ทยอยแจ้งคืนหนังสือบุดโบราณ-สภา มรภ.นครศรีฯ มีมติพักงานอธิการบดี

นครศรีธรรมราช 19 ก.ค.- สภา มรภ.นครศรีฯ เร่งประสานกรมศิลปากร ช่วยดูแลจัดทำทะเบียนหนังสือบุดสมุดข่อยโบราณ หลังสูญหายจากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม และที่ประชุมมีมติให้พักงานอธิการบดีแล้ว ขณะที่ศูนย์รับบิณฑบาตฯ มีผู้ติดต่อขอส่งคืน และถือว่าไม่มีความผิดทางกฎหมาย





กรณีหนังสือบุดสมุดข่อยโบราณหายไปจากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดยประเมินจากข้อมูลแล้วน่าจะหายไปกว่า 1,000 เล่ม และเชื่อว่าเป็นการถูกโจรกรรม ขณะที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่ม หลังจับกุมแล้ว 1 ราย พร้อมกันนี้ได้มีการตั้งศูนย์รับบิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยจังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นในพิพิธภัณฑ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

นพ.บัญชา พงษ์พานิช ผู้สนับสนุนและประสานงานในการติดตามขอรับหนังสือบุดคืนจากผู้ครอบครอง กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์ 2 ราย จากจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งจะเข้าสู่การรับหนังสือกลับคืนมา โดยยืนยันว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับคดี และผู้ส่งคืนจะไม่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน


ด้านพระครูเหมเจติยาภิบาล หนึ่งในพระเถระที่ร่วมก่อตั้งศูนย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการแจ้งคืนมายังศูนย์อีก 3 ราย จากต่างจังหวัด โดยขอส่งผ่านทางระบบขนส่ง เมื่อหนังสือมาถึงจะเก็บไว้ในที่ปลอดภัยทันที จากนั้นจะมีกรรมการมาร่วมเปิดและตรวจสอบ ส่วนชื่อผู้ส่งจะถูกทำลายทิ้ง และยินดีที่จะรับหนังสือที่อยู่ในความครอบครองทั้งหลายล้วนแล้วทราบดีว่าที่มาของหนังสือที่ได้ไปครอบครั้งนั้นไม่ชอบด้วยศีลธรรม และกฎหมาย จึงเร่งขอบิณฑบาตกลับคืนสู่แผ่นดินนครศรีธรรมราชเพื่อเป็นสมบัติของชาติและศาสนา

ส่วนการประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชวานนี้ (18 ก.ค.) ซึ่งมีนายวิชัย แหวนเพชร นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช เป็นประธานนั้น

นายวิชัย กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติ 16 ต่อ 2 เสียง ให้พักการปฏิบัติหน้าที่ของนายฆณัฐ ธาตุทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยมีสาเหตุ 2 ประการคือ 1. พฤติกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย และ 2. มีข้อร้องเรียนในหลายประเด็นด้วยกัน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้มหาวิทยาลัยเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศิลปากร พร้อมทั้งตั้งทีมเข้าตรวจสอบหนังสือบุดที่ยังเหลือทั้งหมดในการชำระทะเบียนและเข้าสู่ขั้นตอนการศึกษาแปลความอย่างเป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ