ขานรับผลักดันไทยสู่ “เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลก”

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.-คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา ระดมสมองผ่าทางตันหลังวิกฤติโควิด-19 ขานรับผลักดันประเทศไทยสู่ “เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก” เชื่อมีศักยภาพพอ



ในการสัมมนา “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหลังวิกฤติโควิด-19” ของคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสัมมนากว่า 100 คน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ประธานกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา กล่าวว่า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นอุตสาหกรรมที่มีอนาคต การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจึงควรมองในภาพรวมของผลิตภัณฑ์และการบริการด้านการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร และนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามา สนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่ายขึ้น อาทิ การสร้างแพลตฟอร์มเชิงสุขภาพที่มิได้มุ่งเน้นเพียงด้านบริการทางการแพทย์ แต่อาจเพิ่มแอปพลิเคชันแนะนำการท่องเที่ยวในประเทศไทย การวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว ตลอดจนถึงแผนการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่นิยมและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังสามารถรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับบริการด้านสุขภาพในรูปแบบของครอบครัวได้อีกด้วย


นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกาตะวันออก และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงตัวเลขการท่องเที่ยวปี 2562 ว่ามีนักท่องเที่ยวถึง 40 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 1.9 ล้านล้านบาท ในส่วนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีการสำรวจเมื่อปี 2561 พบว่า มีรายได้ประเทศถึง 45,000 ล้านบาท ก่อนเกิดวิกฤติโควิด นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา 

พญ.วรรณา หาญเชาว์วรกุล นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19แล้วกว่า 14 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 6 แสนคน และยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชีย ส่วนประเทศไทยนั้นได้ทำแผนความร่วมมือพหุภาคี โดยมีเป้าหมายเพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อเข้าสู่ประเทศ ทุกคนในประเทศต้องปลอดภัยจากโควิดและลดผลกระทบทางสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม เพิ่มความมั่นคงของประเทศ โดยปัจจุบันเข้าสู่ในระยะผ่อนปรนระยะที่ 5 


นพ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงพยาบาลเอกชน แสดงความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ที่อยู่ในสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนในการป้องกันและรักษา โดยระบุว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเชื้อไวรัสได้กลายพันธุ์มาแล้วถึง 5 รอบ นอกจากนี้ยังทำลายภูมิคุ้มกันมนุษย์และขณะนี้ก็ไม่พบภูมิคุ้มกันระยะยาวในผู้ติดเชื้อแล้วด้วย จึงทำให้มีคำถามว่าวัคซีนที่กำลังวิจัยกันอยู่นั้นจะทันต่อการกลายพันธุ์ของไวรัสหรือไม่และโควิด-19 จะเป็นอมตะทำลายชีวิตผู้คนบนโลกนี้ไปอย่างไม่มีทางรักษาใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ไทยดำเนินการอยู่ขณะนี้ส่งผลให้ได้รับคำยกย่องจากทั่วโลก ล่าสุดสำนักข่าว CNN ยกย่องว่าไทย คือ1 ใน 4 ประเทศร่วมกับ ฟินแลนด์ กรีซ นิวซีแลนด์ ที่ผู้นำประเทศและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดูแล เอาใจใส่ และบริหารจัดการ ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด 

พญ.ประภา วงศ์แพทย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย (TMTA) กล่าวถึงอุปสรรคและปัญหาในการดำเนินงานในช่วงวิกฤติโควิด- 19 ว่า สมาชิกของสมาคมฯยกเว้นโรงพยาบาลเอกชนจะเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกือบทั้งหมด อาทิ คลินิคเฉพาะทาง ต่างๆ บริษัทธุรกิจท่องเที่ยว สปา แพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกฯลฯ มีปัญหาคือเงินทุนหมุนเวียนที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้ขาดความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจระยะยาวได้ยั่งยืน อีกทั้งมีสินทรัพย์ค้ำประกันไม่เพียงพอสำหรับการค้ำประกันสินเชื่อทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ จึงมีความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงเรื่องรายได้มาก รวมทั้งขาดความสามารถในการแข่งขันกับกลุ่มทุนที่ใหญ่กว่าและไม่มีภูมิคุ้มกันต่อปัจจัยเสี่ยงอื่น เช่น สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และการประกาศภาวะฉุกเฉินที่ทำให้การท่องเที่ยวและการบริการสุขภาพ หลายสาขาต้องปิดกิจการลงอย่างกะทันหัน และมีความจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานลูกจ้าง ทำให้ลูกจ้างจำนวนมากได้รับผลกระทบไปด้วย  

อย่างไรก็ตามแม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสาขาการท่องเที่ยวบ้างแล้วเช่นโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”ที่ให้คูปองส่วนลดโรงแรม 40% คูปองอาหาร 600บาท/วัน และคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายให้กับธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตร้านอาหารและสายการบินได้ ทางสมาคมฯ จึงขอเสนอให้รัฐบาลเพิ่มการสนับสนุนการท่องเที่ยวรูปแบบโปรแกรมทัวร์สุขภาพ จะทำให้เกิด การจับคู่ธุรกิจต่างๆ โดยมีโรงแรม/รีสอร์ตจับคู่กับโรงพยาบาล/คลินิก สปา แพทย์แผนไทย/แพทย์ทางเลือก และ ผู้ให้บริการอื่น ฯลฯ ทั้งนี้จะเป็นอีกช่องทางที่จะสามารถช่วยกระตุ้นรายได้ในช่วงที่ยังไม่สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตามปกติและยังมีประโยชน์ต่อประชาชนในการดูแลสุขภาพและสอดคล้อง กับสังคมผู้สูงอายุในปัจจุบันด้วย 

นายกรด โรจนเสถียร คณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสปาไทย กล่าวถึงเป้าหมายและกลไกลขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยใช้ บีซีจีโมเดลของรัฐบาล  ซึ่งเป็นโมเดลการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่สามารถกระจายรายได้สู่เมืองรอง ลดการเหลื่อมล้ำมุ่งสู่ความยั่งยืน สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว สามารถเที่ยวได้สนุกปลอดภัยและจะกลายเป็นตลาดที่สำคัญของโลก เมื่อท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเติบโต ก็จะสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวอื่นได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน