นครศรีฯ ปิดศูนย์ศิลปวัฒนธรรม-เริ่มได้เค้าผู้เกี่ยวข้องหนังสือบุดโบราณหาย

นครศรีธรรมราช 22 ก.ค.- รก.อธิการบดี มรภ.นครศรีฯ เผยการสอบคืบหน้าเริ่มมีเบาะแสผู้เกี่ยวข้องหนังสือบุดโบราณหาย ส่วนศูนย์ศิลปวัฒนธรรมปิดห้ามเข้ารอพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขณะที่การขอส่งคืนทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นจากหลายจังหวัด ย้ำผู้ส่งคืนไม่มีความผิดทางกฎหมาย



ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมสถานที่เก็บรักษาหนังสือบุดสมุดข่อยโบราณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ขณะนี้ถูกปิดแล้วห้ามเข้าเด็ดขาด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจขอรักษาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไว้ก่อนจนกว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จจึงจะสามารถเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ ขณะที่นายธีรวัฒน์ ชางสาน ผู้ช่วยอธิการบดี รักษาราชการผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งวิทยาลัยศิลปะและวัฒนธรรม ผู้รับผิดชอบศูนย์ศิลปวัฒนธรรม ได้ทำรายงานการสูญหาย จำนวน 309 เล่ม โดยมีจุดที่สูญหายคือเล่มหนังสือบุดใหญ่ในตู้โชว์จำนวน 3 เล่ม บุดดำในตู้โชว์นอกห้องจำนวน 1 เล่ม และหนังสือบุดในตู้จัดเก็บจำนวน 305 เล่ม โดยไม่ได้ระบุจำนวนครอบครองหนังสือบุดที่แท้จริง


ด้าน ดร.สมปอง รักษาธรรม รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงคาดว่าเสร็จสิ้นภายใน 30 วัน และเริ่มมีเบาะแสของบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือผู้ต้องสงสัย โดยได้สอบพยานบุคคลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ผู้ดูแล นักศึกษาที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคนนอกว่าเกี่ยวข้องอย่างไร ซึ่งแนวทางการทำงานของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเป็นไปทิศทางเดียวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ


พระครูเหมเจติยาภิบาล พระสงฆ์ผู้ประสานงานศูนย์รับบิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การรับบิณฑบาตคืนมีแนวโน้มที่ดีมากหลังจากได้รับจากผู้ส่งมอบจาก จ.เพชรบุรี และขอนแก่นแล้ว และขอส่งคืนอีก 2 จังหวัด คือ จ.ลำปาง กับระยอง โดยหนึ่งในนั้นรับปากว่าจะช่วยตามหาเพื่อรวบรวมหนังสือบุดมาส่งคืนมาด้วย

“โดยผู้ที่ซื้อไปนั้นไม่รู้ว่าเป็นของที่โจรกรรมมา และยังคงยืนยันว่าผู้ที่ครอบครองและขอส่งคืนนั้นจะถือว่าเป็นผู้ที่มีเจตนาสุจริต เมื่อส่งกลับคืนมาแล้วศูนย์รับบิณฑบาตจะทำลายชื่อที่อยู่แหล่งผู้ส่งทันทีโดยไม่มีการขยายผลใดๆ” พระครูเหมเจติยาภิบาล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย