พช.ชวนเที่ยวงานโอทอป ช้อปของขวัญปีใหม่

เมืองทองธานี 10 พ.ย.- อธิบดี พช. เชิญชวนคนไทยส่งความสุขปีใหม่ด้วยกระเช้าของขวัญ OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมชวนเลือกซื้อในงาน OTOP City 2020 จัดขึ้น 19 – 27 ธ.ค. 2563 อิมแพ็ค เมืองทองธานี


วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธี งานแถลงข่าว “รณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่” เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีช่องทางการตลาด มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สู่หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ

ในการนี้ นางสาววรัญญา หอมธูป กรรมการผู้จัดการ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท โอทอปอินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนบริษัทประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มผู้ประกอบการเครือข่าย OTOP พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ตลอดจนภาคเอกชนและสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีจำนวนมาก ณ ห้องประชุม 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า การจัดงานแถลงข่าววันนี้เป็นงานที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านโดยแท้จริง เพราะผลิตภัณฑ์ชุมชนที่นำมาเป็นกระเช้าของขวัญเหล่านี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่พี่น้องประชาชนรวมตัวกัน เกิดจากสติปัญญา ความขยัน ความเพียร ความอดทนเอาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ มาผลิตเป็นสินค้าโดยรวมตัวเป็นกลุ่ม OTOP กลุ่มสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่มีสมาชิกกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ มารวมตัวกันเพื่อสร้างชีวิตที่ดีให้กับครอบครัว ประเด็นสำคัญคือ คนไทยด้วยกันก็ต้องช่วยกันอุดหนุน เพราะฉะนั้นในช่วงทุกๆโอกาส หากเรานึกถึงคนไทยด้วยกันเราต้องนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่คนไทยด้วยกันใช้ภูมิปัญญาผลิตขึ้นมา โดยในช่วงที่ใกล้เทศกาลปีใหม่นี้ ทางกรมการพัฒนาชุมชน กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP กลุ่ม OTOP Trader บริษัทประชารัฐรักสามัคคี กลุ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี อยากจะสื่อสารให้ทราบว่าหากพี่น้องประชาชนต้องการส่งความสุข ความปรารถนาดีให้กัน ขอให้นึกถึง สินค้าOTOP สินค้าของกลุ่มสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สินค้าที่เป็นของคนไทยด้วยกัน ฉะนั้น การจัดงานในวันนี้ เราได้จัดเทศกาลส่งความสุขให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศทุกฝ่าย สุขใจทั้งผู้ผลิต ผู้ให้ ผู้ที่ได้รับมอบของขวัญ ให้มีความสุขและจะเป็นความสุขที่รายได้กระจายสู่ท้องถิ่น อยู่บนพื้นฐานที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติมีความมั่นคงและความเข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ โดยปัจจุบันมีประชาชนสนใจมาลงทะเบียนเป็นผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 90,289 ราย มีผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 198,988 ผลิตภัณฑ์ มีผลิตภัณฑ์ ระดับ 3 – 5 ดาว จำนวน 17,010 ผลิตภัณฑ์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563) และมียอดจำหน่ายในปีงบประมาณ 2563 ถึง 258,307 ล้านบาท ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังหมู่บ้าน/ตำบลทั่วประเทศ เป็นไปตานโยบายของรัฐบาลและในปีที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ ให้มีการรณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP โดยนำผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิโครงการหลวง และผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นของขวัญ ของที่ระลึกเทศกาลปีใหม่ 2563 มียอดการจำหน่ายกระเช้าของขวัญ ของฝาก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ถึง เดือนมกราคม 2563 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 33,316,551 บาท ซึ่งถือได้ว่ามีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จ ยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดงานแถลงข่าว รณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝาก ช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ OTOP ส่งเสริมให้ประชาชนได้ส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาของคนไทย รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ให้มีช่องทางการตลาด มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยกรมการพัฒนาชุมชน มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ให้เกิดความเข้มแข็งภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการประชาสัมพันธ์ในการรณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามสถานที่ราชการ เอกชน รวมทั้งในเว็บไซต์ของกรมการพัฒนาชุมชน และได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด จัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์ OTOP ในรูปแบบกระเช้าของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่ ประกอบด้วย ภาพถ่ายกระเช้าของขวัญ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ในกระเช้าของขวัญ ราคา ชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ผู้ติดต่อประสานงาน หรือเว็บไซต์ที่มี เพื่อให้ประชาชนที่สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้โดยตรง อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจาก บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด, OTOP Trader, เครือข่าย OTOP, กลุ่มสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่มีอยู่ทุกจังหวัดเป็นตัวกลางในการพัฒนารูปแบบกระเช้าของขวัญ ของฝากให้เป็นที่น่าสนใจ และเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายอีกทางหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ OTOP นั้นล้วนแล้วแต่เป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทย ที่ทรงคุณค่า ถูกใจทั้งผู้ซื้อ และผู้รับกระเช้าของขวัญปีใหม่ มีที่น่าสนใจหลากหลายมากครับ มาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกระเช้าของฝากทั่วไทย จากศูนย์โอทอปคอมเพล็กซ์พุแค จังหวัดสระบุรี ในกระเช้านั้นจะรวบรวมผลิตภัณฑ์ OTOP จากหลากหลายกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการในทุกภูมิภาค, กระเช้าของขวัญจากบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด,กระเช้าของขวัญจาก OTOP Trader, กระเช้าของขวัญจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และจากสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชน ตั้งเป้าหมายในการรณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยหวังว่าในปีนี้จะมียอดจำหน่าย ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานนั้น เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์จาก ภูมิปัญญาของคนไทย และสร้างช่องทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้น ประชาชนทั่วไปได้รู้จักผลิตภัณฑ์ OTOP ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น


ในโอกาสนี้ อยากจะขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประชาสัมพันธ์ และร่วมกันสนับสนุนกระเช้าของขวัญ ผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่ได้ร่วมกันคัดสรรจาก 77 จังหวัด ซึ่งมูลค่ามีตั้งแต่หลัก 10 ถึงไม่เกิน 3,000 บาท เพื่อให้ทุกท่านได้เลือกซื้อหากันด้วยความตื่นเต้น มหัศจรรย์ใจ ที่มีสิ่งดีที่คัดสรรแล้วจากหลายหลายภูมิภาค ทั้งของกินของใช้ มารวมอยู่ในตะกร้าเดียวกัน โดย กรมการพัฒนาชุมชน จะอำนวยความสะดวกให้ทุกท่านได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ และเพื่อสร้างช่องทางการตลาดให้มากขึ้นและเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในชนบท ทำให้เกิดการกระจายรายได้และส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในระดับฐานราก สำหรับผู้ที่สนใจนั้น ขณะนี้ทุกจังหวัดมีกระเช้าของขวัญปีใหม่ OTOP ของแต่ละจังหวัดให้ได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด , ที่ว่าการอำเภอ และกลุ่ม OTOP, บริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด, OTOP Trader, และส่วนกลางสั่งซื้อได้ที่ กรมการพัฒนาชุมชน หมายเลขโทรศัพท์ 090-116-9541 และ 080-980-9910 หรือสามารถสั่งซื้อผ่าน WWW. OTOPTODAY.COM หรือ เว็บไซต์กรมการพัฒนาชุมชนทาง www.cdd.go.th และปลายปีนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดงาน OTOP City 2020 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นงานใหญ่ปลายปี จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าถูกใจ รวมไว้ใน OTOP City 2020” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 27 ธันวาคม 2563 ให้ผู้มาเที่ยวชมงานได้เลือกซื้ออย่างจุใจ นอกจากนี้ท่านจะได้พบกับหลากหลายศิลปิน OTOP ของมีค่า ผ้างดงาม อาหารชวนชิม และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ขอถือโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องคนไทย ร่วมอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อไป อธิบดี พช. กล่าวเชิญชวน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม

ก.ต่างประเทศ 23 ก.ย.- กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน และปฏิบัติตามหลักสากล ใช้ตํารวจควบคุมฝูงชน ไม่ใช่กําลังทหาร จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม-บิดเบือนประชาคมโลก ส่งผลสัมพันธ์ร้าวลึก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการบังคับใช้กฎหมายไทยต่อพลเมืองกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงในบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยยืนยันว่า ไทยบังคับใช้กฎหมายภายในของไทยกับบุคคลที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายไทยเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐและเป็นไปตามหลักสากลที่ทุกประเทศยอมรับ สําหรับกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทย จงใจบิดเบือนแผนผัง ที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตําแหน่ง หลักเขตแดนที่ 42 และ43 ว่าเป็นเขตแดนจริงนั้นขอเรียนยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่เคยระบุ แผนผังดังกล่าวกําหนด เส้นเขตแดนเพราะการเจรจาเส้นเขตแดนอยู่ภายใต้อาณัติ ของกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี ทั้งนี้แผนผังที่ไทยนําแสดงดังกล่าว เป็นเพียงการนําพิกัดหลักเขตแดน ไปทําภาพจําลองเส้นเขตแดน บนแผนที่แบบไม่เป็นทางการเท่านั้นเพื่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึง สําหรับข้อกล่าวหาที่กัมพูชาระบุว่าไทยละเมิดเอ็มโอยู 2543 ว่าด้วยการสํารวจและการจัดทําหลักเขตแดนทางบกนั้น กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นฝ่ายละเมิดโดยปล่อยให้มีการสร้างอาคาร บ้านเรือนชุมชนทั้งในเขต พื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และในเขต ขณะที่เป็นอธิปไตยของไทยซึ่งฝ่ายไทยได้ทําการประท้วงในกรอบเอ็มโอยูแล้วกว่า 500 ครั้ง ในห้วง 20ปีที่ผ่านมาแต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไข ส่วนกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรม ที่บ่อนทําลายความพยายามลดความตึงเครียด ข้อตกลงหยุดยิงนั้น นายนิกรเดช กล่าวย้ำว่าประเทศไทยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง […]

นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว กลัวกลับมาไม่ทันแถลงนโยบาย

ภูมิใจไทย 23 ก.ย. – นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว เหตุเงื่อนเวลาไม่เอื้อ หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่เสียโอกาสแจงเรื่องอธิปไตย เชื่อชาวโลกรู้ไทยมีนโยบายชัดเจน ยันร่างนโยบายปกน้ำเงินเสร็จแล้ว นำเข้า ครม.นัดพิเศษ พรุ่งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำโลก UNGA ครั้งที่ 78 ว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายคนใหม่แล้ว ซึ่งจากการดูเวลา กลัวจะไม่ทันการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ทั้งนี้ก็จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่สำคัญมีเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งไปได้และไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลง แต่แนวทางของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีความชัดเจนที่จะบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างไร ส่วนจะเป็นการเสียโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการและการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ตรงจุดนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เวทีไหน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ขณะที่ทุกฝ่ายในบ้านเรามีความพร้อม ประชาชนให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ นโยบายของกองทัพและรัฐบาล นี่ต่างหากคือความเชื่อมั่น ส่วนกรณีที่กฤษฎีกาชี้ว่า หากมีเหตุที่จำเป็น ก็ถือว่าดำเนินการได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจำเป็นคืออะไร อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงกับใคร เพราะประชาคมโลกก็รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว […]

เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงดับสมาชิก อบต.กรงปินัง

ยะลา 23 ก.ย. – เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงสมาชิก อบต.กรงปินัง เสียชีวิตหน้าบ้านพัก อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตำรวจตั้ง 2 ปม “แค้นส่วนตัว-สร้างสถานการณ์” จากเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายอิสมาแอ กาแจ อายุ 61 ปี สมาชิก อบต.กรงปินัง ขณะจอดรถยนต์กระบะเตรียมเข้าบ้านพักในพื้นที่บ้านลือมุ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตรวจสอบรอยกระสุนในตัวผู้ตายพบ 12 นัด เข้าบริเวณหน้าอกและลำตัว โดยแขนซ้าย 2 นัด และใบหน้าอีก 1 นัด เมื่อเวลา 21.22 น. ของวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เช้านี้ (23 ก.ย.) ตำรวจ สภ.กรงปินัง ลงพื้นที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกองเลือดอยู่ใกล้รถยนต์กระบะของผู้ตาย แต่ไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมก่อเหตุเรื่องส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นการสร้างสถานการณ์ นายอาดือนัน ฮามิดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ […]

นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรง สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – ทองไทยทุบสถิตินิวไฮรอบใหม่ เปิดตลาดพุ่งพรวด 550 บาท ทองไทยแตะ 57,300 บาท ตามราคาทองโลกที่นิวไฮต่อเนื่อง นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรงกว่าคาด สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองคำเปิดตลาดเช้านี้ (23 ก.ย.) เวลา 09.04 น. ปรับเพิ่มขึ้นทันที 550 บาท โดยทองแท่ง ราคารับซื้อ 56,400 บาท ขายออก 56,500 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 55,273.36 ขายออก 57,300 บาท แตะระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.49 น. ปรับเปลี่ยนไปแล้ว 3 ครั้ง ทองแท่ง รับซื้อ 56,300 บาท ขายออก 56,400 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ […]