คดีเสี่ยเบนซ์ ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น รอลงอาญา

กทม.27 ก.ค.- ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น รอลงอาญา”เสี่ยเบนซ์”เมาแล้วขับชนตำรวจและภรรยาเสียชีวิต กรอปกับบุตรสาผู้ตายเขียนหนังสือวิงวอนอย่าให้”เสี่ยเบนซ์”ติดคุก เหตุจะขาดผู้อุปการะดูแล 


ผู้สื่อข่าว รายงานความคืบหน้าคดีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของธุรกิจผลิตและประกอบอะไหล่รถยนต์ เมาแล้วขับรถชน พ.ต.ท.จตุพร งามสุชวิชชากุล รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. และนางนงนาฏ งามสุวิชชากุล ภรรยาเสียชีวิต   ส่วนบุตรสาวอายุ 12 ปี  ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวงและเขตทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562   ซึ่งนายสมชาย สารภาพทั้งในชั้นสอบสวนและการพิจารณาในชั้นศาล    และก่อนฟังคำพิพากษานายสมชาย ผู้ก่อเหตุ ยินยอมที่จะเยียวยาชดใช้ค่าเสียหาย 45 ล้านบาทให้กับครอบครัวของนายตำรวจผู้เสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันคงเหลือเพียงบุตรสาวคนโตและบุตรสาวคนเล็ก  


คดีนี้ศาลจังหวัดตลิ่งชันพิพากษา ชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 ปี ปรับ 100,000 บาท รวมทั้งมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของนายสมชาย จำเลยและสั่งห้ามจำเลยดื่มสุรา-เบียร์ หรือเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดด้วย   พร้อมทั้งให้รอการลงโทษมีกำหนด 3 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง ภายใน 2 ปี และทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์มีกำหนด 48 ชั่วโมง ภายเวลา 1 ปีตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรกำหนด           

นายรัตนชัย เวโรจน์พิพัฒน์ พี่ชายของเสี่ยเบนซ์ เปิดเผยว่า หลังสิ้นสุดคดีในศาลชั้นต้นแล้ว อัยการได้ยื่นอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษไม่รอลงอาญานายสมชาย ที่สุดแล้วศาลอุทธรณ์ได้เมตตา พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น คือให้รอลงอาญา อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาบุตรสาวของพันตำรวจโทจตุพร ได้เขียนจดหมายถึงอัยการวิงวอนอย่าให้นายสมชาย ติดคุก เพราะจะขาดคนอุปการะดูแลส่วนพนักงานอัยการ จะยื่นฎีกาต่อหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายแจ้ง หากจะมีการยื่นฎีกาต่อคงต้องขอความเมตตาจากศาลฎีกา และว่าที่ผ่านมาทางครอบครัวได้ดูแลบุตรสาวผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง มีการพบปะทานข้าวพูดคุยวเพราะรู้สึกผูกพันกัน รวมทั้งมีการวางแผนอนาคตของเด็กทั้งสองเอาไว้ ส่วนที่มีการเทียบเคียงคดี”เสี่ยเบนซ์”กับคดี”บอส อยู่วิทยา”นั้น นายสมชาย น้องของตน ได้บอกกับตนว่า เห็นการแสดงความคิดเห็นการเทียบเคียงในสื่อต่างๆ แล้วทำให้รู้สึกมีกำลังใจ แลพภูมิใจกับสิ่งที่ได้แสดงความรับผิดชอบดูแลและเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน