ดีเอสไอนำผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจค้นในวัดพระธรรมกาย

826วัดพระธรรมกาย 18 ก.พ.- กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมเริ่มตรวจค้นรอบนอกวัดพระธรรมกาย พบพระสงฆ์สัญชาติอื่น 3 รูป เร่งหาความเชื่อมโยงพระธัมมชโย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศวัดพระธรรมกาย บริเวณหน้าประตู 7 ภายหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยุติภารกิจเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายเมื่อวานนี้ (17 ก.พ.) ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 กองร้อย มาสับเปลี่ยนตรึงกำลังบริเวณหน้าประตู 7 เพื่อติดตามสถานการณ์และดูแลความเรียบร้อย โดยไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคล หรือบุคคลภายนอกผ่านเข้าออกภายในวัดได้

ขณะที่ถนนคลองหลวง บริเวณหน้าประตู 7 ตามปกติจะมีด่านของเจ้าหน้าที่ทหาร คอยตรวจรถยนต์ที่สัญจรไปมาผ่านในพื้นที่รอบวัดพระธรรมกาย แต่ขณะนี้ ไม่มีการตั้งด่านตรวจรถยนต์เหมือน 2 วันที่ผ่านมาแล้ว


ด้านพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส  ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า การตรวจค้น 2 วันที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี ขณะที่ทางวัดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน พร้อมขอบคุณคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่กังวล เรื่องคำสั่งของ คสช.มาตรา 44 เพื่อควบคุมพื้นที่รอบวัดพระธรรมกาย จึงได้เดินทางมาเฝ้าระวังและดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทางวัดจึงได้ชี้แจงกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ว่าเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจปฎิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีและมีความสุภาพเรียบร้อย

799พระสนิทวงศ์ กล่าวด้วยว่า ยังขอให้ คสช.และรัฐบาลพิจารณายกเลิกคำสั่งตามมาตรา 44 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการปฏิบัติตนตามกิจของพระสงฆ์ รวมถึงสามเณร ที่ช่วงนี้จะต้องเดินทางออกจากวัดเพื่อไปสอบโอเน็ต อีกทั้งยังขอให้เจ้าหน้าที่อนุญาตให้สามารถลำเลียงเสบียงอาหารเข้ามาภายในบริเวณวัดได้ เนื่องจากในพื้นที่ของวัดมีศิษย์ยานุศิษย์จำนวนมาก และไม่ได้สำรองเสบียงอาหารไว้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้พบกับพระธัมมชโยมา 8-9 เดือนแล้ว เนื่องจากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของพระธัมมชโย แต่มีหน้าที่ดูแลสื่อมวลชนเท่านั้น ส่วนศิษย์ยานุศิษย์ที่เดินทางมาที่วัดก็มาเพื่อสวดมนต์ เนื่องจากมีความเป็นห่วงวัดพระธรรมกาย โดยอาจมีการปักหลักสวดมนต์ในพื้นที่รอบวัด แต่ยืนยันไม่ได้เป็นการก่อม๊อบหรือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่

ส่วนกรณีที่ดีเอสไอพบการกักตุนน้ำมันภายในวัดพระธรรมกายเป็นจำนวนมากนั้น พระสนิทวงศ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูล ขอไปตรวจสอบรายละเอียดก่อน ซึ่งอาจจะเป็นน้ำมันรถที่ทางวัดได้เก็บไว้ เนื่องจากทางวัดมีรถยนต์หลายคัน


“วันนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้นำผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบเครื่องไฮเปอร์แบริกที่ติดตั้งอยู่ภายในตึกดาวดึงษ์ ขอยืนยันว่าไม่ใช่เครื่องเบบี้เฟส แต่เป็นเครื่องที่ช่วยเรื่องสุขภาพ เนื่องจากพระธัมมชโยมีอาการป่วยคือการอุดตันของเส้นเลือด จึงทำให้ขาบวมอย่างที่เป็นข่าว ส่วนอุโมงค์ใต้อาคารภาวนา 60 ปีที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเมื่อวานนี้ เป็นเพียงใต้ถุนอาคารที่ไว้เก็บปั้มน้ำเท่านั้น” พระสนิทวงศ์ กล่าว

808ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำโดย พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในอาคารดาวดึงส์ ภายหลังใช้อำนาจตามมาตรา 44 อายัดอาคารเพื่อตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นห้องที่รักษาอาการอาพาทของพระธัมมชโย พบเตียงนอน ถังออกซิเจน และเครื่องไฮเปอร์แบริคแชมเบอร์ ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้รักษาอาการอาพาทของพระธัมมชโย และยังพบเอกสารใบส่งมอบเครื่องดังกล่าว และอุปกรณ์การแพทย์หลายรายการจากโรงพยาบาลยันฮีในปี 2552 และปี 2557 อีกด้วย โดยการเข้าตรวจสอบครั้งนี้มีแพทย์ของวัดพระธรรมกายมาเป็นผู้ให้ข้อมูลทั้งหมด และหลังจากนี้ทาง อย.จะตรวจสอบและนำข้อมูลที่ได้ไปตรวจสอบก่อนส่งผลสรุปให้กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไออีกครั้ง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ลงพื้นที่ตรวจสอบหมู่บ้านสวนตะวันธรรม ริมคลอง 2 โดยได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ MS-24 เนื่องจากมีข่าวว่าพระธัมมชโยหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยเบื้องต้นพบพระสัญชาติอื่น 3 รูป ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จึงเข้าตรวจสอบ และดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวกับพระธัมมชโยอย่างละเอียด หลังจากนั้นจะสรุปผลการตรวจสอบและชี้แจงต่อสื่อมวลชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.ขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2

ศาล รธน. 30 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2 คลิปสนทนา “ฮุนเซน” ถึง 4 ส.ค.นี้ ชี้อนุญาตเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ยื่นแจงถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ที่เข้าชื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ผู้ถูกร้อง กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 และนางสาวแพทองธาร […]

โรงงานพลุระเบิด เสียชีวิต 9 ราย เจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุโรงงานพลุระเบิด ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง ความคืบหน้าเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่บ้านโพธิ์ทราย ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง รถยนต์ 1 คัน เบื้องต้นไม่พบใบอนุญาตทำพลุ เจ้าหน้าที่ EOD และพิสูจน์หลักฐานเร่งดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่ดินปืนยังปะทุไม่หยุด ลูกสาวของคนงานรายหนึ่งที่เข้าไปทำงานในบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า แม่ของตนปกติทำงานที่ไร่แตงโม เพิ่งมารับจ้างทำพลุลูกนกได้ประมาณ 2 วัน ตอนนี้พยายามโทรติดต่อแม่ แต่ติดต่อไม่ได้ ภาวนาขอให้แม่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์พลุระเบิดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เฉพาะที่ ต.บ้านโพธิ์ เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ปี 2549 ปี 2558 รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ […]

“พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญ ผช.ทูตทหารต่างชาติ ลงชายแดน

กลาโหม 30 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงพื้นที่ดูความเสียหายประชาชนจากการปฏิบัติของกัมพูชา พร้อมยืนยันประท้วงแน่ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ต้องบอกนานาชาติ ชี้เป็นธรรมชาติ “กัมพูชา” บิดเบือน แต่ไทยมีหลักฐานหมด ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ-เทคโนโลยี เข้าสู่กระบวนการเจรจา ยอมรับทำงานภายใต้แรงกดดัน วอนสื่อทำความเข้าใจ ชี้แจง ปชช. (30 ก.ค.68) เวลา 08.15 น. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีฝ่ายไทยเตรียมให้กองทัพบกประสานผู้ช่วยทูตทหารนานาประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่ชายแดนว่า จะพาไปดูความสูญเสียของพลเรือนที่ได้รับการปฏิบัติจากฝ่ายทหารกัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้สั่งการไปที่กองทัพบกเมื่อคืนนี้ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีประเทศใดบ้างเข้าร่วม ทั้งนี้พยายามประสานงานกับประเทศมาเลเซียให้มาดูเรื่องของสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย ส่วนกรณีเรื่องการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาที่มีการยิงตามแนวชายแดน เรื่องนี้ต้องมีการประท้วง และสื่อสารให้นานาชาติรับทราบ โดยได้ย้ำกับกองทัพบกให้สื่อสารทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งโฆษกทุกเหล่าทัพต้องช่วยกัน รวมทั้งของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หรือ ศบ.ทก. พร้อมย้ำว่า หลักของการหยุดยิงตามข้อตกลงคือ ทุกหน่วยต้องหยุด อยู่กับที่ และรอจนกว่า จะมีผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธการละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงนั้น […]

สภาฯ ยืนไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบชายแดน

รัฐสภา 30 ก.ค.- “สภาฯ” ยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “ครูมานิตย์” ชื่นชมทหารกล้า ลั่นถ้าไม่มีอาวุธที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตัวเอง เผย ไปนั่งเฝ้าที่ศูนย์อพยพ มีทั้งจิตตก ซึมเศร้า กินข้าวไม่ได้ ต้องกินกาแฟแทน เพราะคิดถึงบ้าน พร้อมเสนอลดค่าน้ำ ค่าไฟ บ้านที่ผู้อพยพไปอยู่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงหารือ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือถึงปัญหาการสู่รายแดนไทย กัมพูชา ว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงปัจจุบัน ที่เกิดเหตุรุนแรงการสู่รบในหลายจังหวัด ซึ่ง จังหวัดที่โดนรุนแรงมากที่สุดคือจ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเพราะมีประสาทต่างๆแและอันดับสองคือจังหวัดศรีสะเกษซึ่งมีหลายมิติ แต่มิติแรกที่จบไปโดยตัวมันเองว่าทหารมีไว้ทำไม ถ้าไม่มีทหารไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตนด้วย เพระายุทธวิธีในวันนั้นเห็นได้ชัด ก่อนที่จะชะลอการหยุดยิง เพราะตนยังไม่เชื่อว่าจะยุติโดยสิ้นเชิง เพราะตนอยู่ในพื้นที่ แต่ทหารเรามีความกล้าหาญและมียุทธวิธีที่ดีประคับประคองคิดพื้นที่ไม่ให้พี่น้องเราเดือดร้อนไปมากกว่านี้ “เสียใจกับ 15 วีรบุรุษ จึงขอฝากทางราชการว่าอะไรที่มอบให้เขาได้ใหญ่ก็มอบให้เถอะไม่ว่าจะเป็นการชดเชยให้กับครอบครัว หรือเพิ่มยศให้กับเขาให้โอกาสลูกของเขา ผมเกิดมาก็เพิ่งเห็นเที่ยวนี้ว่าเอฟ […]