ยธ.21ก.พ.-ครอบครัวของผู้ต้องหาในคดีชิงทรัพย์ สน.บางนา เข้าร้องเรียนกับรองปลัดฯยุติธรรม หลังพบมีหลักฐานยืนยันได้ไม่ใช่ผู้กระทำผิดตัวจริง
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรม นำนายสวัสดิ์ จันทะรัตน์ พยานบุคคลคนสำคัญที่ยืนยันว่านายกนกพรหม ขานฤทธี ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีชิงทรัพย์ ในพื้นที่ สน.บางนา ไม่ใช่ผู้กระทำผิดตัวจริง พร้อมครอบครัวผู้ถูกดำเนินคดี เข้าพบ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแนวทางในการขอรื้อฟื้นคดี
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากครอบครัวของนายกนกพรหม ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ในพื้นที่ สน.บางนา ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุก 23 ปี อาจไม่ใช่ผู้ต้องหาตัวจริงในคดีดังกล่าว เนื่องจากวันเกิดเหตุวันที่ 5 สิงหาคม 2551 คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน บพล 893 กทม. ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่โรงพยาบาลบางนา 1 และได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในจุดเกิดเหตุ เมื่อตรวจสอบพบว่า รถทะเบียนดังกล่าว มีชื่อ นายสมพงษ์ ขานฤทธี ซึ่งเป็นลุง ของนายกนกพรหม ผู้ที่ถูกดำเนินคดดีเป็นเจ้าของ แต่ผู้เสียหายให้การว่าคนร้ายเป็นกลุ่มวัยรุ่น
ตำรวจจึงตรวจสอบข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์พบนายกนกพรหม ซึ่งเป็นหลาน มีรูปพรรณ อายุ ใกล้เคียงกับคำให้การของผู้เสียหาย และเมื่อให้ผู้เสียหายชี้ตัวผู้กระทำผิดก็ยืนยันว่าเป็นนายกนกพรหม
อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้ากระทรวงยุติธรรมสอบสวนหาหลักฐานนานกว่า 1 ปี พบว่า รถคันนี้มีการขายทอดตลาดจากบริษัทไฟแนนซ์มาแล้ว 3 ครั้ง โดยมีนายสวัสดิ์ จันทะรัตน์ เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้าย โดยซื้อมาจากร้านขายรถมือ 2 และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน ซึ่งถือเป็นพยานคนสำคัญที่จะนำไปสู่การรื้อฟื้นคดี ระบุว่า วันเกิดเหตุ รถของตัวเองถูกนายนิกร ไหมวงศ์ วัยรุ่นที่อยู่ใกล้บ้านขโมยไป ซึ่งมีพฤติกรรมขโมยของและมีคดีจี้ชิงทรัพย์ติดตัวหลายคดี จึงเชื่อได้ว่านายกนกพหรหมที่ถูกจำคุกมาแล้ว 6 ปี ไม่ใช่เป็นผู้กระทำผิดตัวจริง เนื่องจากไม่ได้ครอบครองรถดังกล่าว
หลังจากนี้กระทรวงยุติธรรม จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อยื่นต่อศาลอาญาขอรื้อฟื้นคดีใหม่ภายใน1เดือนนี้ .-สำนักข่าวไทย