พช.ผนึกไอคอนสยามบูมโอทอปสู้โควิด จัดงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม”

ไอคอนสยาม 17 ก.ค.- กรมการพัฒนาชุมชน-สภาสตรีแห่งชาติฯ จับมือไอคอนสยาม จัดงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม” สานต่อพลังฟื้นเศรษฐกิจไทย สู้ภัยโควิด-19 เชิญชวนร่วมอุดหนุนให้กำลังใจผู้ประกอบการโอทอปจากทั่วประเทศ


วันนี้ (17 ก.ค.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางลักขณา นะวิโรจน์ ประธานโครงการสุขสยาม  นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่โครงการสุขสยาม ร่วมเปิดงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม” สุขกันเถอะเรา เล่าเรื่องเมืองสุขสยาม โดยมี นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานบริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมงาน ณ ชั้น G ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม



นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า หน้าที่หลักของกรมการพัฒนาชุมชนคือ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมุ่งมั่นสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2565 ครั้งนี้กรมการพัฒนาชุมชน และเมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ร่วมกันจัดงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม” ระหว่าง 16-29 ก.ค. 63 เพื่อสานต่อการรวมพลังคนไทยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย พร้อมสร้างความสุข ด้วยการชวนคนไทยอุดหนุนสินค้าไทย เพื่อช่วยกันสนับสนุนผู้ประกอบการ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ช่วยคนไทยหลังฝ่าภัยโควิด-19 โดยภายในงานได้คัดสรรสินค้าโอทอป ภูมิปัญญาไทย มาจำหน่ายใจกลางเมือง ซึ่งผลิตภัณฑ์โอทอปที่สำคัญในงานนี้ก็คือ “ผ้าไทย” จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 


“การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เป็นการทำงานแบบดาวกระจาย โดยได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมจากชุมชนทั่วประเทศมาจำหน่าย เงินทุกบาทที่ท่านได้เลือกซื้อสินค้า จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในชนบทดีขึ้น จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาร่วมกันสนับสนุนสินค้า สิ่งที่เราได้ทำในวันนี้ นอกจากจะช่วยเหลือครอบครัวเล็กๆ ได้แล้ว ก็ยังสามารถช่วยให้ประเทศก้าวพ้นวิกฤติในครั้งนี้ได้ด้วย” อธิบดี พช. กล่าว

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน กล่าวว่า เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจว่าหัตถศิลป์ของคนไทยของเราไม่แพ้ชาติใดในโลก และด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระองค์ท่านได้รื้อฟื้นในทุกมิติของผ้าไทย และปีนี้ผ้าไทยได้รับโอกาสอย่างยิ่งใหญ่ เพราะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบรับโครงการรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยการรณรงค์เชิญชวนคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา  

“ถ้าเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง คนส่วนใหญ่ของประเทศก็จะอยู่ได้ แม้จะเจอผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม ในวันนี้สิ่งที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยได้ คือการช่วยกันกินของไทย ใช้ของไทย สวมใส่ผ้าไทย รวมทั้งการมาช่วยกันสนับสนุนผู้ประกอบการที่โครงการสุขสยามในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน” ประธานสภาสตรีฯ กล่าว

ด้านนางลักขณา นะวิโรจน์ ประธานโครงการสุขสยาม  กล่าวว่า ในฐานะที่เมืองสุขสยามเป็นพื้นที่นำเสนอมหัศจรรย์วิถีไทยที่รวบรวมสิ่งดีงามจากทั่วประเทศสู่สายตาชาวโลก เมืองสุขสยาม จึงร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน จัดงาน ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นใจเมือง ชาวเมืองสุขสยาม ที่กำลังประสบปัญหาสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 พร้อมเปิดการค้าโลกสู่ยุควิถีแบบวิถีชีวิตปกติใหม่ พร้อมร่วมพัฒนา และเสริมสร้างผู้ประกอบการให้เติบโตไปอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เมืองสุขสยาม ยังคงเอกลักษณ์เมืองสารพัดสุข สนุกแบบไทย โดยการสร้างปรากฏการณ์การแสดง สุขสยามกันเถอะเรา เพื่อสร้างสีสัน และความสุข ซึ่งเชื่อว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะช่วยสร้างบรรยากาศความสุข และขอให้ทุกคนมีความมั่นใจว่าทุกพื้นที่ของสุขสยาม ยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยขั้นสูงสุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการอย่างดีที่สุด 

ส่วนนายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่โครงการสุขสยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดประตู การค้าโลกในมิติ วิถีชีวิตปกติใหม่ เป็นการต่อยอด ความสร้างสรรค์ และมูลค่าเพิ่มในการร่วมพัฒนาสินค้าชุมชนสู่ตลาดโลก ประกาศจุดยืนแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการโอทอป พร้อมกับเชื่อมฐานผู้ประกอบการทั่วทั้งประเทศไทย และถอดรหัสความต้องการของตลาดสากล รวมถึงตอบโจทย์ร้านค้า จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ โดยตลอดปี 2563 เมืองสุขสยาม จะมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมประเพณีและความเป็นไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีกิจกรรมสนับสนุนโอทอป ตามเส้นทางพระเจ้าตาก จากอยุธยา สู่กรุงธนบุรี อีกด้วย

ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม” ประกอบไปด้วย “OTOP TO THE TOWN : ภูมิปัญญาไทย ใจกลางเมือง ช่วยคนไทยหลังฝ่าภัยโควิด” รวบรวมร้านค้า 4 ภาค อาทิ Walee ลายผ้าบนผิวน้ำ จ.อยุธยา, กลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้านผาสิงห์ จ.อุดรธานี, กลุ่มทอผ้าและตัดเย็บบ้านหาดเสี้ยว จ.สุโขทัย, กระจูดวรรณี จ.พัทลุง, ลำพูนไหมไทย จ.ลำพูน เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมีการแสดงสุขสยาม กันเถอะเรา  การแสดงวัฒนธรรมไทย 4 ภาค  ภายใต้วิถีชีวิตแบบวิถีปกติใหม่ (New Normal) มีแรงบันดาลใจ เพื่อฟื้นใจเมืองสุขสยาม ผ่านเรื่องราว สร้างกำลังใจให้กับร้านค้า  สร้างบรรยากาศให้เมืองมีประสบการณ์สารพัดสุข สนุกแบบไทย พร้อมสอดแทรกการประชาสัมพันธ์ร้านค้าในเรื่องราวที่แสดง โดยแบ่งการแสดงเป็น 5 องค์ อาทิ องค์ 1 “ม่วนซื่นคืนสุข” (ภาคเหนือ) องค์ 2 “สนุกหรอยแรง” (ภาคใต้)  องค์ 3 แซงแซ่บอีหลี” (ภาคอีสาน)  องก์ 4 “สีสันภาคกลาง” (ภาคกลาง) และองก์ 5 “วางทุกข์สุขกันเถอะเรา” (Finale) พร้อมละครสั้น ละครบุพเพเฮฮา (ออเจ้า) และละครพญาน้อยชมตลาด ซึ่งเป็นการแสดงในรูปแบบ The Musical Lip sync Show โดยผู้แสดงใส่หน้ากากผ้าลวดลายหน้าพระ ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานได้ทุกวัน ระหว่าง 16-29 ก.ค. 63 ณ ชั้น G เมืองสุขสยาม ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]