พช.ชวนเที่ยวงานโอทอป ช้อปของขวัญปีใหม่

เมืองทองธานี 10 พ.ย.- อธิบดี พช. เชิญชวนคนไทยส่งความสุขปีใหม่ด้วยกระเช้าของขวัญ OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมชวนเลือกซื้อในงาน OTOP City 2020 จัดขึ้น 19 – 27 ธ.ค. 2563 อิมแพ็ค เมืองทองธานี


วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธี งานแถลงข่าว “รณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่” เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีช่องทางการตลาด มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สู่หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ

ในการนี้ นางสาววรัญญา หอมธูป กรรมการผู้จัดการ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท โอทอปอินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนบริษัทประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มผู้ประกอบการเครือข่าย OTOP พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ตลอดจนภาคเอกชนและสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีจำนวนมาก ณ ห้องประชุม 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า การจัดงานแถลงข่าววันนี้เป็นงานที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านโดยแท้จริง เพราะผลิตภัณฑ์ชุมชนที่นำมาเป็นกระเช้าของขวัญเหล่านี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่พี่น้องประชาชนรวมตัวกัน เกิดจากสติปัญญา ความขยัน ความเพียร ความอดทนเอาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ มาผลิตเป็นสินค้าโดยรวมตัวเป็นกลุ่ม OTOP กลุ่มสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่มีสมาชิกกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ มารวมตัวกันเพื่อสร้างชีวิตที่ดีให้กับครอบครัว ประเด็นสำคัญคือ คนไทยด้วยกันก็ต้องช่วยกันอุดหนุน เพราะฉะนั้นในช่วงทุกๆโอกาส หากเรานึกถึงคนไทยด้วยกันเราต้องนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่คนไทยด้วยกันใช้ภูมิปัญญาผลิตขึ้นมา โดยในช่วงที่ใกล้เทศกาลปีใหม่นี้ ทางกรมการพัฒนาชุมชน กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP กลุ่ม OTOP Trader บริษัทประชารัฐรักสามัคคี กลุ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี อยากจะสื่อสารให้ทราบว่าหากพี่น้องประชาชนต้องการส่งความสุข ความปรารถนาดีให้กัน ขอให้นึกถึง สินค้าOTOP สินค้าของกลุ่มสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สินค้าที่เป็นของคนไทยด้วยกัน ฉะนั้น การจัดงานในวันนี้ เราได้จัดเทศกาลส่งความสุขให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศทุกฝ่าย สุขใจทั้งผู้ผลิต ผู้ให้ ผู้ที่ได้รับมอบของขวัญ ให้มีความสุขและจะเป็นความสุขที่รายได้กระจายสู่ท้องถิ่น อยู่บนพื้นฐานที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติมีความมั่นคงและความเข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ โดยปัจจุบันมีประชาชนสนใจมาลงทะเบียนเป็นผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 90,289 ราย มีผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 198,988 ผลิตภัณฑ์ มีผลิตภัณฑ์ ระดับ 3 – 5 ดาว จำนวน 17,010 ผลิตภัณฑ์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563) และมียอดจำหน่ายในปีงบประมาณ 2563 ถึง 258,307 ล้านบาท ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังหมู่บ้าน/ตำบลทั่วประเทศ เป็นไปตานโยบายของรัฐบาลและในปีที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ ให้มีการรณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP โดยนำผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิโครงการหลวง และผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นของขวัญ ของที่ระลึกเทศกาลปีใหม่ 2563 มียอดการจำหน่ายกระเช้าของขวัญ ของฝาก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ถึง เดือนมกราคม 2563 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 33,316,551 บาท ซึ่งถือได้ว่ามีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จ ยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดงานแถลงข่าว รณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝาก ช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ OTOP ส่งเสริมให้ประชาชนได้ส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาของคนไทย รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ให้มีช่องทางการตลาด มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยกรมการพัฒนาชุมชน มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ให้เกิดความเข้มแข็งภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการประชาสัมพันธ์ในการรณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามสถานที่ราชการ เอกชน รวมทั้งในเว็บไซต์ของกรมการพัฒนาชุมชน และได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด จัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์ OTOP ในรูปแบบกระเช้าของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่ ประกอบด้วย ภาพถ่ายกระเช้าของขวัญ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ในกระเช้าของขวัญ ราคา ชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ผู้ติดต่อประสานงาน หรือเว็บไซต์ที่มี เพื่อให้ประชาชนที่สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้โดยตรง อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจาก บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด, OTOP Trader, เครือข่าย OTOP, กลุ่มสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่มีอยู่ทุกจังหวัดเป็นตัวกลางในการพัฒนารูปแบบกระเช้าของขวัญ ของฝากให้เป็นที่น่าสนใจ และเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายอีกทางหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ OTOP นั้นล้วนแล้วแต่เป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทย ที่ทรงคุณค่า ถูกใจทั้งผู้ซื้อ และผู้รับกระเช้าของขวัญปีใหม่ มีที่น่าสนใจหลากหลายมากครับ มาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกระเช้าของฝากทั่วไทย จากศูนย์โอทอปคอมเพล็กซ์พุแค จังหวัดสระบุรี ในกระเช้านั้นจะรวบรวมผลิตภัณฑ์ OTOP จากหลากหลายกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการในทุกภูมิภาค, กระเช้าของขวัญจากบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด,กระเช้าของขวัญจาก OTOP Trader, กระเช้าของขวัญจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และจากสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชน ตั้งเป้าหมายในการรณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยหวังว่าในปีนี้จะมียอดจำหน่าย ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานนั้น เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์จาก ภูมิปัญญาของคนไทย และสร้างช่องทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้น ประชาชนทั่วไปได้รู้จักผลิตภัณฑ์ OTOP ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น


ในโอกาสนี้ อยากจะขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประชาสัมพันธ์ และร่วมกันสนับสนุนกระเช้าของขวัญ ผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่ได้ร่วมกันคัดสรรจาก 77 จังหวัด ซึ่งมูลค่ามีตั้งแต่หลัก 10 ถึงไม่เกิน 3,000 บาท เพื่อให้ทุกท่านได้เลือกซื้อหากันด้วยความตื่นเต้น มหัศจรรย์ใจ ที่มีสิ่งดีที่คัดสรรแล้วจากหลายหลายภูมิภาค ทั้งของกินของใช้ มารวมอยู่ในตะกร้าเดียวกัน โดย กรมการพัฒนาชุมชน จะอำนวยความสะดวกให้ทุกท่านได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ และเพื่อสร้างช่องทางการตลาดให้มากขึ้นและเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในชนบท ทำให้เกิดการกระจายรายได้และส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในระดับฐานราก สำหรับผู้ที่สนใจนั้น ขณะนี้ทุกจังหวัดมีกระเช้าของขวัญปีใหม่ OTOP ของแต่ละจังหวัดให้ได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด , ที่ว่าการอำเภอ และกลุ่ม OTOP, บริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด, OTOP Trader, และส่วนกลางสั่งซื้อได้ที่ กรมการพัฒนาชุมชน หมายเลขโทรศัพท์ 090-116-9541 และ 080-980-9910 หรือสามารถสั่งซื้อผ่าน WWW. OTOPTODAY.COM หรือ เว็บไซต์กรมการพัฒนาชุมชนทาง www.cdd.go.th และปลายปีนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดงาน OTOP City 2020 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นงานใหญ่ปลายปี จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าถูกใจ รวมไว้ใน OTOP City 2020” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 27 ธันวาคม 2563 ให้ผู้มาเที่ยวชมงานได้เลือกซื้ออย่างจุใจ นอกจากนี้ท่านจะได้พบกับหลากหลายศิลปิน OTOP ของมีค่า ผ้างดงาม อาหารชวนชิม และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ขอถือโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องคนไทย ร่วมอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อไป อธิบดี พช. กล่าวเชิญชวน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]