สธ.เอาจริงจับร้านบุฟเฟต์เหล้า แชร์ต่อโลกโซเซียล

สำนักข่าวไทย 20 ธ.ค. -หมอสมาน เอาผิดร้านบุฟเฟ่ต์เหล้าเชียงราย ชี้ใช้กลยุทธ์การตลาดช่วงปีใหม่ ล่อให้คนแชร์ต่อ ย้ำคนแชร์มีความผิด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ตกเป็นเครื่องมือโฆษณาให้ฟรีโดยไม่รู้ตัว


นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการโพสต์ภาพโปรโมชั่นบุฟเฟต์เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถดื่มได้ไม่อั้น  ในราคา190บาท จนมีการแชร์ส่งต่อภาพในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก ว่า เข้าใจว่าเป็นเทคนิคกลุยุทธ์ทางการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กำลังระบาดหนักในช่วงใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงพื้นที่ตรวจสอบจะไม่พบหลักฐาน แต่จากภาพที่ปรากฎสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ว่าเข้าข่ายโฆษณาสื่อสารการตลาด มีความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ.2551 มาตรา32 ที่ระบุ   ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือแสดงเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือเป็นการชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม มีโทษจำคุกไม่เกิน1ปี ปรับไม่เกิน5แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวัน5หมื่นบาท จนกว่าจะเลิกกระทำการดังกล่าว นอกจากนี้หากสืบทราบว่ามีการลดแลกแจกแถม ส่งเสริมการขายจะเข้าข่ายความผิดมาตรา30 โทษจำคุก6เดือน ปรับ1หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นกรณีนี้มีความผิดตามหลักฐานที่มีการแชร์ข้อมูลและภาพชัดเจน

ด้านผศ.ดร.นิษฐา หรุ่นเกษม เครือข่ายนักวิชาการเฝ้าระวังธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า  มุมมองในทางนิเทศศาสตร์ ถือว่าร้านเหล้ารายนี้ประสบความสำเร็จในการทำการตลาด ด้วยกลยุทธ์ แฮกเกอร์มาร์เก็ตติ้ง คือ สร้างเรื่องราว สร้างจุดเด่น สร้างความพิเศษแปลกใหม่ มีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น นำขวดมาเรียงต่อกัน สามารถเดินกดดื่มได้ทั่วร้าน จากนั้นโพสต์เชิญชวนผ่านสังคมออนไลน์  ซึ่งจะกระตุ้นอารมณ์เกิดการแชร์ แท็กเพื่อนเข้าไปดู ทำให้คนอยากรู้จักว่าร้านนี้ตั้งอยู่ที่ไหน โดยที่ไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณา  อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนประชาชนว่า ว่าอย่าไวในการแชร์ต่อ ต้องมีสติ เพราะเราเป็นผู้บริโภคไม่ใช่ลูกจ้างร้านเหล้า แม้จะอ้างว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่การกดแชร์เท่ากับไปโฆษณาให้ร้านเหล้า เหมือนเป็นลูกจ้างแต่ไม่ได้เงิน  ถูกหลอกใช้งานฟรี แถมสุ่มเสี่ยงมีความผิดตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง