fbpx

ธอส. ปล่อยกู้ใหม่ ครึ่งปีแรก กว่า 100,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยแม้เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) แต่ผลการดำเนินงานสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 ธนาคารยังคงสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่  ได้ถึง 100,981 ล้านบาท จำนวน 62,116 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.99% 


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 ว่า ธอส.สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เป็นจำนวน 100,981 ล้านบาท 62,116 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.99% คิดเป็น 50% ของเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2563 ที่จำนวน 210,000 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้จำนวน 40,504 ราย    ขณะที่ ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,256,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.89% สินทรัพย์รวม 1,300,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.52% เงินฝากรวม 1,060,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.76% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 56,827 ล้านบาท คิดเป็น 4.52% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 ที่มี NPL อยู่ที่ 4.09% หรือเพิ่มขึ้น 0.43% และมีกำไรสุทธิจำนวน 4,831 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 14.87% เนื่องจากธนาคารได้ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อความมั่นคงและเตรียมความพร้อมกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในอนาคต และรองรับการจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ผ่านโครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ ครอบคลุมความช่วยเหลือทั้งการพักชำระเงินต้น พักชำระดอกเบี้ย และลดดอกเบี้ย เป็นต้น

ทั้งนี้ ล่าสุด  วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 เวลา 9.00 น. มีลูกค้าแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการแล้วจำนวน 490,725 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 488,024 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งโดย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 อยู่ 15.35% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย


“สาเหตุสำคัญที่ทำให้สินเชื่อปล่อยใหม่ของธนาคารยังคงขยายตัวได้ดี คือ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และการจัดทำโปรโมชั่นกระตุ้นการขายของโครงการที่อยู่อาศัย ถือเป็นโอกาสที่ดีในการมีที่อยู่อาศัยของลูกค้าประชาชนที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รวมถึงมาตรการสนับสนุนของภาครัฐผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. กรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี คงที่ 3 ปีแรก มียอดอนุมัติสินเชื่อ 27,870 ราย เต็มกรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท โครงการบ้านดีมีดาวน์ ซึ่งรัฐลดภาระในการซื้อที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน โดยสนับสนุนเงินดาวน์จำนวน 50,000 บาทต่อราย ซี่งมีประชาชนที่ได้รับเงินโอนเรียบร้อยแล้ว 19,549 ราย ขณะที่โครงการบ้านล้านหลัง ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขกรณีลูกค้ารายย่อย โดยเพิ่มราคาซื้อขายและวงเงินกู้เป็นไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท ล่าสุดมีลูกค้าที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 29,931 ราย วงเงินสินเชื่อ 21,362 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงินโครงการ 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2564”นายฉัตรชัย กล่าว

นายฉัตรชัย ยังกล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังเผชิญกับปัญหาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ต่อเนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก กระทรวงการคลังจึงได้เปิดให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจปรับเป้าหมายผลการดำเนินงานในปี 2563 อีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการธนาคารได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเป้าหมายสินเชื่อปล่อยใหม่เพื่อเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาจากเดิม 210,000 ล้านบาท ลดลงเหลือ 170,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิลดลงจาก 13,177 ล้านบาท เหลือ 8,227 ล้านบาท สอดคล้องกับการตั้งสำรองที่สูงขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLs หลังจากสิ้นสุดระยะเวลามาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ของธนาคารในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่พักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ย ซึ่งในเดือนสิงหาคมหรือก่อนสิ้นสุดระยะเวลาของมาตรการจำนวน 30 วัน เจ้าหน้าที่ธนาคารจะทยอยติดต่อลูกค้าเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต และหาแนวทางช่วยเหลือให้ลูกค้ากลับมามีสถานะบัญชีปกติให้มากที่สุดต่อไป  

นอกจากนี้ ธอส. ยังพบว่า จากการที่ลูกค้าของธนาคารมีความต้องการและเกิดความคุ้นเคยที่จะใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นเห็นได้จาก ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ธนาคารมีจำนวนลูกค้าที่สมัครใช้บริการ Application : GHB ALL และยังใช้งานอยู่จำนวน 656,783 บัญชี เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่มีจำนวนลูกค้าใช้งานอยู่ 242,180 บัญชี และปัจจุบันลูกค้ามีการทำธุรกรรมการโอนเงินและชำระหนี้เงินกู้ผ่าน GHB ALL จำนวน 509,123 รายการ เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่มีการทำธุรกรรมจำนวน 375,981 รายการ หรือเพิ่มขึ้น 35.4% ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับพฤติกรรมของยังลูกค้าและการแข่งขันของธุรกิจสถาบันการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ธนาคารจึงได้จัดทำแผน GHB New Normal Services ด้วยการนำบริการทางการเงินและสินเชื่อไปให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มเติมผ่าน Application : GHB ALL และเว็บไซต์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ www.ghbank.co.th โดยแบ่งระยะเวลาดำเนินการออกเป็น 2 เฟส ประกอบด้วย


เฟสที่ 1 บริการทางด้านการเงินและสินเชื่อ อาทิ สมัครใช้บริการ GHB ALL ด้วยตนเอง เปิดบัญชีใหม่ ชำระเงินผ่อนดาวน์ทรัพย์ NPA ขอ Statement บัญชีเงินฝาก เปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งเอกสาร/การติดต่อ ซื้อสลากออมทรัพย์ การนัดหมายเข้าทำธุรกรรม ขอยอดปิดบัญชีเงินกู้ นัดหมายขอรับโฉนด ขอหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้  ขอใบแทนใบเสร็จ และการประมูลทรัพย์ NPA Online ซึ่งจะเปิดให้บริการลูกค้าได้ภายในวันที่ 16 กันยายน 2563 ส่วนเฟสที่ 2 จะเพิ่มบริการ อาทิ ชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าประเมินราคาหลักประกัน การรับเงินค่าธรรมเนียมคืนตามโปรโมชั่น การรับเงินของขวัญปีใหม่ที่ธนาคารมอบให้ลูกค้าตามจำนวนที่กำหนด ขอหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินฝาก ขอตรวจข้อมูลเครดิตบูโร การกู้เพิ่ม และการขอหนังสือรับรองเพื่อเบิกค่าเช่าบ้านตามสิทธิสวัสดิการ ซึ่งจะให้บริการลูกค้าได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563

ในด้านแผนการบริหารจัดการด้านเงินฝากเพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ชุด “พิมานมาศ” หน่วยละ 50,000 บาท ให้ได้ตามเป้า 1,000,000 หน่วย ภายในเดือนกันยายน 2563 โดยล่าสุดจำหน่ายไปแล้วกว่า 380,000 หน่วย ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนดีสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และมีโอกาสถูกรางวัลสูง ฝากครบ 3 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคิดเป็นผลตอบแทน 0.9% ต่อปี ออกรางวัลทุกเดือน หมวดละ 10 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 50,000 บาท ทุกหน่วย มีโอกาสในการถูกรางวัล 0.01% สูงกว่าสลากทั่วไป และยังสามารถถูกรางวัลซ้ำได้ทุก ๆ เดือน รวมถึงมีโอกาสลุ้นรางวัล Jackpot หมวดละ 2 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 500,000 บาททุกไตรมาส หากถูกรางวัลมูลค่า 50,000 บาท จำนวน 1 ครั้ง ขณะที่ดอกเบี้ยและเงินรางวัลที่ผู้ฝากได้รับจากสลากออมทรัพย์ ธอส. ยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

“ขณะที่ด้านบุคลากรและสาขาของธนาคาร ยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะปรับลดจำนวนพนักงานและผู้ปฏิบัติงานของธนาคารซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 5,000 คน และไม่ลดสาขาที่มีกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ แต่จะมุ่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีความสามารถที่จะรองรับการให้บริการรูปแบบใหม่ให้ได้มากยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าหากสถานการณ์ของ COVID-19 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อช่วยให้ประชาชนให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ไม่น้อยกว่า 170,000 ล้านบาท หรือปล่อยได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ที่ 210,000 ล้านบาทให้ได้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้นต่อไป”นายฉัตรชัย กล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้อพยพจากไทยคว้าแจ็กพอตเพาเวอร์บอล

ผู้อพยพจากไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐดวงเฮง คว้ารางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่เพาเวอร์บอล ได้เงินรางวัลสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต ชี้ประชาชนเบื่อมากข่าวนายตำรวจระดับสูง ควรเร่งทำงานสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นายกฯ บอกขอโทษ “ปานปรีย์” แล้ว ไม่ขัดแย้ง

นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้  

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

ข่าวแนะนำ

ข้าราชการบรรจุใหม่เฮ! ปรับขึ้นเงินเดือน 1 พ.ค.67-68

รัฐบาลขึ้นเงินเดือนข้าราชการกลุ่มบรรจุใหม่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 พฤษภาคม 2567) หลังจัดงบประมาณไว้รองรับแล้ว ส่วนปี 2568 พร้อมขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี แตะ 18,000 บาท

นายกฯ มั่นใจ “พิชิต” ไม่ขาดคุณสมบัติ รมต.

นายกรัฐมนตรี มั่นใจ “พิชิต” ไม่ขาดคุณสมบัติ เพราะกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว หลังถูกยื่นตรวจสอบซ้ำ ขอโปรดเกล้าฯ ทราบพร้อมกันใครนั่ง รมว.กต.คนใหม่ ไม่ขอพูดก่อน เป็นตามขั้นตอน

“ปานปรีย์” ออกจาก รพ. เข้ากระทรวงลา ขรก.

“ปานปรีย์” เข้ากระทรวงฯ เก็บของ-อำลาข้าราชการ บางคนหลั่งน้ำตา เจ้าตัวบอกลาชั่วคราว เรียกใช้งานได้ บอกเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อคืน