กทม.ปิดประกาศเดินหน้ารื้อป้อมมหากาฬกุมภาพันธ์ปีหน้า

กรุงเทพฯ 28 พ.ย. – กรุงเทพมหานครเดินหน้ารื้อถอนชุมชนป้อมมหากาฬ ตามมติรัฐบาล ซึ่งจะดำเนินการเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ขณะที่ตัวแทนชุมชนยืนยันปักหลักไม่ย้ายออก


นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำเจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กทม.ติดป้ายขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าป้อมมหากาฬ ตามมติคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารงานราชการแผนดิน คณะที่5 เมื่อวันที่ 2พ.ย.ที่ผ่านมา พิจารณาให้ กทม.ดำเนินการรื้อถอนช่วงปลายเดือนมกราคมปี2560

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือชาวชุมชนป้อมมหากาฬย้ายออกจากพื้นที่ก่อนสิ้นเดือนมกราคม ปี 2560 เนื่องจากล่าสุดตามมติคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปฯ พิจารณาให้กทม.ดำเนินการรื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือนภายในป้อมมหากาฬ เพราะที่ดินทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ กทม.ตามกฏหมายเวนคืนที่ดิน ทั้งนี้จะเริ่มเข้ารื้อถอนตั้งแต่วันที่ 1ก.พ.2560 จนกว่าจะแล้วเสร็จ คาดใช้เวลาไม่เกิน 2เดือน โดยหลังจากนี้ยังคงมีการเจรจาทำความเข้าใจกับชาวบ้านเหลืออยู่อีก 37 หลัง และมีการสร้างใหม่อีก 5หลัง รวมทั้งหมด 42หลัง ยืนยัน ไม่อนุญาตให้มีชาวบ้านอยู่ภายในป้อมมหากาฬ ทำได้เพียงเข้ามาดูแลพื้นที่ร่วมกัน


ส่วนการขอจัดตั้งคณะกรรมการพหุภาคี ทั้ง 3 ฝ่าย ที่ชุมชนยื่นข้อเสนอมาก่อนหน้านี้ ทางคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปฯ เห็นว่า ไม่ควรพิจารณาแต่งตั้ง เพราะตาม กฏหมายชุมชนไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้ ขณะเดียวกัน กทม. มีแผนพัฒนาพื้นที่ป้อมมหากาฬ เป็นสวนสาธารณะในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่กำหนดไว้ชัดเจน

ชาวชุมชน

 


สำหรับท่าทีของชาวชุมชนในวันนี้ มีชาวบ้านบางส่วนออกมาเฝ้าสังเกตการอยู่ริมกำแพง โดยยังปิดทางเข้า-ออก ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ กทม.เข้าไปบริเวณภายใน   นายพีระพล เหมรัตน์ รองประธานชุมชนป้อมมหากาฬ ระบุ แม้ว่าวันนี้จะมีประกาศมาติดให้เตรียมตัวย้ายออกอีกครั้ง แต่ยังยืนยันตามเดิม ขอปักหลักอยู่ที่นี่ ไม่ย้ายไปไหน ยอมเสียค่าเช่าให้กับ กทม. เพียงขอเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ และพร้อมเจรจากับ กทม. อนุญาตให้เข้าพื้นที่ได้หลังปีใหม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง