สำนักงบประมาณ 18 ก.พ.-นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวระหว่างประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำงบประมาณในลักณณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ 2561 ว่า หลังจากที่ประชุม ครม.เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 61 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ประมาณการณ์รายได้ 2.45 ล้านล้านบาท งบประมาณแบบขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท การจัดสรรงบประมาณในปี 61 รัฐบาลเน้นจัดทำในรูปแบบบูรณาการกลุ่มจังหวัดมากขึ้น โดยอิงการจัดสรรงบประมาณทั้ง 4 มิติ ทั้งยุทศาสตร์รัฐบาล ภาระกิจหน้าที่ของกระทรวง ทบวง กรม ภาระกิจตามพื้นที่กลุ่มจังหวัด และแบบประชารัฐ เพื่อให้ภาคเอกชน ชุมชน ได้แสดงความเห็นความต้องการใช้งบประมาณในการพัฒนาพื้นที่
ผู้อำนวยการสำนักงบฯ จึงนำข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีฝากมายังที่ประชุม เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอของ สปท. ในการจัดทำงบประมาณแบบประชารัฐ โดยเปิดให้ภาคเอกชน ชุมชนได้เสนอความเห็นความต้องการใช้งบพัฒนาท้องถิ่น เพื่อต้องการปฏิรูประบบการจัดสรรงบประมาณ หลังจาก ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 61 แล้ว เมื่อได้พิจารณาข้อเสนอคำของบของส่วนราชแล้วในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดว่าอีก 3-4 เดือน จะเสนอสภา สนช.พิจารณางบประมาณผ่าน 29 แผนงาน เนื่องจากเห็นว่าการพัฒนาระดับภาคจะสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น
“นายกรัฐมนตรีย้ำว่า กิจกรรมการใด โครงการใด เป็นการใช้เงินพัฒนา แก้ปัญหาในพื้นที่ ในภูมิภาค แต่หากคำของบประมาณยังมาจากส่วนกลางจะไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ และหากส่วนใดมีความจำเป็นต้องใช้จากส่วนกลางต้องกำหนดให้ชัดเจน เพื่อต้องการให้เกิดประสิทธิ์ภาพการใช้งบประมาณกระจายไปยังภูมิภาค อีกทั้งการจัดซื้อจัดจ้างใดใช้เงินไม่ถึง 2 ล้านบาท มีข้อยกเว้นไม่ต้องใช้ระบบ E-Bidding เพื่อเกิดความคล่องตัวในการทำโครงการขนาดเล็ก และนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า อย่าเสนอโครงการแบบแฟชั่นเรียนแบบจังหวัดอื่นประสบความสำเร็จมากเกินไป เช่น การเลี้ยงโคขุน ไม่อยากให้เห่อทำกันทุกภาคทุกจังหวัด และที่ผ่านมาพากันปลูกยางพารากันทุกภาค จนขณะนี้ต้องลดพื้นที่ปลูกยาง จึงต้องการให้เลือกศักยภาพของพื้นที่ของตนเองในการพัฒนาท้องถิ่น” นายสมศักดิ์ กล่าว