กรมอนามัยชี้ “หญิงท้อง-หญิงให้นมลูก” ฉีดวัคซีนโควิดได้

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – กรมอนามัย เผยมติที่ประชุมคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็กแห่งชาติ “หญิงท้อง-หญิงให้นมลูก” ฉีดวัคซีนโควิดได้ พิจารณาตามความเสี่ยง มีโรคประจำตัว


กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลการประชุมคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็กแห่งชาติ มติที่ประชุมเห็นชอบให้หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมลูก สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ เพื่อลดความเสี่ยง แต่ต้องพิจารณาตามความเสี่ยง หรือมีโรคประจำตัว อยู่ในพื้นที่มีการระบาดสูง ปฏิบัติงานพบปะผู้คน พร้อมย้ำควรฉีดหลังอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป รับบริการได้ที่โรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ ทั้งภาครัฐและเอกชน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน กลุ่มหญิงตั้งครรภ์จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสจะเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ จึงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยจากการสำรวจของกรมอนามัย ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2563 – 27 พฤษภาคม 2564 พบว่า มีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 288 ราย ซึ่งแม้ว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 70 ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย แต่ก็พบหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตจากภาวะปอดอักเสบที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว จำนวน 6 ราย ทารกเสียชีวิตในครรภ์ จำนวน 1 ราย อัตราคลอดก่อนกำหนด ร้อยละ 18 เด็กทารกคลอดออกมาแล้วติดเชื้อ จำนวน 17 ราย


นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า จากผลการประชุมคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็กแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 โดยมี นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมนั้น ที่ประชุมซึ่งประกอบด้วย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย เลขาธิการแพทยสภา ผู้แทนจากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมติเห็นชอบให้หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมลูก สามารถรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ แต่ต้องพิจารณาจัดลำดับตามความเสี่ยงในรายที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ หอบหืด ปอด ไทรอยด์ หรือ อ้วน รวมถึงในรายที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อ ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดสูง แนะนำให้ได้รับการฉีดวัคซีนหลังอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ซึ่งหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมลูกจะต้องได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ ผลข้างเคียงของวัคซีน ความเสี่ยงที่จะติดโรคโควิด-19 และความรุนแรงของโรค ก่อนการตัดสินใจ โดยสามารถรับบริการฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ ทั้งภาครัฐและเอกชน

“ทั้งนี้ หลังการฉีดวัคซีน หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมลูกยังคงต้องปฏิบัติตนตามมาตรการ DMHTTA อย่างเคร่งครัด ด้วยการเว้นระยะห่างจากบุคคลใกล้ชิด สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือเป็นประจำ งดออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น งดใช้ของส่วนตัวร่วมกันกับคนในบ้าน และประเมินความเสี่ยงตนเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” สำหรับสมาชิกในบ้านควรให้ความสำคัญในการช่วยปกป้องหญิงตั้งครรภ์จากการสัมผัสเชื้อ โดยให้คิดไว้เสมอว่า หญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเปราะบาง และมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้