ทำเนียบฯ 14 ก.ค.-โฆษก ศบค.เผย ศบค.พร้อมเป็นผู้รับผิดชอบ กรณีทหารอียิปต์-บุตรสาวอุปทูตซูดาน ติดโควิด-19 ขออภัยคนระยองและคนกรุงเทพฯ กับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง ยอมรับเสียใจกับคำพูดที่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง แจง ศบค.ชุดเล็กมีข้อสรุป กต.จะทบทวนให้นักการทูตที่เข้ามาในประเทศ เข้าสู่สถานกักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน ยกเลิก 8 เที่ยวบินทหารอียิปต์ และชะลอการอนุญาตเดินทางเข้าประเทศแบบผ่อนคลาย โดย จะทบทวนระบบทั้งหมด ยันทหารอียิปต์ไม่ได้เที่ยวสถานบันเทิง
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. แถลงกรณีการรายงานทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ออกไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า จ.ระยอง และกรณีบุตรสาวอุปทูตซูดาน ประจำประเทศไทย วัย 9 ขวบ ติดโควิด-19 และครอบครัวพักในคอนโด One X ย่านสุขุมวิท ว่า กรณีทหารอียิปต์ สถานทูตได้ขออนุญาตไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกองทัพอากาศ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่กลุ่มวีไอพี แต่เป็นกรณีปฏิบัติโดยปกติที่มีการอนุญาตให้เข้ามา ซึ่งเหมือนกับลูกเรือสายการบินทั่วไปที่เข้ามาพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้ แล้วเดินทางกลับออกไป เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้ลงที่สุวรรณภูมิตามปกติ แต่ไปลงที่สนามบินอู่ตะเภา
โฆษก ศบค. กล่าวว่า เที่ยวบินเข้ามา 2 เที่ยวบิน คือ EGY1215 และ EGY1216 เป็นเที่ยวบินทางทหาร มีกัปตันเรือ และลูกเรือรวม 31 คน วันที่ 6 ก.ค. เดินทางจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ มาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 7 ก.ค. เดินทางต่อมายังปากีสถาน และวันที่ 8 ก.ค.เดินทางถึงไทย โดยบริษัทสายการบินภาคพื้นประสานงานจองห้องพัก มีสถานทูตเป็นผู้เลือก กำหนดพัก 8-11 ก.ค. โดยเข้าพักโรงแรมดีวารี อ.เมือง จ.ระยอง ถึงเวลา 23.00 น. เครื่องบินล่าช้า 2 ชั่วโมงจากกำหนดการ ทุกคนพักร่วมห้อง 2 คน ยกเว้นกัปตันพักห้องเดี่ยว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ค. เวลา 05.30 น. คณะเดินทางออกจากโรงแรม ไปสนามบินอู่ตะเภา เพื่อไปทำภารกิจทางทหาร และเติมน้ำมันเมืองเฉิงตู ก่อนบินกลับถึงไทยลงที่สนามบินอู่ตะเภาเวลา 23.30 น. ของวันเดียวกัน และกลับโรงแรมที่พัก เวลา 02.00 น. ของวันที่ 10 ก.ค. ต่อมาเวลา 11.20 น. มีจำนวนหนึ่งเดินทางออกจากที่พักไปยังห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในอำเภอเมือง จ.ระยอง คือ แหลมทอง และเซ็นทรัล ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง รับทราบจึงพยายามขอเข้าตรวจคัดกรอง ก็จะเห็นจากคลิปว่ายุ่งยากพอสมควร จนต้องประสานตำรวจ และประสานสถานทูต โดยผลตรวจคือ ไม่ติดเชื้อ 30 คน และผลกำกวม 1 คน จนต้องตรวจซ้ำ ผลออกวันที่ 12 ก.ค. ว่าติดเชื้อ แต่คณะเดินทางกลับไปวันที่ 11 ก.ค.เวลา 11.30 น.
โฆษก ศบค. กล่าวว่า จากการสอบสวนโดยทบทวนจากกล้องวงจรปิดโรงแรม พบว่า ลูกเรือประมาณ 3 คน ใส่หน้ากากอนามัยขณะออกนอกเคหะสถาน ส่วนใหญ่มีหน้ากากอนามัยติดตัว แต่ไม่ได้ใส่ วันที่ 10 ก.ค. มีการเดินทางเป็น 2 คณะ คือ ลูกเรือ 27 คน รวมผู้ติดเชื้อแล้ว เดินทางเข้าไปเที่ยวซื้อสินค้าห้างแหลมทอง เวลา 11.25 – 14.56 น. โดยผู้ติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยขณะออกไปข้างนอก และกลุ่มลูกเรืออีก 4 คนเหมารถแท็กซี่ส่วนบุคคล เพื่อไปเที่ยวห้างเซ็นทรัลระยอง ช่วงเวลา 14.30-18.00 น. โดยใช้แท็กซี่คันเดิมในการรับกลับ ซึ่งติดตามคนขับแล้ว ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อไม่ใช่ 1 ใน 4 ที่ไปรับไปส่ง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หากแบ่งตามความเสี่ยงกรณีนี้ พบว่า มีกลุ่มผู้เสี่ยงสูง 9 ราย ตามสถานที่ คือ 1. โรงแรมดีวารี 7 คน เป็นผู้จัดการโรงแรม 2 คน พนักงานขาย 1 คน แม่บ้าน 4 คน ที่ทำงานประจำชั้นที่พบผู้ติดเชื้อคือ ชั้น 7 และ 8 แต่ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โรงแรมให้หยุดงาน 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-27 ก.ค. โดยให้แยกกักตนเองในโรงแรม ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จะระยอง 2. สนามบินอู่ตะเภา คือ พนักงานขับรถตู้รับส่งไปยังโรงแรม 2 คน และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ 9 คน คือ ทีมสอบสวนโรคและทีมตรวจคนเข้าเมืองระยอง สำหรับผู้ไปห้างแหลมทองช่วงเวลาเดียวกันกับกลุ่มทหารอียิปต์ไปเวลา 11.25-14.56 น. มีคนในห้าง 394 คน ส่วนห้างเซ็นทรัลมี 1,488 คน โดยมีอีก 7 คนตรวจสอบโทรศัพท์ยังไม่ได้ทั้งสองที่ ซึ่งกรมควบคุมจะติดตามเลขหมายให้ท่านเข้ามาตรวจ ถ้ามีข้อสงสัยให้มารับการตรวจได้เลย
“เราตีวงขอบเขตได้จากการใช้แอปพิลเคชันไทยชนะ ผู้ลงทะเบียนผ่านเวลานั้นจะได้รับการข้อความแจ้งเตือนให้ไปแจ้งแสดงตัว เพื่อเข้ารับการตรวจ โดยมีข้อความคือ ขอความร่วมมือกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน หรือติดต่อกลับ สาธารณสุขจังหวัดระยอง ถ้าต้องการรับการตรวจสาธารณสุขก็ยินดี โดยเรามีรถพระราชทานไปประจำในพื้นที่เพื่อให้บริการ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึง กรณีบุตรสาวอุปทูตซูดานวัย 9 ขวบ ติดโควิด-19 ว่า จากการสอบสวนโรคพบว่า ขณะอยู่ที่ซูดาน อยู่บ้านชั้นเดียวจำนวน 3 ห้องนอน อาศัยรวมกับปู่ ย่า มารดา และน้องสาวอีก 3 คน มารดาขับรถส่วนตัวออกไปซื้ออาหารในตลาดมารับประทาน ไม่มีผู้อื่นมาเยี่ยมบ้าน ไม่ได้ออกนอกบ้านตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. อยู่บ้านไม่ใส่หน้ากากอนามัย ใช้จานชามร่วมกัน ใช้มือในการรับประทาน ในบ้านไม่มีใครป่วย วันที่ 7 ก.ค. มารดาพาบุตรสาว 4 คนตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ. ไม่มีการสัมผัสคนไข้อื่นในรพ. ผลตรวจไม่พบเชื้อ วันที่ 9 ก.ค. เดินทางจากบ้านพักโดยรถส่วนตัว โดยคุณปู่มาส่ง เดินทางสายการบินอียิปต์แอร์ MZ3277 ซึ่งมีคนไทยโดยสาร 245 คน นั่งที่นั่ง 22H จอดเครื่องเติมน้ำมันกรุงไคโร ไม่มีผู้ออกจากเครื่องบิน และนั่งที่นั่งเดิม ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
โฆษก ศบค. กล่าวว่า วันที่ 10 ก.ค. เวลา 05.40 น. ผ่านขั้นตอนตรวจทางมาตรฐานควบคุมโรค โดยตรวจเชื้อจากโพรงจมูกที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีอุปทูตซึ่งเป็นบิดา และคนขับรถ 1 คน เจ้าหน้าที่ทูต 1 คน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดมารับไปที่พักอาศัย คือ คอนโด One X โดยไม่ได้แวะพักจอดที่ใด ซึ่งผู้ป่วยถึงที่พักเวลา 09.25 น. ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัย ส่วนน้องสาวคนเล็กและมารดาไม่ได้ใส่หน้ากาก ขึ้นลิฟต์หมายเลข 3 จากที่มี 4 ตัว โดยไม่ได้พูดคุยหรือใช้ลิฟต์ร่วมกับผู้ใด และในวันที่ 10 ก.ค. เจ้าหน้าได้โทรแจ้งผลว่า ด.ญ.อายุ 9 ปี ผลยืนยันพบเชื้อ จึงติดต่อโรงพยาบาล ซึ่งสถานทูตแจ้งว่าวันที่ 10 ก.ค. เวลา 11.38 น. มีรถของสถานทูตพร้อมคนขับ ใส่หน้ากาก มารับไปที่ รพ.พญาไท นวมินทร์ ระหว่างรักษามีอาการปอดอักเสบ จึงขอย้ายไปรักษาสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) ในวันที่ 12 ก.ค. เวลา 04.00 น. และครอบครัวย้ายไปพักบ้านพักสถานทูตซูดานที่ซอยสวนพลู ซึ่งมีประตู 3 ชั้น พื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา อาศัยร่วมกับภรรยาและลูก 3 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ค. ครอบครัวผู้ป่วยที่อยู่ในห้องคอนโดไม่ได้ออกไปใช้บริการสระว่ายน้ำ หรือฟิตเนส บิดาซื้ออาหารให้ 1 ครั้ง และลงมาเปลี่ยนรีโมตแอร์ให้ 1 ครั้ง โดยครอบครัวพักอาศัยชั้นที่ 19 ซึ่งคอนโดมีทั้งหมด 229 ห้อง อาศัยจริง 200 ห้อง เป็นต่างชาติ 70% ซึ่งคอนโดนี้เคยมีผู้ติดเชื้อมาก่อนแล้ว 2 คนในเดือนมีนาคม มีการประกาศมาตรการป้องกันโดยจำกัดจำนวนคนขึ้นลิฟต์ ทำความสะอาดลิฟต์ทุกตัว แอลกอฮอล์ ถูพื้นทุกวันด้วยน้ำยาฟอกขาว ทั้งนี้ พบว่าลูกบ้าน 50% ไม่ได้ใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในลิฟต์ การประเมินผู้สัมผัสมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ สัมผัสเสี่ยงสูง คือ ครอบครัว บิดา มารดา และน้องสาว 3 คน นัดหมายตรวจเชื้อวันที่ 15 ก.ค. คนขับรถ 1 คน เจ้าหน้าที่สถานทูต 1 คน ซึ่งจะนัดหมายตรวจหาเชื้อ และสนามบินคนขับรถตู้ 2 คน ส่วนคนสัมผัสเสี่ยงต่ำ คือ คนใช้ลิฟต์ต่อจากครอบครัวมี 15 คน
โฆษก ศบค. เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. (ศบค.ชุดเล็ก) มีข้อสรุปถึงกรณีนี้ 3 ข้อ คือ 1. เรื่องทางการทูต มีข้อสรุปว่า การให้ทูตไปพำนักในสถานทูต มีความเสี่ยง และทำให้เกิดกรณีซูดานขึ้น กระทรวงการต่างประเทศ จะทบทวนขอให้ผู้ที่เป็นนักการทูตที่เข้ามาในประเทศ เข้าสู่สถานกักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน 2. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยกเลิกการอนุญาตการบินเข้าของเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ ทั้งที่อนุญาตไปแล้วและกำลังจะอนุญาต รวม 8 เที่ยวบิน ในวันที่ 17-20 ก.ค. และวันที่ 25-29 ก.ค. และ 3. ให้ชะลออนุญาตการเดินทางเข้ามาราชอาณาจักรแบบผ่อนคลาย ตามข้อกำหนดฉบับที่ 12 รวม 3 กลุ่ม คือ 1 กลุ่มที่มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาต 2 บุคคลในคณะทูตทั้งหลาย และ 3 กลุ่มนักธุรกิจเข้ามาในระยะสั้น โดยขอใช้เวลานี้ทบทวนระบบทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนอีกครั้ง ก่อนรับคนต่างชาติเข้ามา
“ต้องขออภัยคนจังหวัดระยอง และกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่จังหวัดระยอง เด็กต้องปิดโรงเรียนมากกว่า 10 โรงเรียน พวกเราก็ไม่สบายใจ ต้องขออภัยอย่างสูง และจะทำให้ดีกว่านี้ ละเอียดกว่านี้”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ศบค.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบแน่นอน ส่วนการกำกับดูแลนั้น เนื่องจากกลุ่มทหารอียิปต์ที่เข้ามาเป็นกรณีผู้ควบคุมยานพาหนะ ไม่มีการกำหนดต้องมีผู้ควบคุม เพราะให้เข้ามาแค่มีหนังสือแสดงตัว มีกรมธรรม์ คัดกรองทางเดินหายใจเท่านั้น แม้แต่การเก็บตัวอย่างทางโพรงจมูกตามมาตรการก็ไม่ได้กำหนดไว้ มีเพียงใช้ระบบติดตามตัว ซึ่งตรงนี้ต้องไปติดตามเพิ่ม และใช้พื้นที่กักกันที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนด ตลอดเวลาที่พำนักอยู่ในราชอาณาจักร สถานที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ราชการกำหนด แต่ข้อหละหลวม คือ สถานทูตไปติดต่อโรงแรมโดยตรง นำไปสู่การเข้าพัก และทำให้ทีมดูแลมารับทราบทีหลัง เมื่อรับทราบจึงขออนุญาตเข้าไปตรวจ
ส่วนต้องทบทวนสิทธิวีไอพีเข้ามาในไทยหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่การ์ดตกเสียเอง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผมเสียใจกับคำพูดที่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง เราคุยเรื่องนี้กันมาก มีอะไรต้องปรับปรุงตัวเอง ก็จะพัฒนาตัวเองมากที่สุด เราต้องขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นทุก ๆ เรื่อง รับมาเป็นข้อปฏิบัติ ทำให้ดีที่สุด ในจุดเล็กๆ หละหลวมทุกจุด ความรับผิดชอบของเราที่อาจไม่ละเอียดในทุกข้อต่อ แต่ยืนยันว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มวีไอพี
เมื่อถามว่ากลุ่มทหารอียิปต์ไปเที่ยวสถานบริการ อาบ อบ นวด ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากการสอบสวนไม่มีการไปเที่ยวกลางคืน เพราะเดินทางมาถึงดึก บางคืนตีสองและมีภารกิจเช้าและคณะนี้ไม่ใช่วีไอพี เป็นเพียงคณะลูกเรือ และส่วนใหญ่กรณีเช่นนี้จะพักกันที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ มีเพียงคณะนี้เท่านั้นที่มาลงที่สนามบินนานาชาติ อู่ตะเภา ดังนั้นศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบ
ต่อข้อถามว่า จะจำกัดวงความเสียหายจากการดูแลอย่างไร จะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์จนต้องล็อกดาวน์หรือไม่ และจะเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากความหละหลวมหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราสอบสวนโรค ดูเส้นทางการเดินทางของ 31 คน ไม่ใช่แค่ผู้ติดเชื้อ เพื่อจำแนกแยกแยะผ่านเวลา และเส้นทาง จึงได้ตัวเลขออกมาของผู้ที่ใช้ไทยชนะในช่วงเวลาเดียวกัน เราตีวงขอบเขตได้ และจะติดตามในระยะเวลา 14 วัน ว่ามีการติดเชื้อในพื้นที่ขึ้นมาหรือไม่ หากควบคุมโรคได้ก็ไม่ต้อง ล็อกดาวน์ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือ แพร่กระจายกันไปมากขึ้น มาตรการเพิ่มเติมก็จะเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการเยียวยายังไม่มีการพูดคุยประเด็นนี้ ที่ผ่านมาไม่ว่าสนามมวย สถานบันเทิงทองหล่อ เรายังไม่เคยพูดคุยประเด็นด้านนี้ว่าต้องเยียวยาสถานที่ตรงนั้น ถ้าจะคุยกันก็ต้องโยงทุกที่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องที่พยายามจัดการให้ดีที่สุด
“ในนาม ศบค. ปฏิเสธการรับผิดชอบไม่ได้ เรารับทราบมองเห็นว่า หลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ หลายเรื่องคาดไม่ถึง ไม่รู้จะมีรายละเอียดมากมายอย่างนี้ ที่เกิดขึ้นมาก็ดำเนินการมาแล้วปรับปรุงกันเรื่อย ๆ เป็นบทเรียนสำคัญ ผมตัวแทน ศบค. ผอ. หัวหน้าส่วน ทำงานเต็มที่ ฝากขออภัย ขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือกัน ตอนนี้เห็นความเข้มแข็งสื่อมวลชน ทีมพื้นที่แม้จะมีประเด็นอย่างนี้ บอกว่าการค้นพบผู้ติดเชื้อหนึ่งคน เป็นความเข้มแข็งพื้นที่ ไม่ลดละขอตรวจแม้ผู้ที่เข้ามาไม่ให้ความร่วมมือ มองเห็นคือระบบจากระดับมดงานทำงานได้อย่างดี” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่โลกโซเชียลมีเดียมีการแชร์ไทม์ไลน์ของบุตรสาวอุปทูตซูดาน เดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ นั้น ทาง ศบค.แถลงยืนยันว่าไม่เป็นความจริง.-สำนักข่าวไทย