สภาฯ มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความเห็นนักศึกษา

รัฐสภา 23 ก.ค.-สภาฯ มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความเห็นนิสิตนักศึกษา จำนวน 39 คน ด้านฝ่ายค้าน ปัดส่งคนร่วมเป็น กมธ. ชี้ไม่เกิดประโยชน์และประวิงเวลา เพราะเป็นข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (23 ก.ค.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยเป็นการพิจารณาญัตติด่วนที่หลายพรรคการเมืองเสนอขอให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับฟังความคิดเห็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีการชุมนุมหลายกลุ่มตั้งแต่ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรสา 2019 (โควิด-19) และเริ่มกลับมาชุมนุมอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้รับการรับรอง ได้เข้าร่วมประชุมและปฏิญาณตน

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษาเพราะถือเป็นความหวังดีต่อประเทศชาติ พร้อมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมารับฟังความเห็นของนิสิต นักศึกษา เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้องตามสถานการณ์ และคนที่จะต้องฟังความเห็นคือนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ไม่ใช่สภาฯ จึงเกรงจะถูกหยิบเป็นข้ออ้างในวันที่นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวอีกรอบว่าสภาฯ ได้เปิดเวทีรับฟังความเห็นแล้ว เหตุใดจึงไม่ไปให้ความเห็น ทั้งนี้เห็นว่าหนึ่งในข้อเรียกร้องของนักศึกษาคือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกร่างโดยคนสูงอายุที่อีกไม่นานจะร่วงโรย โดยที่นิสิต นักศึกษา ไม่ได้มีส่วนเข้าไปร่วมกำหนดชะตาของประเทศ


“ประเทศที่ปกครองโดยคนอายุมากแล้ว วัยเกษียณแล้ว สิ่งที่ท่านต้องทำ คือ กลับบ้านไปอยู่กับหลาน แล้วปล่อยให้คนอย่างพวกผมขึ้นนำประเทศนี้ ท่านต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่า ท่านคือไม้ใกล้ฝั่ง อยู่เฉย ๆ เป็นประโยชน์กับประเทศนี้มากกว่าอยู่ในอำนาจ นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น ดังนั้นผมบอกเลยว่าในข้อเสนอที่จะให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญนี่คือข้อเสนอที่ไม่ถูกต้องตามสถานการณ์ เรารู้อยู่แล้วว่าการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ คือ การประวิงเวลา เอาคนที่โกรธแค้นต่อสภาพการณ์ในขณะนี้ไปขังเอาไว้ แล้วถ้าคนเหล่านี้ออกมาชุมนุมอีกครั้ง ก็จะบอกว่าทำไมไม่มาพูดในสภาฯ ฝากถึงท่านประธานไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าบาปกรรมทั้งหลายที่ทำเอาไว้ วันนี้ประชาชนกำลังทวงถาม นายกฯ ต้องไม่มาโยนบาปให้สภาฯ ท่านต้องอธิบายเอาเองกับนิสิตนักศึกษา ถ้านายกฯ ยังปฏิบัติต่อประชาชนเช่นเดิม ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน คุกเข่าอ้อนวอนต่อประชาชน ยังพูดจาไม่ดี เหมือนแต่ก่อน ผมก็ขอเรียนต่อท่านนายกรัฐมนตรีว่า Winter is Coming” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังได้ขยายความของคำว่า Winner Is Coming ว่า เป็นคำพูดในหนังเรื่อง Game of Thrones ที่ฤดูหนาวกำลังจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ด้าน นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้ฝ่ายรัฐบาลมีเวทีให้นิสิตนักศึกษาแสดงออกอย่างเต็มที่ อย่าเอามาอยู่ในสภาและคณะกรรมาธิการ แต่ขอให้มีบทบาทในการสื่อสารกับทุกฝ่ายและเปิดทุกช่องทางในการสื่อสารกับต่างประเทศและต้องให้ความเป็นธรรม ท้ายสุดขอให้ยึดหลักเมตตาธรรม ประนีประนอม อย่าใช้ความรุนแรง หากปล่อยให้มีกระสุนนัดแรกในวันนั้น จะถือเป็นหายนะของรัฐบาลชุดนี้


ขณะที่ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายควรต้องรับฟังข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษาทั้ง 3 ข้อ แต่ก็เห็นว่าการยุบสภาฯ ไม่ใช่ทางออกของปัญหาที่แท้จริงของการเมือง ทุกวันนี้มาจากปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ถูกมองว่าเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะมีระบบรัฐสภามาจากการเลือกตั้งกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งมาจากการสรรหาและแต่งตั้ง และการเลือกตั้งที่ผ่านมามีปัญหาการทุจริตเลือกตั้งจำนวนมาก ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด คือ การตั้งคณะกรรมการขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ และในขณะนี้เห็นด้วยว่าควรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมารับฟังความเห็นของนิสิตนักศึกษา เพราะถือว่าจะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ให้นิสิต นักศึกษา ได้แสดงออกและสะท้อนความเห็นและไม่ได้ปิดกั้นกับการชุมนุมเคลื่อนไหวตามกฎหมาย และอยากฝากบอกรัฐบาลว่าอย่าทำตัวเป็นผู้สูงอายุที่หูหนัก และโปรดรับฟังความเห็นของนิสิตนักศึกษาด้วย

นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ควรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมารับฟังความเห็น เนื่องจากห้องประชุมและบุคลากรไม่พอ และยังต้องใช้ระยะเวลา 3 เดือนเป็นอย่างต่ำในการศึกษา จึงเห็นว่ารัฐบาลควรเข้าไปรับทราบปัญหากับนักศึกษาโดยตรง และเห็นด้วยกับข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มนักศึกษา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีข้อเสนอ 5 ข้อในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมของนิสิตนักศึกษา คือ ขอให้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทันที / ทบทวนการดำเนินคดีที่เป็นคดีทางการเมืองที่ผ่านมาทั้งหมด / หยุดปิดปากนักศึกษาประชาชนที่ออกมาแสดงความเห็นต่าง เพราะการดำเนินคดีไม่ใช่ทางออกของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น รัฐบาลต้องหยุดคุกคามเยาวชนและครอบครัวหยุดคุกคามสถานศึกษา หยุดสร้างกระแสความเกลียดชังกันเอง / นายกรัฐมนตรีควรลาออกและควรยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยพรรคก้าวไกลเสนอให้มี สสร.มาจากการเลือกตั้งโดยให้คนอายุตั้งแต่ 18 ปีมีสิทธิ์เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดกติกาของประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่สุดที่ประชุมมีมติไม่เห็นควรส่งเรื่องให้รัฐบาลรับไปดำเนินการด้วยคะแนน 261 ต่อ177 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และมีมติเห็นควรให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมารับฟังความเห็นนิสิตนักศึกษาด้วยคะแนน 260 ต่อ 178 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง โดยให้มีจำนวนคณะกรรมาธิการ 39 คน

ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีมติไม่เสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการ เพราะเห็นว่าการพิจารณารับฟังความเห็นของนักศึกษาเป็นการเพิ่มขั้นตอนการรับฟัง ซึ่งไม่ทันกับสถานการณ์ สภาฯ ไม่ควรทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ มีแต่ควรให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ อีกทั้งยังเห็นว่าเป็นการซ้ำซ้อนกับคณะกรรมาธิการที่มีอยู่ เช่น คณะกรรมาธิการการเมือง และคณะกรรมาธิการศึกษารัฐธรรมนูญก็รับฟังความเห็นมาตลอด นอกจากซ้ำซ้อนแล้วยังสิ้นเปลืองงบประมาณ และเชื่อว่าถึงแม้ตั้งคณะกรรมาธิการก็รับฟังความเห็นเพียง 1-2 ครั้ง แต่การแก้ปัญหาตัดไฟแต่ต้นลม ต้องเร็วและควรทำมากกว่า

“พวกเราเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา แต่ไม่เชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี จึงเห็นว่ารัฐบาลต้องไปคุยโดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีคนกลางอย่างรัฐสภา ควรมีโครงการจะได้นักศึกษาพบนายกฯ โดยตรง” นายสุทิน กล่าว

ด้านนายพิธา กล่าวว่า ปัญหาของนักศึกษาไม่ควรถูกจำกัดอยู่ในสภาฯ ควรเป็นปัญหาที่อยู่บนท้องถนนที่นายกรัฐมนตรีต้องเข้าไปรับฟังโดยตรง จึงไม่ขอเสนอชื่อคนร่วมเป็นคณะกรรมาธิการชุดนี้ เพราะข้อเรียกร้องทั้งหมดเป็นข้อเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับกรรมาธิการที่ยังว่างโดยพรรคการเมืองไม่ได้เสนอชื่อนั้น ในส่วนของสภาฯ ยังคงเว้นเอาไว้รอฝ่ายค้านก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]