กทม. 19 ธ.ค.-มารดาเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กล่าวทั้งน้ำตาอโหสิกรรมให้กับหมอนิ่ม หลังศาลสั่งประหารชีวิต ฐานจ้างวานฆ่าสามี ยอมรับเป็นห่วงหลานทั้ง 2 คนมาก
คดีนี้มีผู้ต้องหา 5 คน คือ นายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย มือปืน, นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาหมอนิ่ม, แพทย์หญิงนิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ภรรยานายจักรกฤษณ์, นายสันติ ทองเสม ทนายความ และนายธวัชชัย เพชรโชติ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้มือปืน เป็นจำเลยที่ 1- 5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จ้างวานใช้ ยุยงส่งเสริมให้ฆ่า มีและพกพาอาวุธปืน ยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556 และอัยการสั่งฟ้องคดีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 โดยบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างเดือนสิงหาคม-19 ตุลาคม 2556 นางสุรางค์, หมอนิ่ม และนายสันติ ได้ร่วมกันจ้างวานนายจิรศักดิ์และนายธวัชชัย ฆ่านายจักรกฤษณ์ โดยใช้อาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นโตกาเรฟ ขนาด7.62 มม. ยิงเข้าที่หน้าอก หัวใจ ปอด จนถึงแก่ความตาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้ทั้งหมด โดยในชั้นสอบสวน นายจิรศักดิ์ และนางสุรางค์ ให้การภาคเสธ ส่วนหมอนิ่ม และนายสันติ ทนายความ ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และศาลให้ประกันตัวนางสุรางค์, หมอนิ่ม และนายสันติ ด้วยหลักทรัพย์คนละ 500,000 บาท
คดีสืบพยานเสร็จสิ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และมีการอ่านคำพิพากษาในวันนี้ โดยนางสุรางค์, หมอนิ่ม และนายสันติ ได้เดินทางมาฟังคำตัดสิน ส่วนนายจิรศักดิ์และนายธวัชชัยถูกคุมตัวมาจากเรือนจำ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ โดยมีพยานเบิกความว่า รู้จักกับหมอนิ่มมานานกว่า 9 ปี และทราบว่าหมอนิ่มถูกผู้ตายทำร้าย โดยขอให้หาคนมาจัดการ จึงแนะนำให้รู้จักกับนายสันติ และมีการส่งเงินให้นายสันติ แต่ภายหลังมีพยานเบิกความว่า นางสุรางค์เป็นผู้จ่ายเงินให้นายสันติ ขณะที่ตำรวจเบิกความเป็นพยาน สรุปสาเหตุการสังหารเกิดจากปัญหาในครอบครัว โดยมีพยานเบิกความสนับสนุนอีกว่าได้คบหากับผู้ตายและเคยพบกับหมอนิ่ม ทำให้ผู้ตายเกิดความไม่พอใจ ก่อนที่หมอนิ่มจะพามารดาเข้าร้องทุกข์ว่าถูกผู้ตายทำร้ายร่างกาย นำไปสู่การจับกุมผู้ตาย ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง และผู้ตายพบว่าทรัพย์สินในตู้เซฟธนาคารหายไป จึงแจ้งความดำเนินคดีกับหมอนิ่ม และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ประกอบกับการตรวจสอบโทรศัพท์ของนายจิรศักดิ์และนายธวัชชัย พบว่ามีความเชื่อมโยงกับนายสันติ และนายจิรศักดิ์ได้ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่ารู้จักกับนายสันติและนายธวัชชัย ประกอบกับคำเบิกความของนายธวัชชัยก็รับสารภาพสอดคล้องกับนายจิรศักดิ์
จากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานมีน้ำหนักว่า นายจิรศักดิ์, หมอนิ่ม, นายสันติ และนายธวัชชัย ร่วมกันกระทำผิดตามฟ้อง ศาลจึงพิพากษาประหารชีวิตหมอนิ่มและนายสันติ ส่วนนายจิรศักดิ์ มือปืน และนายธวัชชัย คนขี่รถจักรยานยนต์ ให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกตลอดชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน พร้อมให้นายจิรศักดิ์, หมอนิ่ม และนายสันติ ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้โจทก์ร่วมรวม 2,500,000 บาท ส่วนนางสุรางค์ มารดาหมอนิ่ม ยังไม่มีพยานหลักฐานให้เชื่อได้ว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิด จึงพิพากษายกฟ้อง
หลังฟังคำตัดสิน นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความของหมอนิ่ม ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ พร้อมยื่นหนังสือเดินทางเป็นหลักประกันว่าจำเลยจะไม่หลบหนี โดยศาลมีคำสั่งส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อไป จึงต้องส่งตัวจำเลยไปควบคุมที่เรือนจำก่อน
ด้านนางสมคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดาเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมารู้สึกทุกข์ใจมาโดยตลอด และได้อโหสิกรรมให้กับผู้กระทำผิดมานานแล้ว ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงหลานทั้ง 2 คนมาก.-สำนักข่าวไทย