กรมธนารักษ์ 23 พ.ย. – กรมธนารักษ์ร่วมกับเอกชนทุ่มงบกว่า 5,000 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราด คาดเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวสูงขึ้นถึง 6 เท่า เตรียมเปิดประมูลพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดอื่น ม.ค.ปี 60
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นประธานการลงนามสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตราด ระหว่างกรมธนารักษ์และบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับสิทธิการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตราด
ทั้งนี้ พร็อพเพอร์ตี้ฯ เสนอโครงการลงทุนภายใต้วิสัยทัศน์ ” Golden Gateway ” เปิดประตูการค้าและการท่องเที่ยวสู่ภูมิภาค วางเป้าหมายจังหวัดตราดเป็น “เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวนานาชาติ เมืองอาหารปลอดภัย และเมืองบริการการค้าระหว่างประเทศครบวงจร” บนพื้นที่ 895 ไร่ โดยจะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาพื้นที่ประมาณ 5 -8 ปี
สำหรับแผนแม่บทการใช้ประโยชน์ที่ดินแบ่งเป็น โซนพื้นที่สีเขียว ประกอบด้วย ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลน อนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะพื้นที่สีเขียวและแหล่งน้ำ ศูนย์บริการชุมชน ศูนย์ราชการ โซนพาณิชยกรรม ประกอบด้วย โรงพยาบาล ศูนย์แสดงสินค้าท้องถิ่นและนานาชาติ ตลาดนัดชุมชนและตลาดชายแดน ศูนย์สินค้า OTOP และลานกิจกรรม ตลาดผัก ผลไม้ โซนพักผ่อนหย่อนใจ ประกอบด้วย โรงแรม 2 แห่ง และสวนสนุก โซนอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ เป็นเขตอุตสาหกรรมการเกษตร
ส่วนการดำเนินการตามแผน Trat – Golden Gateway คาดว่าจะทำให้จังหวัดตราดเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวนานาชาติเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวถึง 6 เท่า เป็น 80,413 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันจังหวัดตราดมีรายได้ด้านการท่องเที่ยว 13,162 ล้านบาทต่อปี เป็นเมืองอาหารปลอดภัยสร้างรายได้ 50,000 ล้านบาทต่อปี จากเดิมมีรายได้ 17,756 ล้านบาทต่อปี และเป็นเมืองบริการการค้าระหว่างประเทศครบวงจร สร้างรายได้ 65,000 ล้านบาทต่อปี จากเดิมรายได้ 26,118 ล้านบาทต่อปี
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตราดมีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเช่าที่ดินกว่า 2,000 ล้านบาทต่อ 50 ปี และเงินลงทุน 3,000 ล้านบาท โดยเตรียมลงพื้นสำรวจและวางแผน Master Plan ก่อนยื่นแบบ EIA คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และคาดว่าจะสามารถเริ่มลงทุนช่วงปลายปี 2560 โดยจะมุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 52 เกาะของจังหวัดตราดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และยกระดับสนามบินจังหวัดตราดให้เป็นสนามบินนานาชาติ พร้อมพัฒนาท่าเรือคลองใหญ่ให้เป็นท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าเกษตร โดยจะผลักดันให้จังหวัดตราดติด 1 ใน 5 ด้านการท่องเที่ยวรองจากภูเก็ต พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านคน เป็น 5 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะคืนทุนภายใน 6 ปี
อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์จะเปิดประมูลสรรหาเอกชนลงทุนพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย มุกดาหาร และตาก ประมาณเดือนมกราคม 2560 คาดว่าจะได้รับความสนใจจากภาคเอกชนเป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย