fbpx

กรมศุลกากร มั่นใจมีหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดการนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี

กรมศุลกากร 29 ธ.ค. – กรมศุลกากร มั่นใจมีหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดการนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี ขณะที่บริษัทซุปเปอร์ซาร่ายังยืนยันจะมานำรถออกภายในวันที่ 5 มกราคมนี้


นายชัยยุทธ  คำคุณ  รองอธิบดีกรมศุลกากรและโฆษกกรมศุลกากร  เปิดเผยว่า กรมศุลกากรมีหลักฐานครบถ้วนที่จะยืนยันได้ว่า บริษัท  ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คัน ให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)  มีการนำเข้ารถเมล์โดยไม่ได้เป็นไปตามข้อตกลงสนธิสัญญาเขตการค้าเสรีกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน (Form D) โดยมีการสำแดงถิ่นกำเนิดไม่ถูกต้องตามที่แจ้งไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมด เนื่องจากอาจส่งผลต่อรูปคดี ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร Form D กับทางประเทศมาเลเซีย พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ถ่วงเวลาหรือจับกุมเพื่อรับเงินสินบนรางวัลนำจับแต่อย่างใด เพราะเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่

ทั้งนี้ บริษัท  ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด  ได้แจ้งกับกรมศุลกากรว่า จะขอวางเงินประกันเพื่อนำรถเมล์เอ็นจีวี 1 คันแรกที่ยื่นใบขนแล้วออกไปก่อน ซึ่งจะต้องเสียภาษีนำเข้าร้อย 40 พร้อมค่าปรับอีก 2 เท่า  รวมเป็นเงิน 3.7 ล้านบาท แต่ยังไม่ระบุว่าจะนำเงินค่าปรับและเงินประกันมาวางเมื่อใด ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายตามสัญญาส่งมอบรถ โดยกรมศุลกากรเปิดให้สามารถมาชำระได้ตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมปล่อยรถได้ทันที


ส่วนอีก 99 คันที่ยื่นใบขนแล้วนั้น หากบริษัทต้องการนำรถออกไป ต้องเสียภาษีบวกค่าปรับอีก 370 ล้านบาท

สำหรับ รถเมล์เอ็นจีวีอีก 291 คันที่นำเข้ามาแล้ว ซึ่งยังไม่ได้แสดงใบขนสินค้านั้น เบื้องต้นทางบริษัทแจ้งว่าอาจจะมีการวางแบงก์การันตีเพื่อนำรถออกไปก่อน โดยเสียภาษีนำเข้าร้อยละ 40 และภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 รวมเป็นเงิน 422 ล้านบาท หรือเฉลี่ยคันละ 1.45 ล้านบาท ซึ่งกรมศุลกากรจะให้เวลา 2  เดือน 15 วัน หากไม่มีการวางแบงก์การันตี รถจำนวนนี้จะถูกยึดเป็นของรัฐ แล้วนำมาขายทอดตลาดในราคาคุ้มค่ากับภาษีอากรที่ต้องเสียด้วย

สำหรับ รถเมล์ทั้งหมด 391 คัน ทางบริษัทยังยืนยันกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรว่าจะนำออกทั้งหมดภายในวันที่ 5 มกราคมนี้ส่วนรถเมล์เอ็นจีวีอีก  98 คัน ยังอยู่ที่ท่าเรือประเทศมาเลเซีย อย่างไรก็ดี กรณีที่บริษัทจะผิดสัญญากับขสมก.หรือไม่ หากส่งมอบรถไม่ทัน หรือส่งมอบรถเมล์ไม่ครบตามจำนวนนั้น ขึ้นอยู่กับทางขสมก.จะพิจารณาต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว