ผบช.น.พอใจภาพรวมปีใหม่ไร้เหตุรุนแรง

กรุงเทพฯ 2 ม.ค.-พล.ต.ท.ศานิตย์ พอใจภาพรวมการรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่ไร้เหตุรุนแรง ส่วนโครงการรีเซ็ตใบสั่งยอดถึง 7,000 รายแล้ว


พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภาพรวมการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่นับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ยังไม่มีการรายงานเหตุร้ายที่กระทบต่อความมั่นคง โดยเฉพาะในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีเพียงรายงานเหตุจับกุมดำเนินคดีชายชาวต่างชาติ 1 คน ที่จุดพลุดอกไม้ไฟ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนตามคำสั่ง คสช.ที่ 27 เท่านั้น

ส่วนการจราจรในภาพรวมอยู่ในสภาพคล่องตัว ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบมีปัญหาติดขัดในจุดใดก็จะเร่งเข้าไปแก้ไขโดยทันที


ทั้งนี้ ยืนยันว่าตำรวจมีแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชนในช่วงเย็นวันนี้ต่อเนื่องไปถึงวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการบริหารจัดการแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการรีเซ็ตใบสั่งที่เป็นนโยบายอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนซึ่งกระทำผิดเพียงเล็กน้อย เบื้องต้นมีจำนวนผู้มาชำระค่าปรับประมาณ 7000 รายแล้ว และเชื่อว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการจะมีผู้ชำระค่าปรับอยู่ที่หลักไม่เกินหมื่นราย ซึ่งยืนยันว่าเป็นมาตรการที่ใช้เฉพาะช่วงปีใหม่ถึงวันที่ 4 มกราคมนี้เท่านั้น ยังไม่มีแผนจะใช้ในระยะยาว เพราะเกรงจะกระทบกับการบังคับใช้กฎหมายในอนาคต

ส่วนกรณีมีการโพสต์คลิปภาพหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งใช้อาวุธคล้ายปืนยิงออกนอกหน้าต่างรวมหลายนัดลงในเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อผู้โพสต์ว่า “Sudarat Sukseangjan” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และมีการแชร์ส่งต่อกัน จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมนั้น

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลระบุว่า ทราบเรื่องดังกล่าวและได้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งสืบหาข้อมูล จนขณะนี้พอจะทราบชื่อ-ที่อยู่ของผู้ที่อยู่ในคลิปวิดีโอแล้ว เบื้องต้นเป็นสาววัยรุ่นอายุ 23 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในภาคกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบสถานที่ก่อเหตุว่าจะเป็นที่ใด หากเป็นการก่อเหตุในพื้นที่ต่างจังหวัดก็จะประสานให้พื้นที่รับไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนอาวุธที่ใช้ยิงในคลิปวิดีโอเบื้องต้นยังไม่ขอยืนยันว่าเป็นอาวุธปืนจริงหรือเป็นเพียงปืนบีบีกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นอาวุธใด เมื่อมีการยิงแล้วก็เข้าข่ายเป็นความผิด ฐานใช้อาวุธปืนยิงโดยไม่มีเหตุอันควร มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และไม่จำเป็นต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ก็สามารถดำเนินคดีได้ทันที สำหรับเหตุในลักษณะดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการก่อเหตุในลักษณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ.-สำนักข่าวไทย


 

 

 

 

 

 

 

.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว