ภูเก็ต 29 พ.ย.- ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ประกาศให้เวลา 2 เดือน โรงแรมนอกระบบ 1,366 แห่ง แสดงตัวเข้าสู่ระบบจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากเลยกำหนดตรวจเจอสั่งปิดทันที
นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหัวหน้าส่วนราชการแถลงออกประกาศการนำอาคารประเภทไปใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมว่า ปัจจุบันพบว่ามีการนำอาคารประเภทอื่น ๆ เช่น อาคารพาณิชย์ เกสเฮ้าส์ อพาร์ทเมนท์ คอนโดมิเนียม มาเปิดให้บริการรายวันเหมือนโรงแรม สร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมายและภาครัฐอย่างมาก จากการสำรวจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตพบการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย 424 แห่ง จำนวนห้องพัก 45,740 ห้อง และโรงแรมที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการโรงแรม มีทั้งสิ้น 1,366 แห่ง ส่วนจำนวนห้องพักนั้นไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่คาดว่ามีไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของห้องพักที่จดทะเบียนถูกต้อง ดังนั้น เพื่อให้โรงแรมที่ไม่ถูกต้องได้เข้าสู่ระบบทั้งหมด จึงได้ออกประกาศจังหวัดภูเก็ตการนำอาคารประเภทอื่นไปใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมมายื่นขออนุญาตได้ เพราะขณะนี้กฎหมายเปิดให้ดำเนินการได้แล้ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.2559 เป็นต้นมา ทำให้อาคารประเภทอื่นๆ ที่เปิดให้บริการรายวันแบบโรงแรมสามารถมายื่นขอจดทะเบียนเป็นโรงแรมได้
นายโชคชัย กล่าวว่า ให้โรงแรมทั้ง 1,366 แห่ง มายื่นคำขอตามแบบ ร.ร.1 พร้อมเอกสารประกอบที่มีอยู่ทั้งหมดต่ออำเภอท้องที่ภายในระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2559 ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2560 เพื่อแสดงตนพร้อมเข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย หากครบกำหนดแล้ว ยังมีโรงแรมที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดภูเก็ต ทางจังหวัดจะดำเนินการสั่งปิดโรงแรมทันที
นายโชคชัย อธิบายว่า โรงแรมที่ยังไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องนั้นจะแบ่งดำเนินการเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสีขาว เป็นโรงแรมที่ประสงค์จะจดทะเบียนให้ถูกต้องและสภาพอาคารอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำเป็นโรงแรมได้ กลุ่มสีเทา เป็นกลุ่มที่จะต้องปรับปรุงข้อบกพรองให้ได้ตามมาตรฐานของโรงแรม เช่น อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญ และกลุ่มสีดำ คือ กลุ่มไม่สามารถอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นโรงแรมได้ เช่น บุกรุกที่สาธารณะ ชายหาด ไม่ขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งกลุ่มนี้หากมายื่นขอ ทางจังหวัดจะเข้าไปตรวจสอบและคาดว่าจะไม่สามารถที่จะออกใบอนุญาตได้ จะต้องนำอาคารดังกล่าวกลับสู่ภาพเดิมตามที่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างในครั้งแรก.-สำนักข่าวไทย