กระบี่ 20 ก.ค.-แพทย์เตือนระวังแมงมุมพิษ 5 ชนิด แนะวิธีสังเกต หากถูกกัดให้รีบล้างแผล-ประคบเย็น หากอาการรุนแรงให้รีบพบแพทย์ หากททำได้ให้นำตัวแมงมุมที่กัดไปด้วย
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าจากกรณีหญิงชาวกระบี่ถูกแมงมุมมีพิษไม่ทราบชนิดกัดที่ข้อมือซ้าย เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ข้อมือบวมแดง มีไข้หนาวสั่น จนเกิดอาการช็อกต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น ทำให้หลายคนกังวลว่า ช่วงหน้าฝนแบบนี้จะมีสัตว์มีพิษอย่างแมงมุมออกอาละวาดหรือไม่ แล้วแมงมุมชนิดใดที่มีอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ โดยแมงมุมมีพิษที่ประชาชนควรทราบมี 5 ชนิดคือ แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล, แมงมุมแม่ม่ายหลังแดง, แมงมุมมีพิษสีน้ำตาล, แมงมุมสันโดษเมดิเตอร์เรเนียน และแมงมุมแม่ม่ายดำ วิธีสังเกตลักษณะเด่นของแมงมุมมีพิษ คือบริเวณท้องจะป่องเป็นพิเศษซึ่ง ไม่เหมือนแมงมุมที่อยู่ตามบ้านเรือนทั่วไป
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า อาการทางผิวหนังของผู้ถูกแมงมุมมีพิษกัดมีตั้งแต่อาการเฉพาะที่ซึ่งไม่รุนแรงไปจนถึงอาการรุนแรงที่ทำให้เกิดแผลเนื้อตาย กรณีเป็นอาการทางผิวหนังสามารถดูแลเบื้องต้นได้ โดยรีบล้างทำความสะอาดบาดแผลและประคบเย็นบริเวณที่ถูกกัด หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ไม่ควรประคบร้อนที่แผล นอกจากนี้ พิษแมงมุมยังอาจทำให้เกิดอาการทางระบบอื่นๆ เช่น คลื่นไส้อาเจียน, ไข้ หรือปวดศีรษะ บางรายอาจถึงขั้นไตวายหรือภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือด อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันหลังโดนกัด ผู้ถูกแมงมุมพิษกัดควรรีบพบแพทย์ หากเป็นไปได้ให้นำตัวแมงมุมที่กัดไปให้แพทย์ดูด้วย
วิธีป้องกันแมงมุมกัดที่ได้ผลดีที่สุด คือไม่จับตัวแมงมุมหรือสวมถุงมือ เมื่อทำงานที่มีโอกาสเจอแมงมุม เช่น ทำสวน ปลูกต้นไม้ ขนฟืน เป็นต้น หมั่นทำความสะอาด ปัดใยแมงมุม หรือดูดด้วยเครื่องดูดฝุ่นบริเวณที่แมงมุมชอบมาชักใย หรือติดมุ้งลวดป้องกันไม่ให้แมงมุมเข้าบ้าน ไม่เปิดไฟทิ้งไว้ตอนกลางคืน เพื่อลดจำนวนแมลงเล่นไฟ เพราะแมลงเป็นเหยื่อของแมงมุม หมั่นตรวจตราตามตู้เสื้อผ้า ชั้นใต้หลังคา ห้องเก็บของ ลังเก็บของ หลังกรอบรูป ใต้เฟอร์นิเจอร์ ตรวจดูและเขย่ารองเท้าและเสื้อผ้า ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงในบริเวณที่แมงมุมชอบอาศัย กาวดักแมลงสาบสามารถใช้ดักจับแมงมุมในบริเวณที่แมงมุมชอบเดินผ่าน
ส่วนความคืบหน้า เด็กหญิงอายุ 8 ขวบ ที่จังหวัดกระบี่ ถูกแมงมุมกัด มีแผลบวมปวดจนถึงหัวไหล่ มีอาการอาเจียน มีไข้ แพทย์โรงพยาบาลปลายพระยาให้ยามาทาน จนอาการไข้ลดลง แต่ครอบครังยังกังวลเกรงจะเป็นแมงมุมมีพิษ เพราะแผลมีอาการบวมคล้ายกับหญิงวัย51ปี ที่ถูกแมงมุมกัดและเสียชีวิต นายแพทย์ณัฐพงษ์ ดูงาม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปลายพระยา เปิดเผยว่า เด็กหญิงเข้ารับการรักษา เมื่อวันที่ 13 และ15 ก.ค.ที่ผ่านมา ตรวจสอบแล้วเป็นแมงมุมบ้านไม่มีพิษ ซึ่งโดยปกติแล้วหากไม่ใช่สัตว์มีพิษกัดเช่น งูกัด หรือผึ้งต่อย ก็จะไม่ต้องให้นอนโรงพยาบาล ส่วนอาการบวม ผื่นแดง เกิดจากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันร่างกาย และน่าจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อ อาการดีขึ้นตามลำดับ อาการบวมจะหายไปเอง ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันร่างกายแต่ละคน เช่น บางคนโดนมดกัดก็ไม่ได้มีอาการอะไร แต่บางคนที่แพ้ก็จะเกิดอาการบวมขึ้นมา
สำหรับแมงมุมที่กัดเด็กหญิง8ขวบนั้นเป็นแมงมุมบ้าน ที่พบเห็นได้ทั่วไปลำตัวยาวประมาณ 1 นิ้ว มี 8 ขา และขายาว ชอบอยู่ตามมุมมืด ยืนยันว่าเป็นแมงมุมที่ไม่มีพิษ เตือนประชาชนหรือผู้ปกครองเด็ก อย่าตื่นตระหนกเกินไป เพราะหลายคนที่โดนแมงมุมชนิดนี้กัด แต่ก็ไม่ได้มีอาการอะไร เพียงแต่เกิดรอยแผลเท่านั้น
ขณะที่ น.ส.นันทนา แม่ของเด็กที่ถูกแมงมุมกัด เปิดเผยว่าขณะนี้แผลของลูกสาวไม่มีอาการบวมแล้ว แต่ถ้าไปโดนก็ยังเจ็บอยู่ ส่วนอาการไข้ก็หายดีแล้ว ซึ่งวันนี้ก็ให้ลูกสาวไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนสาเหตุที่กังวล เนื่องจากตอนที่พาลูกไปโรงพยาบาล และพาตัวแมงมุงไปให้ดู แต่ไม่มีใครสนใจ และไม่ได้บอกว่าเป็นแมงมุมชนิดใดมีพิษหรือไม่.-สำนักข่าวไทย