มุกดาหาร 21 ก.ค. – วันนี้ คณะ กมธ.กฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ จ.มุกดาหาร ตรวจสอบการใช้หลักการทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องในการสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” ขณะที่ ผบช.ภ.4 ขอเวลาอีกไม่นานจะสรุปว่า จะเดินหน้าคดีต่อหรือไม่ หลังผ่านมากว่า 70 วัน ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงถึงผู้กระทำผิด
ระหว่างการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี มีชาวบ้านกกกอก ร้องเรียนว่า ถูกละเมิดสิทธิโดยตำรวจและสื่อมวลชน วันนี้ (21 ก.ค.) คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร จึงลงพื้นที่มาตรวจสอบ
ทันทีที่ฟังการบรรยายสรุปแล้วเสร็จ นายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการฯ พร้อมคณะ ได้เดินเท้าขึ้นภูเหล็กไฟ ต้องผ่านโขดหิน เส้นทางยากลำบาก พื้นที่สูงชันเป็นระยะ จากบ้าน “น้องชมพู่” ถึงจุดพบศพเกือบ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง การชั่งน้ำหนัก ลักษณะทางกายภาพต่อรูปคดี เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ส่วนตัวแล้ว ตนไม่เชื่อว่า หากมีการพลัดหลง “น้องชมพู่” จะเลือกทิศทางเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ น่าจะเลือกเดินลง การมีคนพาขึ้นมา จึงเป็นไปได้มากกว่า
ขณะที่ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ตำรวจสืบสวนสอบสวนตามพยานหลักฐานทุกมิติ ไม่มีการตั้งธง เมื่อพิสูจน์แล้วไม่ปรากฏตัวผู้กระทำความผิด ก็จะต้องยุติการสอบสวน แต่ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานต่ออีกสักระยะก่อน
ส่วนกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า มีการทำร้ายทรมาน “น้องชมพู่” จนเสียชีวิต ตำรวจไม่ให้ความสำคัญ เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวช และความเห็นยังแย้งกับแพทย์ที่ชันสูตรศพทั้ง 3 โรงพยาบาล
ในที่ประชุมรับความคิดเห็น เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พ่อแม่น้องชมพู่ และชาวบ้านบางส่วน สะท้อนปัญหาว่า ถูกสื่อมวลชนละเมิดสิทธิ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้เรียกสื่อที่ถูกพาดพิงเข้าชี้แจงในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.). – สำนักข่าวไทย