กรุงเทพฯ 2 ม.ค.- นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ในฐานะโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้ ว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.ตั้งเป้าหมายจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศไว้รวม 800,000 คัน ยอดส่งออก 1.2 ล้านคัน ยอดผลิตรวม 2 ล้านคันโดยภาพรวมดีกว่าปีที่ผ่านมา ที่ยอดผลิตรวม 1.95 ล้านคัน
ปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากโครงการลงทุนภาครัฐ ซึ่งเมื่อมีการลงทุนเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ภาคเอกชนก็จะลงทุนตามซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศให้ขยายตัว ขณะที่ด้านการท่องเที่ยวก็จะปรับตัวดีขึ้นแล้วตั้งแต่ปลายปีนี้ ผลผลิตพืชไร่และสินค้าเกษตรต่างๆ เชื่อว่า จะมีแนวโน้มว่ามีจะผลผลิตออกมาดีเนื่องจากไม่มีปัญหาภัยแล้งอย่างปีที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณน้ำสะสมมีเพียงพอสำหรับการทำการเกษตร
นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านการอัดฉีดด้วยมาตรการต่างๆ ปัจจัยเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวดีขึ้น ดังจะเห็นได้จากในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งในส่วนของรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถปิคอัพขนาด 1 ตัว ยอดขายปรับตัวดีขึ้นมาก จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่ากำลังซื้อและเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวแล้ว
ด้านการส่งออกรถยนต์ปีที่ผ่านมามียอดรวมที่ 1.18 ล้านคัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.2 2 ล้านคัน ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยไม่ดีเท่าที่ควร สำหรับเป้าหมายส่งออกรถยนต์ปีนี้ตั้งไว้ที่ 1.2 ล้านคันโดยจะต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน ในปีนี้หากปรับตัวสูงขึ้นอยูในระดับประมาณ 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ก็จะส่งผลดีต่อกำลังซื้อของประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก และช่วยให้การส่งออกรถยนต์ของไทย จะเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้น
ส่วนสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่จะมีผลต่อกำลังซื้อรถยนต์ในประเทศนั้น ส.อ.ท.เชื่อว่า ภาวะหนี้ครัวเรือนของไทยในภาพรวมที่อยู่ประมาณร้อยละ 81 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ก็จะค่อยๆ ปรับตัวลดลงตามเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น-สำนักข่าวไทย
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/07/1485974/1738925766_457814-tnamcot.jpg)