“พล.อ.ประวิตร” ฝากการบ้าน มท.ช่วยความเดือดร้อนประชาชน

สำนักข่าวไทย 6 พ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” ตรวจงาน มท ฝากการบ้าน 10 ข้อ ช่วยแก้ความเดือดร้อนประชาชนในทุกมิติ


วันนี้ (6 พ.ย. 63) เวลา 10:00 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและภารกิจสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ. ศ. 2564 โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ให้การต้อนรับและรับฟังแนวนโยบาย โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปยังทุกจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังนโยบายทั่วประเทศ

พลเอกประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัยอย่างทั่วถึง เร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง สร้างรายได้ให้กับประชาชนเพื่อเพียงพอต่อการดำรงชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ต้องขอขอบคุณผู้บริหารและบุคลากรทุกระดับของกระทรวงมหาดไทยที่ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่


โอกาสนี้ พลเอกประวิตร กล่าวมอบนโยบายการดำเนินงานใน 10 ด้าน ได้แก่

  1. ให้ความสำคัญกับการปกป้องและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสร้างสังคมแห่งการรู้รักสามัคคี รวมทั้งขับเคลื่อนและขยายผลการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่
  2. ขับเคลื่อนการปฏิบัติของจิตอาสาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม โดยขยายผลการดำเนินงานให้ครอบคลุมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งสนับสนุนการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานทุกระดับ และเน้นย้ำนายอำเภอในการสร้างการรับรู้ภารกิจจิตอาสาต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการหมู่บ้าน เพื่อเป็นหลักในการปฏิบัติงานในระดับหมู่บ้าน
  3. ขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับพื้นที่หลังสถานการณ์โควิด-19 ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” โดยขอให้จังหวัดดำเนินการแก้ปัญหาที่เป็นความเดือดร้อน/ความจำเป็นเร่งด่วนของจังหวัด ผ่านการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและเป็นระบบ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน และเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
  4. สนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ให้มีความพร้อมรับมือได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นตามมาตรการที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนด
  5. ดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ผ่านการบูรณาการความร่วมมือจากภาคีการพัฒนาต่าง ๆ และต่อยอดสู่การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ด้วยระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า หรือระบบ TPMAP ให้มีคุณภาพครอบคลุมทุกมิติ และทุกพื้นที่ รวมทั้งประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งงบประมาณแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  6. สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแนวทางการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) สู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ทั้งในด้านการป้องกัน ปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย การบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด และการบริหารจัดการโดยบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่
  7. บูรณาการหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคประชาชนและอาสาสมัคร เตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น อาทิ อุทกภัย ภัยแล้ง ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งสร้างการรับรู้ประชาชนเกี่ยวกับแนวปฏิบัติการรับรู้ข้อมูลของภาครัฐอย่างถูกต้อง ทั่วถึง
  8. ขับเคลื่อนบทบาทศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอให้เป็นกลไกสำคัญในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องร้องเรียนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ได้ ขอให้รวบรวมและแจ้งรายละเอียดมาที่หน่วยงานส่วนกลางเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
  9. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอกำชับและติดตามการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของศูนย์บูรณาการและประสานการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในระดับพื้นที่อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
  10. ให้ใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ส่วนกลางไปจนถึงระดับพื้นที่ ในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องให้กับประชาชนในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ผลดำเนินงานสำคัญของรัฐบาลและส่วนราชการ พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดข่าวปลอมหรือ Fake News ซึ่งส่งผลกระทบทำให้สังคมเกิดความคลาดเคลื่อนในการรับรู้ข้อเท็จจริง

ท้ายสุด พลเอกประวิตร วกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนในระดับพื้นที่ มีกลไกเชื่อมโยงถึงพี่น้องประชาชนทั้งในท้องที่และท้องถิ่น จึงขอให้ข้าราชการ พนักงาน บุคลากร ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร ทุกคน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความเสียสละอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน” นอกจากนี้ ขอให้เร่งขยายผลเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ความก้าวหน้า ผลงาน และขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ ให้กับประชาชนได้ทราบ เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินงานร่วมกับภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]