นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยามหิดล ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” ถึงแนวทางสร้างความปรองดองของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง(ป.ย.ป.) ที่นอกจากรับฟังความเห็นจากนักการเมืองแล้ว ยังให้ทหาร กระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนว่า เป็นการเดินมาถูกทางแล้ว แต่การจัดเวทีรับฟังความเห็นอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ โดยหลังจากประมวลความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากฝ่ายต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่ต้องดำเนินการคือกลไกและกระบวนการการพูดคุยระหว่างผู้ขัดแย้งหรือผู้ที่มีเรื่องค้างคาใจกันโดยตรง จึงจะคลี่คลายบรรยากาศความขัดแย้งได้
นายโคทม กล่าวว่า หากไม่พูดคุยกัน จะไม่สามารถทำให้การปรองดองเกิดขึ้นได้ ดังนั้น คนที่มีอำนาจในขณะนี้ต้องจัดเวทีให้พูดคุยกันระหว่างคู่ขัดแย้ง และอยากให้ฝ่ายความมั่นคงมาร่วมเวทีกับฝ่ายการเมืองต่าง ๆ ภายใต้กฎกติกาที่ว่า ใครพูด ฝ่ายอื่นต้องตั้งใจฟังและไต่ตรอง ก่อนที่จะอธิบายมุมมองของตัวเองให้เข้าใจ และนำไปสู่ข้อตกลงที่เป็นเนื้อหาหรือกติกาที่ต้องวางร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยทำข้อตกลงหรือเอ็มโอยู เชื่อว่าหากผู้มีอำนาจดำเนินการตามแนวทางนี้ มีความหวังที่จะเห็นความปรองดองก่อนเลือกตั้งได้ส่วนหนึ่ง
“การที่เราไม่คุยกัน จะทำให้ความบาดหมางดำรงอยู่ ความปรองดองเกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งเราจะคุยกับคนที่รับฟังความเห็นอย่างเดียวก็ไม่ได้ เราต้องให้คุยกับคนที่ทำอะไรให้เราเจ็บใจ ไม่พอใจ ให้เขาทราบด้วยถึงความไม่พอใจ เจ็บใจของเรา และฟังเขาด้วย ถ้ามีกระบวนการสื่อสองทางเช่นนี้ให้กว้างขวางทั่วถึง อย่างที่ทำอยู่ในระดับนี้ที่ทำในส่วนกลางและทำให้พื้นที่ต่าง ๆ ดังนั้น อาจจะต้องเปลี่ยนป.ย.ป.จากคนรับฟังมาเป็นเวทีอำนวยความสะดวกให้พูดคุยกันตามกติกาที่จะตกลงกัน” นายโคทม กล่าว
นายโคทม กล่าวว่า ไม่อยากให้ตั้งธงว่าต้องปรองดองให้ได้ก่อนเลือกตั้ง เพราะหากคิดเช่นนี้ก็ไม่ทราบว่าจะได้เลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่อยากให้พอแค่มีเค้าลางพอเข้าใจตรงกันได้ว่าปรองดองคืออะไร และทุกฝ่ายยอมรับว่าเรื่องความปรองดองเป็นสิ่งจำเป็น และพร้อมที่จะร่วมมือกัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ทำใจว่าปรองดองได้บ้างก็ถือว่าดี และดีกว่าไม่ปรองดองเลย.-สำนักข่าวไทย