สบส.ตรวจสอบ รพ.เอกชน ถูกร้องค่ารักษาผู้ป่วยฉุกเฉินแพง

กรมสบส.17 ก.พ.-กรม สบส.ส่งเจ้าหน้าที่สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และกองกฎหมาย ลงตรวจสอบ รพ.เอกชน ย่านศรีราชา จ.ชลบุรีให้แล้วเสร็จใน 3 วัน หลังมีผู้ร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊คว่าเก็บค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินแค่ 2 ชั่วโมงเกือบ 50,000 บาท


 

จากกรณี มีหญิงสาวรายหนึ่ง แชร์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่าได้นำเพื่อนที่หมดสติจากการล้มศีรษะฟาดพื้น เข้ารักษาที่โรงพยาบาล (รพ.)เอกชนแห่งหนึ่งย่านศรีราชา จ.ชลบุรี แต่พบว่าค่ารักษาพยาบาลภายใน  2 ชั่วโมง เป็นเงิน 40,945 บาทจึงขอให้ส่งตัวไปยัง รพ.ที่มีสิทธิประกันสังคม แต่ไม่ได้รับการตอบรับ จนต้องมีการวางสร้อยคอทองคำเป็นหลักประกัน


 

นพ.ภัทรพล  จึงสมเจตไพศาล  รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้า  ว่า นพ.วิศิษฎ์  ตั้งนภากร  อธิบดีกรม สบส.ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และกองกฎหมาย ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ รพ.ที่ถูกร้องเรียน โดยจะเน้นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ที่ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 ใน 2 ด้าน

 


ประการแรก คือสถานพยาบาล ตามมาตรา 32 กำหนดให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งต้องมีป้ายแสดงรายละเอียด 3 เรื่องหลัก คือ1.ชื่อสถานพยาบาล 2.รายการเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและ3.อัตราค่ารักษาพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆและสิทธิของผู้ป่วยให้เห็นชัดเจนที่จุดบริการและต้องมีจุดให้ประชาชนสอบถามอัตราค่าบริการเพิ่มเติม โดยห้ามเก็บค่ารักษาพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆ เกินกว่าที่ป้ายแสดง และต้องให้บริการแก่ผู้ป่วยตามสิทธิที่แสดงไว้ด้วย

 

ประการที่ 2 คือด้านแพทย์ผู้ให้บริการ ว่าแพทย์ที่ให้การรักษาใน รพ.แห่งนี้ มีการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินเบื้องต้นตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ รวมทั้งการสั่งการวินิจฉัยโรคเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานจะประสานส่งเรื่องให้สภาวิชาชีพ คือแพทยสภา ดำเนินการด้านจริยธรรมต่อไป โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน  3 วัน เนื่องจากเรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีการร้องเรียนบ่อยครั้ง

 

นพ.ภัทรพล กล่าวต่อว่า ในกรณีนี้แม้ รพ.เอกชนที่ถูกร้องเรียนจะไม่ปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่ก็มีเรียกเก็บค่ารักษาในอัตราที่สูงในระยะเวลาสั้นเพียง 2 ชั่วโมง จึงต้องมีการตรวจสอบว่ารพ.เอกชนดังกล่าวได้มีการสั่งการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างไรบ้างและได้มีการติดป้ายแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆและสิทธิของผู้ป่วยให้ประชาชนทราบหรือไม่ หากไม่มี ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ  หากเรียกเก็บค่ารักษาเกินอัตราที่แสดงบนป้าย จะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

 

อย่างไรก็ตาม ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ที่ปรับปรุงแก้ไขเพิ่ม เติม ฉบับที่ 4 ได้กำหนดให้ รพ.จะต้องควบคุมและดูแลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินเพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยห้ามปฏิเสธการรักษาเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ทั้งนี้ สิทธิผู้ป่วยที่สถานพยาบาลทุกแห่งทั้ง รพ.และคลินิกเอกชน ต้องติดแสดงที่จุดบริการมี  9  ประการ ดังนี้ 1.ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะ ได้รับการรักษาพยาบาลและดูแลมาตรฐานสุขภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ 2.ผู้ป่วยที่ขอรับบริการด้านสุขภาพมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจชัดเจนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือรีบด่วน หรือจำเป็น

 

3.ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต มีสิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่คำนึงถึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่ 4.ผู้ป่วยมีสิทธิจะได้รับทราบชื่อ สกุล และประเภทของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ที่เป็นผู้ให้บริการแก่ตน 5.ผู้ป่วยมีสิทธิจะขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่น ที่มิได้เป็นผู้ให้บริการแก่ตน และมีสิทธิในการขอเปลี่ยนผู้ให้บริการและสถานบริการได้

 

6.ผู้ป่วยมีสิทธิจะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเองจากผู้ประกอบวิชา ชีพด้านสุขภาพโดยเคร่งครัด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย 7.ผู้ป่วยมีสิทธิจะได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วน ในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้ถูกทดลอง ในการทำวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ 8.ผู้ป่วยมีสิทธิจะได้รับทราบข้อมูล เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อร้องขอ  ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น

 

9.บิดามารดาหรือผู้แทนโดยชอบธรรมอาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้ หากสถานพยาบาลใดไม่มี หรือมีแล้วแต่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์สามารถขอได้ที่ศูนย์บริการร่วมเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ที่กรม สบส. สอบถามได้ที่สายด่วน กรม สบส. 02 193 7999  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน