม ขอยืนยันว่าส่วนตัวมีความจำเป็นที่มายืนอยู่ตรงนี้เพื่อพูดกับทุกคน ทั้งนี้เพราะในฐานะที่เคยเป็นข้าราชการเก่า จึงรู้ว่าข้าราชการมีส่วนสำคัญในการเดินหน้าประเทศในอนาคต ซึ่งขอให้ทุกคนได้คิดว่าทุกคนต้องมาช่วยกันเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่ต้องทำต่อไปในอนาคต ดังนั้นหลักสูตรการอบรม ป.ย.ป. ไม่ใช่แค่หลักสูตรการอบรมแล้วจบ หรือมีการไปดูงานที่ต่างประเทศ แต่เป็นการอบรมเพื่อพัฒนาต่อข้าราชการทุกคน ให้เป็นผู้นำทางความคิด นำนโยบายของ ป.ย.ป. ไปขับเคลื่อนต่อในทุกระดับให้ได้ และให้ประสบผลสำเร็จ จับต้องได้จริง และต้องมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และต้องสร้างการรับรู้ที่ดี ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก ที่วันนี้แม้เปลี่ยนตัวผู้นำบางประเทศ โลกก็เกิดความวุ่นวาย ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์โลก


333“ข้าราชการคือตัวแปรสำคัญ และรัฐบาลเป็นสะพานให้ประชาชนได้ก้าวข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก หลุดพ้นจากการติดกับดักของประเทศ โดยเฉพาะจุดต่างของคำว่าประชาธิปไตยและอนาธิปไตย ที่ประเทศไทยจะต้องแยกแยะให้ได้ และการที่รัฐบาลออกกฎหมายมานั้น ไม่ใช่เป็นการกำจัดใคร แต่เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน เพราะกฎหมายถือเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามและทุกคนมีส่วนร่วม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงที่มาของคำว่า ป.ย.ป. ว่า ไม่ใช่ “ประยุทธ์อยู่ต่อไป” แต่เป็นคำที่ตั้งใจคิดขึ้นมาเพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการที่ข้าราชการจะต้องนำหลักการไปปฏิบัติ โดยจะต้องมองหาข้อเท็จจริงจากข้อมูลเชิงประจักษ์ และมีหลักคิดที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งในวันนี้ยอมรับว่าสื่อโซเซียลมีเดียส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคม มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี จนทำให้เกิดความสับสน เพราะขาดหลักคิดและการไตร่ตรอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ปัญหาของประเทศขณะนี้มี 3 เรื่อง คือ 1.เรื่องประชาธิปไตย ที่มีความเห็นที่แตกต่าง 2.เรื่องความเหลื่อมล้ำและปัญหาเศรษฐกิจของสังคม รวมถึงรายได้และความเป็นอยู่ และ 3.เรื่องการขาดหลักคิดที่ถูกต้อง ซึ่งจำเป็นที่ต้องมีการพัฒนาการศึกษา พัฒนาความคิดให้มีหลักคิดที่ถูกต้อง ถ้าแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ทั้งหมด ประเทศไทยคงจะได้เป็นประเทศมหาอำนาจไปแล้ว


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอันดับแรก ซึ่งจะดูแลทั้งฐานราก เศรษฐกิจขนาดใหญ่ และแม้รัฐบาลจะเดินหน้า 4.0 ก็ดูแลประชาชน ในระดับ 3.0 และ 2.0 ด้วย แต่รัฐบาลก็จำเป็นต้องใช้จ่ายในการลงทุน โดยจะทำควบคู่กับเศรษฐกิจฐานรากให้ก้าวพ้นกับดักประเทศปานกลางและลดความขัดแย้งให้ได้ ซึ่งถ้าเอาความขัดแย้งมาแก้ก่อน คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ ซึ่งวันนี้ตนมองว่าบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยมากขึ้น ส่วนจะยุติความขัดแย้งในอนาคตได้อย่างไรนั้น ป.ย.ป.จะเป็นส่วนสำคัญที่จะหาทางออกในเรื่องนี้

4444“ขอให้ทุกคนทำงานเต็มศักยภาพ และมีเกียรติ ช่วยสร้างความเข้าใจและทำความดีให้กับแผ่นดินให้มากที่สุด ในปี 2560 ถือเป็นปีสำคัญที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง และจะพยายามทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด โดยต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมและเสนอความเห็น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึง 10 ประเด็นของยุทธศาสตร์และนโยบายที่ ป.ย.ป. ที่เน้นการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 การสร้างวิสาหกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การพัฒนาเกษตรกร อุตสาหกรรมและภาคบริการตามเป้าหมาย เสริมสร้างความเข้มแข็งผ่าน 18 กลุ่มจังหวัดและ 76 จังหวัด และเชื่อมประเทศไทยสู่ประชาคมโลก รวมถึงวาระการปฏิรูปขับเคลื่อนประเทศใน 27 ด้าน เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสร้างอุตสาหกรรมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม โดยเน้นย้ำให้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและวางแผนงานให้เป็นรูปธรรม หากเกิดอุปสรรคให้เสนอขึ้นมา เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากข้าราชการในการพัฒนามากกว่าปกครองเพียงอย่างเดียว ต้องทำงานในการพัฒนาควบคู่กับการปกครอง ด้วยความโปร่งใส สุจริต และเป็นธรรม มีศีลธรรมอันดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย