“พล.อ.ประวิตร” ย้ำเร่งพัฒนาฝีมือแรงงานกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทำเนียบรัฐบาล 1 ต.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ย้ำกระทรวงแรงงานเร่งแผนพัฒนากำลังคน ให้มีความรู้และทักษะฝีมือรองรับอุตสาหกรรม พัฒนาเศรษฐกิจประเทศ จากผลกระทบโควิด 19


วันนี้ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและการประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุม 109 ชั้น 1 สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นรองประธาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นฝ่ายเลขานุการฯ

ที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการที่อยู่ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) รวมถึงร่วมพิจารณาแนวทางการจัดทำแผนพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ปี พ.ศ. 2564-2565 ของหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการจัดการศึกษาและการฝึกอบรมของส่วนราชการ ตลอดจนแนวทางการพัฒนาอาชีพคนพิการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 และกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ


พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ประเทศไทยประสบปัญหาการจ้างงานลดลง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น อันเกิดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการแรงงานของภาคอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ภาครัฐจึงต้องใช้กลไกการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ ที่มีองค์ประกอบมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศจากทุกภาคส่วน มาร่วมกันวางแผนการพัฒนากำลังคน และจับคู่คนกับงานให้เหมาะสม ทำให้แรงงานไทยสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้เศรษฐกิจและสังคมไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในชีวิตวิถีใหม่หรือ New Normal และเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผัน

พลเอกประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการที่ได้มาร่วมกันเสนอแนะข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการพัฒนากำลังคนทุกระดับของประเทศ ในการเตรียมความพร้อมแรงงานใหม่ และยกระดับฝีมือแรงงานที่อยู่ในตลาด แรงงาน ให้มีความรู้และทักษะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคการศึกษา ภาครัฐ และภาคเอกชน ขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การพัฒนากำลังคนของประเทศเป็นเอกภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย