กรุงเทพฯ 2 ม.ค.-กระทรวงพาณิชย์เผยปี ‘59 ต่างชาติทำธุรกิจในไทย 352 ราย มีเม็ดเงินลงทุน 7,443 ล้านบาท ญี่ปุ่นครองแชมป์อันดับ 1 ปีนี้ คาด ธุรกิจบริการเกี่ยวกับด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยจะมีการเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยจำนวน 352 ราย ลดลงร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปี58 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ที่ส่งผลต่อจิตวิทยาในการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติที่ยังคงรอความมั่นใจในสภาวะเศรษฐกิจโลกให้นิ่งและมั่นคงมากขึ้น
สำหรับมูลค่าการลงทุน ในธุรกิจของคนต่างด้าวในปีที่ผ่านมามีจำนวน 7,443 ล้านบาท ประเทศที่ได้รับอนุญาต’ให้ประกอบธุรกิจตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น คิดเป็นร้อยละ 40 สิงคโปร์ ร้อยละ 14 และจีน ร้อยละ 7 ประเภทธุรกิจ ที่คนต่างด้าวมาลงทุนมากที่สุด 5 ประเภทคือ ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ คิดเป็นร้อยละ 33 จำนวนเงินลงทุน 1,969 ล้านบาท ธุรกิจบริการสำนักงานผู้แทน คิดเป็นร้อยละ 27 จำนวนเงินลงทุน 303 ล้านบาท 3. ธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง คิดเป็นร้อยละ 15 จำนวนเงินลงทุน 574 ล้านบาท 4.ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐและเอกชน คิดเป็นร้อยละ 14 จำนวนเงินลงทุน 3,248 ล้านบาท และ 5.ธุรกิจบริการแก่คู่ค้า/ลูกค้าอื่น คิดเป็นร้อยละ 11 จำนวนเงินลงทุน 1,349 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธุรกิจต่างชาติยังจ้างงานและสร้างรายได้’ ให้แก่คนไทย 7,000 คน ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมพัฒนาทักษะ สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ และเปิดรับนวัตกรรมที่ทันสมัยจากนักลงทุนต่างชาติภายใต้เงื่อนไขการถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยปีที่ผ่านมา แรงงานไทยได้รับการพัฒนาทักษะในด้านที่มีผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ 4 ด้านคือ ด้านยานยนต์ พลังงาน การก่อสร้าง และด้าน ICT การพัฒนาโปรแกรม Cloud ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลับที่เกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับแนวโน้มการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในปีนี้ คาดการณ์ว่า ธุรกิจที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น คือ ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบาย Thailand 4.0 ที่เน้นเรื่องการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ ในการประกอบธุรกิจ และรูปแบบการทำธุรกิจในปัจจุบันจะเป็นการทำธุรกิจผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น-สำนักข่าวไทย
Top Viewed • อ่านมากสุด
ดูทั้งหมด
เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว
คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย
ออกหมายจับ “เอกภพ สายไหมต้องรอด”
ออกหมายจับ “เอกภพ สายไหมต้องรอด” ข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมฯ ปมโพสต์ข้อมูลเท็จดิไอคอน
ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.
ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ
ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน
ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
ข่าวแนะนำ
โดราเอมอนรันสนามสุดท้าย เชียงใหม่ สุดคึกคัก
Doraemon Run 2024 Thailand By MCOT @Chiangmai สนามสุดท้าย ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สุดคึกคัก
“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ
ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66
น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว
มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่
“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี
“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.