หญิงท้องโดนแฟนซ้อมน่วมแถมขู่แทงให้ตาย

นนทบุรี 16 ก.ค.-สาวท้อง โดนแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายทุบตีใบหน้าจนตาบวมช้ำ แถมขู่ใช้มีดแทงตาย ร้องปวีณาช่วยเร่งคดี


เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 ก.ค.63 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.เอม (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง ผกก.สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ น.ส.เอม ถูกนายอภิวัฒน์ อายุ 25 ปี แฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายทุบตีใบหน้าจนตาบวมช้ำ และพูดข่มขู่ว่าถ้าเเทงตาย จะติดคุกกี่ปี จน น.ส.เอม หวาดกลัวได้เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ค.เวลาประมาณ 21.00 น.   


น.ส.เอม กล่าว่า ตนคบหาอยู่กินกับฝ่ายชายมาประมาณ 1 ปี ช่วงเดือนเมษายนตนตั้งท้องได้ 3 เดือน จึงมาเช่าห้องอยู่กับฝ่ายชาย แต่ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันแฟนก็ทำร้ายร่างกายมาตลอด ครั้งแรกถูกทำร้ายเมื่อปลายเดือน ธ.ค.62 ต้องเข้า รพ.พระนั่งเกล้า พักรักษาตัว 11 วัน เพราะซี่โครงร้าว ม้ามแตก ตับฉีก แต่ตนไม่ได้แจ้งความ เพราะทุกครั้งที่แฟนทำร้ายจะพูดจาข่มขู่ และบอกว่ารู้จักกับตำรวจหลายคน จึงตัดสินใจเลิกกับแฟนโดยหนีไปอยู่บ้านแม่ย่านสนามบินน้ำพร้อมทั้งบล็อกโทรศัพท์ไม่ให้ติดต่อ แต่ทางแฟนก็พยายามตามตื้อโดยให้น้องชายของแฟนโทรเข้ามาหลอกว่าให้มาเอาของที่ห้อง 

จนเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมาตนได้ขึ้นรถแท็กซี่ เพื่อจะกลับไปนอนบ้านแม่ แต่คนขับรถแท็กซี่กลับขับรถพาตนไปอีกทางแล้วบอกว่าแฟนหนูรออยู่ จากนั้นคนขับแท็กซี่ขับมาจอดต่อท้ายรถแฟน แล้วแฟนก็เดินลงมาจากรถ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงขอร้องคนขับรถแท็กซี่ว่าอย่าเปิดล็อกประตูรถเพราะต้องถูกทำร้ายแน่นอน ตนจึงล็อกประตูไว้แต่คนขับแท็กซี่ได้เปิดล็อกประตูให้ จนแฟนเปิดประตูเข้ามากระชากตนลงจากรถ และได้จ่ายเงินให้คนขับแท็กซี่ไป จากนั้นทางฝ่ายชายได้ฉุดกระชากตนเข้าไปในรถของเขา แล้วตบตี ต่อย จับหัวกดลง และพูดว่าถ้าแทงตาย ต้องติดคุกกี่ปี 


ด้านนายจำเริญ ละเมียดดี กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนจอดรอรับลูกค้าที่หน้าตลาดบางใหญ่ซิตี้ มีเพื่อนแท็กซี่บอกว่ามีลูกค้าต้องการใช้รถแท็กซี่ 2 คัน ตนจึงวนรถมาจอดข้างคอนโดบางใหญ่ซิตี้ จากนั้นมีผู้ชายลงจากลงรถเก๋งสีดำ และเดินมาบอกกับตนว่าทะเลาะกับเเฟนให้ไปรอรับแฟน เนื่องจากเเฟนไม่ยอมนั่งรถไปกับตน ตนกับเพื่อนเเท็กซี่จึงไปรอรับหน้าบริษัท แล้วชายดังกล่าวได้นั่งรถแท็กซี่อีกคันตามหลังมา หลังรับฝ่ายหญิงแล้วได้ให้ตนไปส่งที่จอดรถเก๋ง พอมาถึงฝ่ายชายได้ไปเปิดประตูรถด้านหน้าและจับแขนผู้หญิง ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้ล็อกรถ แต่ถ้าล็อกแล้วมีคนเปิด ตัวล็อกจะดีดขึ้นทำให้สามารถเปิดรถได้และตนก็เห็นว่าฝ่ายชายดึงน้องผู้หญิงออกจากรถ และน้องผู้หญิงร้องไห้ ตนจึงคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเห็นว่าเป็นสามีภรรยากัน ยืนยันไม่เห็นเหตุการณ์หลังจากนี้ เพราะตอนลงจากรถทุกอย่างก็ปกติดี ถ้ามีการทำร้ายร่างกายภายในรถตนก็ไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างเเน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย