ปราจีนบุรี 2 ม.ค.-ความคืบหน้าจระเข้บนเขาใหญ่ กัดนักท่องเที่ยวหญิงชาวฝรั่งเศสขณะเข้าไปถ่ายรูปแล้วลื่นล้ม จนทำให้จระเข้ตกใจงับที่ต้นขาซ้าย อาการสาหัสเมื่อวานนี้ ล่าสุดอาการของผู้บาดเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้ว
ความคืบหน้าช่วงค่ำวานนี้ (1 ม.ค. 2560 ) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นำนางสาวเบเนทลีเออร์ เลสเออร์เฟลอ อายุ 41 ปี ชาวฝรั่งเศสไปส่งที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ในสภาพต้นขาซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ จากการถูกจระเข้ กัด ขณะลงไปถ่ายรูปกับจระเข้บนเขาใหญ่
โดยนักท่องเที่ยวหญิงชาวฝรั่งเศสคนนี้เดินทางมาท่องเที่ยวกับสามี โดยในช่วงก่อนเกิดเหตุสองสามีภรรยาได้เดินเลาะตามลำธารน้ำตกผากล้วยไม้ เพื่อไปน้ำตกเหวสุวัต ขณะนั้นทั้งสองคนพบจระเข้นอนอยู่ริมลำธาร นางเบเนทลีเออร์ต้องการที่จะถ่ายภาพกับจระเข้เป็นที่ระลึก จึงขอให้สามีช่วยถ่ายรูปให้ โดยเธอได้เดินลงไปริมลำธารใกล้กับจระเข้ ทั้งที่ในบริเวณนั้นมีป้ายเตือนอย่างชัดเจนแต่หลังจากถ่ายรูปกับจระเข้เสร็จ ขณะที่นางเบเนทลีเออร์กำลังปีนขึ้นจากลำธาร เกิดเสียหลักลื่นล้ม ทำให้จระเข้ที่นอนหลับตกใจแล้วพุ่งเข้ามางับที่ต้นขาซ้ายของนางเบเนทลีเออร์จนเป็นแผลเหวอะหว่ะ ก่อนที่สามีและนักท่องเที่ยวชาวไทยอีก 2 คน จะช่วยเธอขึ้นมาได้ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานทราบ และนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ล่าสุด (2 ม.ค. 60) ผู้สื่อข่าวสอบถามอาการผู้บาดเจ็บกับทาง แพทย์โรงพยาบาลอภัยภูเบศร ทราบว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว และแผลไม่มีการติดเชื้อ แต่ยังคงต้องพักฟื้นต่อไปอีกระยะ และไม่อนุญาตให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กำลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุจระเข้กัดนักท่องเที่ยว เปิดเผยเบื้องต้นว่า หลังเกิดเหตุได้เพิ่มเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบ และข้อห้ามของอุทยานให้มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มจำนวนป้ายเตือน โดยจระเข้ดังกล่าวมีอยู่เพียง 1 ตัว อาศัยอยู่มากกว่า 5 ปี คาดว่าเป็นจระเข้พันธุ์ไทย แต่ยังไม่สามารถเจาะเลือดมาตรวจสอบได้ ที่ผ่านมา อาศัยอยู่และยังไม่เคยมีพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้มาก่อน .-สำนักข่าวไทย