นายกฯ ไม่ตอบยกหูหา “สุเทพ” แลก ก.แรงงาน – อว.

ก.ต่างประเทศ 23 ก.ค.-นายกฯ ไม่ตอบ ยกหูโทรหา “สุเทพ” ขอแลก ก.แรงงาน กับ ก.การอุดมศึกษาฯ บอกทุกอย่างคุยกันได้ เผย “ไพรินทร์-ปรีดี” ยังไม่ตอบรับชัดเจน ขออย่าดักหน้า ดักหลัง ให้โอกาสพิสูจน์ฝีมือทำงาน หากไม่ดี ปรับออกได้ ยันปรับ ครม.ทุกอย่างเรียบร้อยกลางเดือน ส.ค. 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี   กล่าวถึง โผคณะรัฐมนตรีที่ปรากฎบนหน้าสื่อ ว่า  สื่อไม่ได้เป็นคนปรับคณะรัฐมนตรี  จะเสนอชื่อใครก็ว่ากันไป แต่ในส่วนที่ตนทำอยู่  ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ และทาบทามบุคคล ต้องดูที่ไปที่มา ตรวจสอบคุณสมบัติ ต้องดูว่าบุคคลที่ถูกทาบทามตอบรับหรือไม่ ต้องทำให้เกิดความสมดุล 

“วันนี้ ผมต้องดูทั้งการเมือง การบริหาร และพรรคการเมือง ซึ่งมีปัญหาเยอะ แต่ผมสู้ไหว” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนการทาบทามนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทย นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ยืนยันตอบรับชัดเจน  เวลานี้ต้องให้กำลังใจคนที่จะเข้ามาทำงาน  

“อย่าไปดักหน้า ดักหลัง แล้วอย่างนี้จะไม่มีใครอยากเข้ามา ต้องให้โอกาสเข้ามาพิสูจน์ฝีมือ 6 เดือน หรือ 1 ปี ถ้าไม่ดีก็ปรับใหม่ได้ ไม่ใช่ว่า ครม.จะปรับครั้งเดียว” นายกรัฐมนตรี กล่าว  ส่วนจะปรับ ครม.เฉพาะตำแหน่งที่ว่างหรือไม่นั้น  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องปรับตามตำแหน่งที่ว่าง หรือปรับตามความเหมาะสมก็ได้ ซึ่งก็ปรับมาหลายครั้งแล้ว 

ส่วนข่าวยกหูโทรศัพท์หานายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เจรจาแลกเปลี่ยนตำแหน่งกระทรวงแรงงาน กับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า  “ทำไมต้องอยากรู้” 


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องการบริหาร บางเรื่องก็คุยกันได้ และหวังจะได้คณะรัฐมนตรีที่ดีในวันข้างหน้า เพราะทุกคนต้องกระตือรือร้น ไม่ว่าจะใครก็ตาม ไม่ใช่การเมืองเป็นเรื่องเดียวที่ต้องแก้ปัญหา ให้นึกถึงนายกรัฐมนตรีในการบริหารราชการ  ซึ่งมีเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบ  ขอให้เชื่อมั่น ในฐานะนายกรัฐมนตรีจะทำให้ดีที่สุด แต่จะถูกใจทุกคนหรือไม่คงเป็นไปไม่ได้ 

ต่อกรณีการวิ่งเต้นตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองจะเสนอมา เมื่อส่งมาถึง รัฐบาลก็ต้องรับฟังและดูความเหมาะสม เพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง หากเหมาะสมก็เป็นได้ ก็ต้องพิสูจน์ฝีมือ พร้อมย้ำว่าการปรับคณะรัฐมนตรี  ทุกอย่างจะแล้วเสร็จกลางเดือนสิงหาคม จะเร็วกว่านั้นไม่ได้   ผู้สื่อข่าวถามว่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามและเดินออกจากโพเดียมทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรี ถึงโอกาสได้ตำแหน่งรัฐมนตรีของนางนฤมล   นางนฤมลซึ่งนั่งรับฟังการแถลงข่าวอยู่  มีสีหน้าเรียบเฉย และลุกขึ้นเดิน ทำตัวนิ่งๆ ตามนายกรัฐมนตรีออกไป  .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว