กรุงเทพฯ 19 พ.ย.-บรรยากาศบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวงตลอดทั้งวันนี้ มีประชาชนจำนวนมากมาต่อแถว เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยวันนี้มีการจัดระบบคิวใหม่ ใช้พื้นที่เฉพาะฝั่งทิศเหนือของสนามหลวง เพื่อทดลองการใช้พื้นที่ฝั่งเดียว ว่าจะสามารถรองรับประชาชนได้เพียงพอหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ฝั่งทิศใต้ของสนามหลวง จะต้องใช้ในการก่อสร้างพระเมรุมาศ โดยพบว่าการจัดคิวใหม่ในวันนี้ทำให้ประชาชนสับสน บางส่วนไม่ทราบจุดท้ายแถวที่แน่นอน บางส่วนต้องยืนตากแดดอยู่ด้านนอกเต็นท์เป็นเวลานาน ขณะเดียวกันวันนี้ยังมีการใช้กำลังทหาร และอาสาสมัครเดินตรวจเต็นท์จุดรอคอย บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อป้องกันการลัดคิว หรือแทรกคิวตามที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้ด้วย
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการ กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง หรือกอร.รส. เปิดเผยว่าการเปลี่ยนรูปบบการต่อแถว ใช้พื้นที่ฝั่งทิศเหนือของสนามหลวงเพียงฝั่งเดียว ทำให้ประชาชนจำนวนมากล้นออกมาด้านนอกสนามหลวง บริเวณหน้าศาลฎีกา เนื่องจากพื้นที่ที่ไม่เพียงพอสามารถรองรับประชาชนได้ 12,000 คน แต่เจ้าหน้าที่ได้จัดแถวและเร่งระบายประชาชนได้ 2,000 คน/ชม. อยากให้ประชาชนเข้าใจเพราะฝั่งทิศใต้ จะต้องเตรียมใช้พื้นที่ก่อสร้างพระเมรุมาศ
กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง หรือกอร.รส. ยังแก้ปัญหาเรื่องคิวด้วยการแจกบัตรลาคิวชั่วคราว สำหรับประชาชนที่ต้องการออกจากแถว เพื่อไปเข้าห้องน้ำโดยต้องรับบัตรลาคิว ด้านหน้าเต็นท์พักคอยที่ตัวเองเข้าแถวอยู่ แบ่งสีตามแถว แถวที่ 1-6 บัตรเป็นสีชมพู แถวที่ 7-12 บัตรสีเขียว และแถวที่ 13-20 บัตรสีฟ้า โดบบัตรทุกใบจะมีหมายเลขกำกับไว้ และหากต้องการกลับเข้าแถว ประชาชนจะต้องนำบัตรดังกล่าวคืน ให้กับเจ้าหน้าที่ประจำแถวเพื่อแสดงตัวตน ทั้งนี้ก็ยังมีประชาชนไม่ทราบการรับบัตรลาคิว ทำให้ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ชี้แจงอย่างทั่วถึง ก็พบว่าแถวเป็นระเบียบมากขึ้น
กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกรณีมีข้อความทางสื่อออนไลน์ว่า มีการจัดเต็นท์พิเศษสำหรับประชาชนจากต่างจังหวัด ได้เข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพเร็วกว่าบุคคลทั่วไป ยืนยันกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย มีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน จากต่างจังหวัดที่ไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเอง แต่จะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับประชาชนนทั่วไปทุกประการไม่มีสิทธิพิเศษ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่ากรมประชาสัมพันธ์ขอเชิญชวนให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ที่มีการจัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” ในเช้าวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ได้ส่งภาพนิ่งรวมถึงคลิปวีดิโอ ภาพบรรยากาศและกิจกรรมที่ได้จัด ส่งมาใน Facebook ของกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมกันบันทึกภาพพลังแห่งความภักดีให้ได้มากที่สุด จากทุกพื้นที่ ทุกอำเภอ ทุกชุมชน
นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าการจัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” ในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก ร่วมกับชุมชนไทยในต่างประเทศ จะจัดกิจกรรมในช่วงระหว่างวันที่ 18 -22 พฤศจิกายน ตามความสะดวกและความเหมาะสม ของแต่ละพื้นที่ โดยเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ จะเป็นผู้นำการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เบื้องหน้า พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทย ติดตามรับชมการถ่ายทอดสดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” ได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 06.30 น.-สำนักข่าวไทย