นักเศรษฐศาสตร์กังวลความต่อเนื่องหลังเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ  16 ก.ค. – นักเศรษฐศาสตร์สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ยอมรับกังวลการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวทางการเมือง จะส่งผลต่อความต่อเนื่องนโยบายเศรษฐกิจ และการผ่านงบปี 64 เกิดความล่าช้า


นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ยอมรับว่ากังวลถึงการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 ด้าน คือ ความต่อเนื่องของการดำเนินนโยบายการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เกิดการลงทุนต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปี ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้าทีมเศษฐกิจ, ความต่อเนื่องของการดำเนินนโยบายเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม รวมทั้งมีความไม่มั่นใจถึงการโหวตงบปี 2564 ช่วงเดือนกันยายน ซึ่งจากการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจและความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้จะมีผลทำให้เกิดความล่าช้าเหมือนตอนโหวตงบปี 2563 

อย่างไรก็ตาม มองว่าที่ผ่านมาการเดินหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้าทีมทำได้ดีตามลำดับ และมองว่าช่วงเปลี่ยนผ่านอาจทำให้นโยบายการคลังสะดุด ขณะที่ข่าวชื่อบุคคลที่จะมาดูแลด้านเศรษฐกิจที่ออกมานั้น ตลาดไม่ได้มองที่ตัวบุคคล แต่จะมองภาพรวมหรือทีมที่เข้ามามากว่า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นสิ่งที่ตลาดกังวลที่สุด คือ ความต่อเนื่องของนโยบาย


นายทิม กล่าวว่า ขอฝากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ถึงความต่อเนื่องและรวดเร็วในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมาตรการเยียวยา การฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศ และการทำ travel bubble ในบางประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี  เป็นต้น โดยมองกรณีทหารอิยิปต์ที่จังหวัดระยองอาจทำให้การทำนโยบายท่องเที่ยวสะดุดบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นความเสี่ยง และมองว่าเป็นเรื่องของการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความระวังมากขึ้น 

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ให้มุมมองถึงภาวะตลาดการเงินโลกในช่วงที่เหลือของปียังอยู่ในภาวะผันผวน โดยตลาดเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าตลาดตะวันตก แต่ยังอยู่ในระยะที่ต้องเฝ้าระวัง ถ้ามีเงินทุนไหลกลับเข้ามาต่อเนื่อง จะทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อ นอกจากนี้หากไทยกลับมาเปิดภาคท่องเที่ยวได้สำเร็จจะเป็นปัจจัยบวกกับค่าเงินบาทยิ่งขึ้น โดยคาดว่า สิ้นปี 2563 ค่าเงินบาทจะอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรืออาจจะแข็งกว่านั้นที่ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคมจนเหลือ 0.25% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ จากเหตุผลเรื่องของเศรษฐกิจที่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมองว่าปีนี้จะ -5% เงินเฟ้อปีนี้ -1% รวมทั้งความต่อเนื่องของนโยบายด้านเศรษฐกิจที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทีมเศรษฐกิจขณะนี้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว