สภาฯ มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความเห็นนักศึกษา

รัฐสภา 23 ก.ค.-สภาฯ มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความเห็นนิสิตนักศึกษา จำนวน 39 คน ด้านฝ่ายค้าน ปัดส่งคนร่วมเป็น กมธ. ชี้ไม่เกิดประโยชน์และประวิงเวลา เพราะเป็นข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (23 ก.ค.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยเป็นการพิจารณาญัตติด่วนที่หลายพรรคการเมืองเสนอขอให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับฟังความคิดเห็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีการชุมนุมหลายกลุ่มตั้งแต่ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรสา 2019 (โควิด-19) และเริ่มกลับมาชุมนุมอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้รับการรับรอง ได้เข้าร่วมประชุมและปฏิญาณตน

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษาเพราะถือเป็นความหวังดีต่อประเทศชาติ พร้อมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมารับฟังความเห็นของนิสิต นักศึกษา เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้องตามสถานการณ์ และคนที่จะต้องฟังความเห็นคือนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ไม่ใช่สภาฯ จึงเกรงจะถูกหยิบเป็นข้ออ้างในวันที่นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวอีกรอบว่าสภาฯ ได้เปิดเวทีรับฟังความเห็นแล้ว เหตุใดจึงไม่ไปให้ความเห็น ทั้งนี้เห็นว่าหนึ่งในข้อเรียกร้องของนักศึกษาคือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกร่างโดยคนสูงอายุที่อีกไม่นานจะร่วงโรย โดยที่นิสิต นักศึกษา ไม่ได้มีส่วนเข้าไปร่วมกำหนดชะตาของประเทศ


“ประเทศที่ปกครองโดยคนอายุมากแล้ว วัยเกษียณแล้ว สิ่งที่ท่านต้องทำ คือ กลับบ้านไปอยู่กับหลาน แล้วปล่อยให้คนอย่างพวกผมขึ้นนำประเทศนี้ ท่านต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่า ท่านคือไม้ใกล้ฝั่ง อยู่เฉย ๆ เป็นประโยชน์กับประเทศนี้มากกว่าอยู่ในอำนาจ นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น ดังนั้นผมบอกเลยว่าในข้อเสนอที่จะให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญนี่คือข้อเสนอที่ไม่ถูกต้องตามสถานการณ์ เรารู้อยู่แล้วว่าการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ คือ การประวิงเวลา เอาคนที่โกรธแค้นต่อสภาพการณ์ในขณะนี้ไปขังเอาไว้ แล้วถ้าคนเหล่านี้ออกมาชุมนุมอีกครั้ง ก็จะบอกว่าทำไมไม่มาพูดในสภาฯ ฝากถึงท่านประธานไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าบาปกรรมทั้งหลายที่ทำเอาไว้ วันนี้ประชาชนกำลังทวงถาม นายกฯ ต้องไม่มาโยนบาปให้สภาฯ ท่านต้องอธิบายเอาเองกับนิสิตนักศึกษา ถ้านายกฯ ยังปฏิบัติต่อประชาชนเช่นเดิม ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน คุกเข่าอ้อนวอนต่อประชาชน ยังพูดจาไม่ดี เหมือนแต่ก่อน ผมก็ขอเรียนต่อท่านนายกรัฐมนตรีว่า Winter is Coming” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังได้ขยายความของคำว่า Winner Is Coming ว่า เป็นคำพูดในหนังเรื่อง Game of Thrones ที่ฤดูหนาวกำลังจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ด้าน นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้ฝ่ายรัฐบาลมีเวทีให้นิสิตนักศึกษาแสดงออกอย่างเต็มที่ อย่าเอามาอยู่ในสภาและคณะกรรมาธิการ แต่ขอให้มีบทบาทในการสื่อสารกับทุกฝ่ายและเปิดทุกช่องทางในการสื่อสารกับต่างประเทศและต้องให้ความเป็นธรรม ท้ายสุดขอให้ยึดหลักเมตตาธรรม ประนีประนอม อย่าใช้ความรุนแรง หากปล่อยให้มีกระสุนนัดแรกในวันนั้น จะถือเป็นหายนะของรัฐบาลชุดนี้


ขณะที่ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายควรต้องรับฟังข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษาทั้ง 3 ข้อ แต่ก็เห็นว่าการยุบสภาฯ ไม่ใช่ทางออกของปัญหาที่แท้จริงของการเมือง ทุกวันนี้มาจากปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ถูกมองว่าเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะมีระบบรัฐสภามาจากการเลือกตั้งกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งมาจากการสรรหาและแต่งตั้ง และการเลือกตั้งที่ผ่านมามีปัญหาการทุจริตเลือกตั้งจำนวนมาก ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด คือ การตั้งคณะกรรมการขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ และในขณะนี้เห็นด้วยว่าควรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมารับฟังความเห็นของนิสิตนักศึกษา เพราะถือว่าจะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ให้นิสิต นักศึกษา ได้แสดงออกและสะท้อนความเห็นและไม่ได้ปิดกั้นกับการชุมนุมเคลื่อนไหวตามกฎหมาย และอยากฝากบอกรัฐบาลว่าอย่าทำตัวเป็นผู้สูงอายุที่หูหนัก และโปรดรับฟังความเห็นของนิสิตนักศึกษาด้วย

นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ควรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมารับฟังความเห็น เนื่องจากห้องประชุมและบุคลากรไม่พอ และยังต้องใช้ระยะเวลา 3 เดือนเป็นอย่างต่ำในการศึกษา จึงเห็นว่ารัฐบาลควรเข้าไปรับทราบปัญหากับนักศึกษาโดยตรง และเห็นด้วยกับข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มนักศึกษา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีข้อเสนอ 5 ข้อในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมของนิสิตนักศึกษา คือ ขอให้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทันที / ทบทวนการดำเนินคดีที่เป็นคดีทางการเมืองที่ผ่านมาทั้งหมด / หยุดปิดปากนักศึกษาประชาชนที่ออกมาแสดงความเห็นต่าง เพราะการดำเนินคดีไม่ใช่ทางออกของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น รัฐบาลต้องหยุดคุกคามเยาวชนและครอบครัวหยุดคุกคามสถานศึกษา หยุดสร้างกระแสความเกลียดชังกันเอง / นายกรัฐมนตรีควรลาออกและควรยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยพรรคก้าวไกลเสนอให้มี สสร.มาจากการเลือกตั้งโดยให้คนอายุตั้งแต่ 18 ปีมีสิทธิ์เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดกติกาของประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่สุดที่ประชุมมีมติไม่เห็นควรส่งเรื่องให้รัฐบาลรับไปดำเนินการด้วยคะแนน 261 ต่อ177 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และมีมติเห็นควรให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมารับฟังความเห็นนิสิตนักศึกษาด้วยคะแนน 260 ต่อ 178 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง โดยให้มีจำนวนคณะกรรมาธิการ 39 คน

ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีมติไม่เสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการ เพราะเห็นว่าการพิจารณารับฟังความเห็นของนักศึกษาเป็นการเพิ่มขั้นตอนการรับฟัง ซึ่งไม่ทันกับสถานการณ์ สภาฯ ไม่ควรทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ มีแต่ควรให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ อีกทั้งยังเห็นว่าเป็นการซ้ำซ้อนกับคณะกรรมาธิการที่มีอยู่ เช่น คณะกรรมาธิการการเมือง และคณะกรรมาธิการศึกษารัฐธรรมนูญก็รับฟังความเห็นมาตลอด นอกจากซ้ำซ้อนแล้วยังสิ้นเปลืองงบประมาณ และเชื่อว่าถึงแม้ตั้งคณะกรรมาธิการก็รับฟังความเห็นเพียง 1-2 ครั้ง แต่การแก้ปัญหาตัดไฟแต่ต้นลม ต้องเร็วและควรทำมากกว่า

“พวกเราเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา แต่ไม่เชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี จึงเห็นว่ารัฐบาลต้องไปคุยโดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีคนกลางอย่างรัฐสภา ควรมีโครงการจะได้นักศึกษาพบนายกฯ โดยตรง” นายสุทิน กล่าว

ด้านนายพิธา กล่าวว่า ปัญหาของนักศึกษาไม่ควรถูกจำกัดอยู่ในสภาฯ ควรเป็นปัญหาที่อยู่บนท้องถนนที่นายกรัฐมนตรีต้องเข้าไปรับฟังโดยตรง จึงไม่ขอเสนอชื่อคนร่วมเป็นคณะกรรมาธิการชุดนี้ เพราะข้อเรียกร้องทั้งหมดเป็นข้อเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับกรรมาธิการที่ยังว่างโดยพรรคการเมืองไม่ได้เสนอชื่อนั้น ในส่วนของสภาฯ ยังคงเว้นเอาไว้รอฝ่ายค้านก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย