กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – ขนส่งฯ ขอความร่วมมือสมาคมขนส่งสินค้า สมาคมรถบรรทุก และผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทางและรถบรรทุกส่วนบุคคลทั่วประเทศ หลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกช่วงวันหยุดต่อเนื่อง 24-28 กรกฎาคม 2563 เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เนื่องจากวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบกับคณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 27 กรกฎาคม 2563 เป็นวันหยุดราชการเพื่อชดเชยวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการเดินทางของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณการจราจรหนาแน่นและคับคั่ง มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ ดังนั้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียต่อผู้ใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกทั่วประเทศหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) ระหว่างวันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2563 โดยได้ขอความร่วมมือไปยังองค์กรด้านการขนส่งสินค้า 14 แห่ง ประกอบด้วย สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย, สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน, สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง ชลบุรี, สมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก, สมาคมผู้ประกอบการรถเครน, สมาคมโลจิสติกส์และขนส่งภาคใต้, สมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งภาคตะวันออก และชมรมขนส่งสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทาง และรถบรรทุกส่วนบุคคล เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวด้วยว่า กรณีผู้ประกอบการขนส่งรายใดมีความจำเป็นต้องทำการขนส่งสินค้าในช่วงดังกล่าวให้ผู้ประกอบการตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยของรถบรรทุก รถลากจูง รถพ่วง ก่อนใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากความบกพร่องของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบ ผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ GPS ในรถของตนเอง ให้ติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่อง ผ่านแอปพลิเคชัน DLT GPS และแจ้งเตือนพนักงานขับรถเมื่อพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด เพื่อร่วมกันป้องกันอุบัติเหตุ ด้านผู้ขับรถบรรทุกปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ พักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อให้มีสภาพร่างกายพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ไม่ขับรถเกินชั่วโมงการทำงานที่กฎหมายกำหนด ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด และต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 อย่างเคร่งครัด และควรหลีกเลี่ยงเส้นทางและช่วงเวลาที่มีการสัญจรจำนวนมาก
รวมถึงห้ามจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง หากรถเกิดขัดข้องหรือมีความจำเป็นต้องจอดรถในช่องทางเดินรถหรือบริเวณไหล่ทางจะต้องแสดงสัญญาณไฟกะพริบและจัดให้มีเครื่องหมายตามลักษณะและเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด พร้อมดำเนินการแก้ไขและเคลื่อนย้ายรถให้พ้นจากทางเดินรถโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ หากประชาชนพบพฤติกรรมของผู้ขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าหรือรถโดยสารสาธารณะขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย แจ้งเหตุการณ์หรือร้องเรียนได้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT GPS หรือ โทร.1584 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย