ศาลปกครองเพชรบุรีสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินคอนโดหรู วีรันดา หัวหิน

เพชรบุรี 16 ก.ค.- ศาลปกครองเพชรบุรี สั่งเพิกถอนโฉนดที่ดิน 4 แปลงคอนโดหรู วีรันดา หัวหิน  ติดเขาตะเกียบ ออกโดยไม่ชอบ ทับทางสาธารณะเขาตะเกียบ  ระบุ หลักฐานตราจอง ภาพถ่ายทางอากาศ ยืนยันชัดไม่มีส่วนใดของแปลงที่ดินติดชายหาดหัวหิน – เขาตะเกียบ  พร้อมสั่งเทศบาลรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างคืนสภาพถนนให้เสร็จใน 90 วัน


วันนี้ (16 ก.ค.) ศาลปกครองเพชรบุรีมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินของบริษัท วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรูใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรณีออกโฉนดที่ดินทับถนน ทางสาธารณะและให้เทศบาลเมืองหัวหินรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำ พร้อมปรับปรุงให้เป็นถนนสาธารณะดังเดิม ภายใน 90 วัน

คดีนี้ นายสมศักดิ์ เขียวขำ พร้อมพวก รวม 6 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ยื่นฟ้องอธิบดีกรมที่ดิน เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน  กล่าวหาว่ารังวัดออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 9155 ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  รุกล้ำหรือทับทางสาธารณะ บริเวณเลียบชายหาดทะเลหัวหิน  หรือชายหาดสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และทางสาธารณะเลียบเชิงเขาตะเกียบ ด้านทิศตะวันตกของเขาตะเกียบ ที่ชาวบ้านและชาวประมงใช้สัญจรมาเป็นเวลานาน  ทำให้ทางสาธารณะส่วนที่อยู่เลียบชายหาดหายไปทั้งหมด รวมทั้ง ส่วนที่เป็นถนนลาดยางถัดไปถูกรุกล้ำจนแคบ   ปัจจุบันบริษัทวีรันดา เจ้าของที่ดินก่อสร้างกำแพงถาวร ล้ำส่วนที่ยังมีสภาพเป็นถนนลาดยางให้แคบไปทางทิศเหนือ รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ จึงขอให้ศาลเพิกถอนโฉนดที่ดิน หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตามโฉนด เพื่อกันเป็นเขตทางสาธารณะ และเพิกถอนโฉนดที่ดิน ที่ออกทับทางสาธารณะเต็มแปลง


ส่วนเหตุผลที่ศาลพิพากษาเพิกถอนโฉนด ระบุว่า เดิมที่ดินพิพาทเป็นตราจองที่ตราว่า “ได้ทำประโยชน์แล้ว” เลขที่ 866 ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุแนวเขตไว้ชัดเจนว่า ทิศตะวันออกและทิศเหนือจดทางสาธารณประโยชน์ สอดคล้องกับรูปแผนที่จำลองของที่ดินแนบท้ายตราจอง  และตามรายงานการวิเคราะห์การใช้ประโยชน์ที่ดินจากภาพถ่ายทางอากาศ ฉบับเดือนมกราคม 2546 ซึ่งได้อ่าน แปลความ วิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศของที่ดินพิพาทและที่ดินริมคลองตะเกียบ เมื่อปี พ.ศ. 2519 ก่อนเปลี่ยนตราจองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 ปรากฏให้เห็นชัดเจนว่า เป็นถนนหรือทางสาธารณะ ในลักษณะที่เป็นเส้นสีขาวต่อเนื่องกัน จากแนวเขตที่ดินด้านทิศเหนือของที่ดินแปลงพิพาท เชื่อมต่อไปตามแนวเขตด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตลอดแนว และเชื่อมต่อขึ้นไปยังวัดเขาตะเกียบ ในลักษณะเป็นทางสาธารณะสายเดียวต่อเนื่องกันอย่างไม่ถูกตัดตอนจากกัน สอดคล้องกับรายงานผลการตรวจสอบของเทศบาลเมืองหัวหินที่สรุปว่า ทางสาธารณะที่พิพาท เดิมเป็นทางเดินเท้า ผิวหน้าดินที่คั่นอยู่ระหว่างคลองตะเกียบ และแปลงที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 กับภูเขาตะเกียบ ตลอดตามแนวยาวของแปลงที่ดินดังกล่าวทางด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดิน ซึ่งเป็นทางสาธารณะที่ประชาชนใช้สัญจรต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน  

พยานหลักฐานดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ตราจองของบริษัท วีรันดา   เมื่อครั้งที่เป็นที่ดินตราจอง แนวเขตที่ดินด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดิน จะติดกับถนนหรือทางสาธารณะตลอดแนว ไม่มีส่วนใดของแปลงที่ดินติดชายหาดทะเลหัวหิน หรือชายหาดทะเลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บริเวณด้านเหนือของเขาตะเกียบ และไม่มีส่วนใดของแปลงที่ดิน ติดพื้นที่เขาตะเกียบ โดยไม่มีถนนหรือทางสาธารณะกั้นอยู่ แต่เมื่อเปลี่ยนตราจองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 ทำให้แนวทางสาธารณะสูญหายไปจากหลักฐานโฉนดที่ดินทั้งหมด และมีการระบุแนวเขตด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินที่ต่อจากชายหาดทะเลในหลักฐานโฉนดที่ดินใหม่ เป็นติดกับพื้นที่เขาตะเกียบทั้งหมด ไม่มีแนวทางสาธารณะตามที่ปรากฏอยู่ในตราจองอีก โดยแนวทางสาธารณะที่หายไป ปัจจุบันเป็นแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 80321 ซึ่งตามรายงานผลการรังวัดแนวเขตตามโฉนดที่ดินของบริษัทวีรันดา  อยู่ลึกเข้าไปกินเนื้อที่ของถนนลาดยาง ทำให้บางส่วนของผิวจราจรถนนลาดยางทับซ้อนเข้าไปในเขตหลักหมุดที่ดิน ประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร

แสดงให้เห็นว่าการรังวัดเพื่อเปลี่ยนตราจองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 มีการเปลี่ยนแปลงแนวเขตด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินให้ติดชายหาดทะเล และติดพื้นที่เขาตะเกียบแทน ทำให้ทางสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 81256 และทำให้ทางสาธารณะที่ต่อจากชายหาดทะเลเข้าไปกั้นระหว่างแปลงที่ดินพิพาทกับพื้นที่เขาตะเกียบสูญหายไปทั้งหมด โดยทำให้ถนนหรือทางสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 81254 เต็มแปลง และเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 82765 เต็มแปลง ทำให้แนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 80321 รุกล้ำทางสาธารณะที่เป็นทางลาดยางปัจจุบันตลอดแนวด้วย การรังวัดเพื่อเปลี่ยนตราจองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 ทำให้ถนนหรือทางสาธารณะที่เคยมีอยู่ กลายเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินพิพาท เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทำให้โฉนดที่ดินของบริษัทวีรันดา ที่แบ่งแยกจากที่ดินแปลงดังกล่าวทุกฉบับ ในส่วนที่เคยเป็นถนนหรือทางสาธารณะที่ติดกับแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตลอดแนว ในส่วนที่เป็นพื้นที่ของโฉนดที่ดินแต่ละฉบับ เป็นโฉนดที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย


จึงพิพากษาให้เพิกถอนโฉนดที่ดินของบริษัทวีรันดา  เลขที่ 81256 เฉพาะส่วนที่เป็นพื้นที่แนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออก กว้าง 5 เมตร ที่ติดกับแนวชายหาดทะเล ของแปลงที่ดินดังกล่าวตลอดแนว  โฉนดที่ดินเลขที่ 81254 เต็มแปลง   โฉนดที่ดินเลขที่ 82765 เต็มแปลง และ  โฉนดที่ดินเลขที่ 80321 ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะส่วนที่รุกล้ำหรือทับซ้อนกับแนวเขตถนนลาดยางหรือแนวเขตถนนเดิม ตามแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตลอดแนว เพื่อให้ถนนลาดยางหรือถนนเดิมมีความกว้าง 5 เมตร ตลอดแนวเขตที่ดินดังกล่าวดังเดิม

ให้อธิบดีกรมที่ดินกับพวกรังวัดกันเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินใหม่ เพื่อถอยร่นเข้าไปในแปลงที่ดินของบริษัท วีรันดา  ให้เป็นถนนหรือทางสาธารณะตามผลการเพิกถอนโฉนดที่ดินทั้ง 4 แปลงดังกล่าว โดยให้เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน แจ้งให้นายสมศักดิ์กับพวก เข้าร่วมสังเกตการณ์ รวมทั้ง แจ้งกำหนดนัดการรังวัดพร้อมส่งสำเนาคำพิพากษาให้เทศบาลเมืองหัวหิน สำนักงานเจ้าท่าที่รับผิดชอบในพื้นที่ นายอำเภอหัวหิน ผู้ปกครองท้องที่ หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ส่งตัวแทนเข้าร่วมดำเนินการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้ส่งมอบแนวเขตถนนหรือทางสาธารณะตามผลการรังวัดกันเขตดังกล่าวให้แก่เทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อให้เทศบาลเมืองหัวหินเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำทางสาธารณะ และทำการก่อสร้างปรับปรุงให้เป็นถนนสาธารณะดังเดิมต่อไป  ทั้งนี้  ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา  .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย