กรุงเทพฯ 5 มี.ค. –แกนนำเพื่อไทยยืนยันหลักการพิจารณาคดีอาญาของนักการเมืองต้องเป็นหลักการและเหตุผลเดียวกับคดีอาญาอื่น ชี้ ไม่ควรลักลั่น แต่อาจทำได้โดยการลดชั้นศาลให้เหลือเพียง 2 จาก 3
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะไม่นับอายุความกรณีที่ผู้กระทำผิดหลบหนีว่า การพิจารณาคดีอาญา ไม่ว่าจะเป็นคดีอาญาประเภทใดก็ตามจะต้องมีหลักการและเหตุผลเดียวกัน ดังนั้น คดีอาญาประเภทอื่นเช่นคดีของนักการเมือง หากไม่ใช้หลักการเดียวกับคดีอาญาปกติ จะต้องทบทวนว่าหลักการพื้นฐานที่ใช้ปกตินั้นไม่ดี หรือไม่มีเหตุผลอย่างไร หากเป็นเช่นนี้ควรแก้หลักการพื้นฐานในคดีอาญาเหล่านั้นให้เหมือนกับคดีอาญาของนักการเมืองด้วย
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า หากลักลั่นกันเช่นนี้ต้องถือว่าคดีมีข้อบกพร่อง เพราะหลักการการพิจารณาคดีต่อหน้าจำเลย ก็มีเหตุผลว่าทำไมต้องพิจารณาคดีต่อหน้าจำเลย ซึ่งควรต้องใช้กับคดีอาญาทุกประเภท หากเสนอให้พิจารณาคดีนักการเมืองลับหลังได้ ควรต้องแก้ไขให้คดีอาญาทำได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินคดีกับนักการเมืองอาจจะลดชั้นศาลจากปกติ 3 ชั้นเหลือเพียง 2 ชั้น ยังพอรับได้
สำหรับกรณีที่มองว่านักการเมืองควรต้องมีมาตรฐานการดำเนินคดีสูงกว่าประชาชนทั่วไป นายพงศ์เทพ กล่าวว่า หากเป็นเรื่องการปฏิบัติของนักการเมือง ต้องมีมาตรฐานสูง เห็นด้วย แต่เป็นคนละเรื่องกับการพิจารณาคดี ที่ในหลักการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาและจำเลย ไม่ว่าจะอยู่ในศาลใด คดีประเภทใด ควรใช้มาตรฐานเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย