พช.ผนึกไอคอนสยามบูมโอทอปสู้โควิด จัดงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม”

ไอคอนสยาม 17 ก.ค.- กรมการพัฒนาชุมชน-สภาสตรีแห่งชาติฯ จับมือไอคอนสยาม จัดงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม” สานต่อพลังฟื้นเศรษฐกิจไทย สู้ภัยโควิด-19 เชิญชวนร่วมอุดหนุนให้กำลังใจผู้ประกอบการโอทอปจากทั่วประเทศ


วันนี้ (17 ก.ค.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางลักขณา นะวิโรจน์ ประธานโครงการสุขสยาม  นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่โครงการสุขสยาม ร่วมเปิดงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม” สุขกันเถอะเรา เล่าเรื่องเมืองสุขสยาม โดยมี นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานบริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมงาน ณ ชั้น G ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม



นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า หน้าที่หลักของกรมการพัฒนาชุมชนคือ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมุ่งมั่นสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2565 ครั้งนี้กรมการพัฒนาชุมชน และเมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ร่วมกันจัดงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม” ระหว่าง 16-29 ก.ค. 63 เพื่อสานต่อการรวมพลังคนไทยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย พร้อมสร้างความสุข ด้วยการชวนคนไทยอุดหนุนสินค้าไทย เพื่อช่วยกันสนับสนุนผู้ประกอบการ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ช่วยคนไทยหลังฝ่าภัยโควิด-19 โดยภายในงานได้คัดสรรสินค้าโอทอป ภูมิปัญญาไทย มาจำหน่ายใจกลางเมือง ซึ่งผลิตภัณฑ์โอทอปที่สำคัญในงานนี้ก็คือ “ผ้าไทย” จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 


“การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เป็นการทำงานแบบดาวกระจาย โดยได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมจากชุมชนทั่วประเทศมาจำหน่าย เงินทุกบาทที่ท่านได้เลือกซื้อสินค้า จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในชนบทดีขึ้น จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาร่วมกันสนับสนุนสินค้า สิ่งที่เราได้ทำในวันนี้ นอกจากจะช่วยเหลือครอบครัวเล็กๆ ได้แล้ว ก็ยังสามารถช่วยให้ประเทศก้าวพ้นวิกฤติในครั้งนี้ได้ด้วย” อธิบดี พช. กล่าว

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน กล่าวว่า เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจว่าหัตถศิลป์ของคนไทยของเราไม่แพ้ชาติใดในโลก และด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระองค์ท่านได้รื้อฟื้นในทุกมิติของผ้าไทย และปีนี้ผ้าไทยได้รับโอกาสอย่างยิ่งใหญ่ เพราะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบรับโครงการรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยการรณรงค์เชิญชวนคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา  

“ถ้าเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง คนส่วนใหญ่ของประเทศก็จะอยู่ได้ แม้จะเจอผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม ในวันนี้สิ่งที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยได้ คือการช่วยกันกินของไทย ใช้ของไทย สวมใส่ผ้าไทย รวมทั้งการมาช่วยกันสนับสนุนผู้ประกอบการที่โครงการสุขสยามในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน” ประธานสภาสตรีฯ กล่าว

ด้านนางลักขณา นะวิโรจน์ ประธานโครงการสุขสยาม  กล่าวว่า ในฐานะที่เมืองสุขสยามเป็นพื้นที่นำเสนอมหัศจรรย์วิถีไทยที่รวบรวมสิ่งดีงามจากทั่วประเทศสู่สายตาชาวโลก เมืองสุขสยาม จึงร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน จัดงาน ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นใจเมือง ชาวเมืองสุขสยาม ที่กำลังประสบปัญหาสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 พร้อมเปิดการค้าโลกสู่ยุควิถีแบบวิถีชีวิตปกติใหม่ พร้อมร่วมพัฒนา และเสริมสร้างผู้ประกอบการให้เติบโตไปอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เมืองสุขสยาม ยังคงเอกลักษณ์เมืองสารพัดสุข สนุกแบบไทย โดยการสร้างปรากฏการณ์การแสดง สุขสยามกันเถอะเรา เพื่อสร้างสีสัน และความสุข ซึ่งเชื่อว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะช่วยสร้างบรรยากาศความสุข และขอให้ทุกคนมีความมั่นใจว่าทุกพื้นที่ของสุขสยาม ยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยขั้นสูงสุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการอย่างดีที่สุด 

ส่วนนายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่โครงการสุขสยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดประตู การค้าโลกในมิติ วิถีชีวิตปกติใหม่ เป็นการต่อยอด ความสร้างสรรค์ และมูลค่าเพิ่มในการร่วมพัฒนาสินค้าชุมชนสู่ตลาดโลก ประกาศจุดยืนแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการโอทอป พร้อมกับเชื่อมฐานผู้ประกอบการทั่วทั้งประเทศไทย และถอดรหัสความต้องการของตลาดสากล รวมถึงตอบโจทย์ร้านค้า จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ โดยตลอดปี 2563 เมืองสุขสยาม จะมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมประเพณีและความเป็นไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีกิจกรรมสนับสนุนโอทอป ตามเส้นทางพระเจ้าตาก จากอยุธยา สู่กรุงธนบุรี อีกด้วย

ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงาน “ฟื้นใจเมือง ชาวสุขสยาม” ประกอบไปด้วย “OTOP TO THE TOWN : ภูมิปัญญาไทย ใจกลางเมือง ช่วยคนไทยหลังฝ่าภัยโควิด” รวบรวมร้านค้า 4 ภาค อาทิ Walee ลายผ้าบนผิวน้ำ จ.อยุธยา, กลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้านผาสิงห์ จ.อุดรธานี, กลุ่มทอผ้าและตัดเย็บบ้านหาดเสี้ยว จ.สุโขทัย, กระจูดวรรณี จ.พัทลุง, ลำพูนไหมไทย จ.ลำพูน เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมีการแสดงสุขสยาม กันเถอะเรา  การแสดงวัฒนธรรมไทย 4 ภาค  ภายใต้วิถีชีวิตแบบวิถีปกติใหม่ (New Normal) มีแรงบันดาลใจ เพื่อฟื้นใจเมืองสุขสยาม ผ่านเรื่องราว สร้างกำลังใจให้กับร้านค้า  สร้างบรรยากาศให้เมืองมีประสบการณ์สารพัดสุข สนุกแบบไทย พร้อมสอดแทรกการประชาสัมพันธ์ร้านค้าในเรื่องราวที่แสดง โดยแบ่งการแสดงเป็น 5 องค์ อาทิ องค์ 1 “ม่วนซื่นคืนสุข” (ภาคเหนือ) องค์ 2 “สนุกหรอยแรง” (ภาคใต้)  องค์ 3 แซงแซ่บอีหลี” (ภาคอีสาน)  องก์ 4 “สีสันภาคกลาง” (ภาคกลาง) และองก์ 5 “วางทุกข์สุขกันเถอะเรา” (Finale) พร้อมละครสั้น ละครบุพเพเฮฮา (ออเจ้า) และละครพญาน้อยชมตลาด ซึ่งเป็นการแสดงในรูปแบบ The Musical Lip sync Show โดยผู้แสดงใส่หน้ากากผ้าลวดลายหน้าพระ ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานได้ทุกวัน ระหว่าง 16-29 ก.ค. 63 ณ ชั้น G เมืองสุขสยาม ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย