ศบค.ขออภัยคนระยอง-กทม. กรณีทหารอียิปต์-ลูกทูตติดโควิด

ทำเนียบฯ 14 ก.ค.-โฆษก ศบค.เผย ศบค.พร้อมเป็นผู้รับผิดชอบ กรณีทหารอียิปต์-บุตรสาวอุปทูตซูดาน ติดโควิด-19  ขออภัยคนระยองและคนกรุงเทพฯ กับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง ยอมรับเสียใจกับคำพูดที่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง แจง ศบค.ชุดเล็กมีข้อสรุป  กต.จะทบทวนให้นักการทูตที่เข้ามาในประเทศ เข้าสู่สถานกักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน  ยกเลิก 8 เที่ยวบินทหารอียิปต์ และชะลอการอนุญาตเดินทางเข้าประเทศแบบผ่อนคลาย โดย จะทบทวนระบบทั้งหมด  ยันทหารอียิปต์ไม่ได้เที่ยวสถานบันเทิง


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. แถลงกรณีการรายงานทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ออกไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า จ.ระยอง และกรณีบุตรสาวอุปทูตซูดาน ประจำประเทศไทย วัย 9 ขวบ ติดโควิด-19 และครอบครัวพักในคอนโด One X ย่านสุขุมวิท ว่า กรณีทหารอียิปต์ สถานทูตได้ขออนุญาตไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกองทัพอากาศ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่กลุ่มวีไอพี แต่เป็นกรณีปฏิบัติโดยปกติที่มีการอนุญาตให้เข้ามา ซึ่งเหมือนกับลูกเรือสายการบินทั่วไปที่เข้ามาพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้ แล้วเดินทางกลับออกไป เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้ลงที่สุวรรณภูมิตามปกติ แต่ไปลงที่สนามบินอู่ตะเภา 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า เที่ยวบินเข้ามา 2 เที่ยวบิน คือ EGY1215 และ EGY1216 เป็นเที่ยวบินทางทหาร มีกัปตันเรือ และลูกเรือรวม 31 คน วันที่ 6 ก.ค. เดินทางจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ มาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 7 ก.ค. เดินทางต่อมายังปากีสถาน และวันที่ 8 ก.ค.เดินทางถึงไทย โดยบริษัทสายการบินภาคพื้นประสานงานจองห้องพัก มีสถานทูตเป็นผู้เลือก กำหนดพัก 8-11 ก.ค. โดยเข้าพักโรงแรมดีวารี อ.เมือง จ.ระยอง ถึงเวลา 23.00 น. เครื่องบินล่าช้า 2 ชั่วโมงจากกำหนดการ ทุกคนพักร่วมห้อง 2 คน ยกเว้นกัปตันพักห้องเดี่ยว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ค. เวลา 05.30 น. คณะเดินทางออกจากโรงแรม ไปสนามบินอู่ตะเภา เพื่อไปทำภารกิจทางทหาร และเติมน้ำมันเมืองเฉิงตู ก่อนบินกลับถึงไทยลงที่สนามบินอู่ตะเภาเวลา 23.30 น. ของวันเดียวกัน และกลับโรงแรมที่พัก เวลา 02.00 น. ของวันที่ 10 ก.ค. ต่อมาเวลา 11.20 น. มีจำนวนหนึ่งเดินทางออกจากที่พักไปยังห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในอำเภอเมือง จ.ระยอง คือ แหลมทอง และเซ็นทรัล ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง รับทราบจึงพยายามขอเข้าตรวจคัดกรอง ก็จะเห็นจากคลิปว่ายุ่งยากพอสมควร จนต้องประสานตำรวจ และประสานสถานทูต โดยผลตรวจคือ ไม่ติดเชื้อ 30 คน และผลกำกวม 1 คน จนต้องตรวจซ้ำ ผลออกวันที่ 12 ก.ค. ว่าติดเชื้อ แต่คณะเดินทางกลับไปวันที่ 11 ก.ค.เวลา 11.30 น.

โฆษก ศบค. กล่าวว่า จากการสอบสวนโดยทบทวนจากกล้องวงจรปิดโรงแรม พบว่า ลูกเรือประมาณ 3 คน ใส่หน้ากากอนามัยขณะออกนอกเคหะสถาน ส่วนใหญ่มีหน้ากากอนามัยติดตัว แต่ไม่ได้ใส่ วันที่ 10 ก.ค. มีการเดินทางเป็น 2 คณะ คือ ลูกเรือ 27 คน รวมผู้ติดเชื้อแล้ว เดินทางเข้าไปเที่ยวซื้อสินค้าห้างแหลมทอง เวลา 11.25 – 14.56 น. โดยผู้ติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยขณะออกไปข้างนอก และกลุ่มลูกเรืออีก 4 คนเหมารถแท็กซี่ส่วนบุคคล เพื่อไปเที่ยวห้างเซ็นทรัลระยอง ช่วงเวลา 14.30-18.00 น. โดยใช้แท็กซี่คันเดิมในการรับกลับ ซึ่งติดตามคนขับแล้ว ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อไม่ใช่ 1 ใน 4 ที่ไปรับไปส่ง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หากแบ่งตามความเสี่ยงกรณีนี้ พบว่า มีกลุ่มผู้เสี่ยงสูง 9 ราย ตามสถานที่ คือ 1. โรงแรมดีวารี 7 คน เป็นผู้จัดการโรงแรม 2 คน พนักงานขาย 1 คน แม่บ้าน 4 คน ที่ทำงานประจำชั้นที่พบผู้ติดเชื้อคือ ชั้น 7 และ 8 แต่ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โรงแรมให้หยุดงาน 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-27 ก.ค. โดยให้แยกกักตนเองในโรงแรม ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จะระยอง 2. สนามบินอู่ตะเภา คือ พนักงานขับรถตู้รับส่งไปยังโรงแรม 2 คน และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ 9 คน คือ ทีมสอบสวนโรคและทีมตรวจคนเข้าเมืองระยอง สำหรับผู้ไปห้างแหลมทองช่วงเวลาเดียวกันกับกลุ่มทหารอียิปต์ไปเวลา 11.25-14.56 น. มีคนในห้าง 394 คน ส่วนห้างเซ็นทรัลมี 1,488 คน โดยมีอีก 7 คนตรวจสอบโทรศัพท์ยังไม่ได้ทั้งสองที่ ซึ่งกรมควบคุมจะติดตามเลขหมายให้ท่านเข้ามาตรวจ ถ้ามีข้อสงสัยให้มารับการตรวจได้เลย 


“เราตีวงขอบเขตได้จากการใช้แอปพิลเคชันไทยชนะ  ผู้ลงทะเบียนผ่านเวลานั้นจะได้รับการข้อความแจ้งเตือนให้ไปแจ้งแสดงตัว เพื่อเข้ารับการตรวจ โดยมีข้อความคือ ขอความร่วมมือกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน หรือติดต่อกลับ สาธารณสุขจังหวัดระยอง ถ้าต้องการรับการตรวจสาธารณสุขก็ยินดี โดยเรามีรถพระราชทานไปประจำในพื้นที่เพื่อให้บริการ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึง กรณีบุตรสาวอุปทูตซูดานวัย 9 ขวบ ติดโควิด-19 ว่า จากการสอบสวนโรคพบว่า ขณะอยู่ที่ซูดาน อยู่บ้านชั้นเดียวจำนวน 3 ห้องนอน อาศัยรวมกับปู่ ย่า มารดา และน้องสาวอีก 3 คน มารดาขับรถส่วนตัวออกไปซื้ออาหารในตลาดมารับประทาน ไม่มีผู้อื่นมาเยี่ยมบ้าน ไม่ได้ออกนอกบ้านตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. อยู่บ้านไม่ใส่หน้ากากอนามัย ใช้จานชามร่วมกัน ใช้มือในการรับประทาน ในบ้านไม่มีใครป่วย วันที่ 7 ก.ค. มารดาพาบุตรสาว 4 คนตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ. ไม่มีการสัมผัสคนไข้อื่นในรพ. ผลตรวจไม่พบเชื้อ วันที่ 9 ก.ค. เดินทางจากบ้านพักโดยรถส่วนตัว โดยคุณปู่มาส่ง เดินทางสายการบินอียิปต์แอร์ MZ3277 ซึ่งมีคนไทยโดยสาร 245 คน นั่งที่นั่ง 22H จอดเครื่องเติมน้ำมันกรุงไคโร ไม่มีผู้ออกจากเครื่องบิน และนั่งที่นั่งเดิม ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

โฆษก ศบค. กล่าวว่า วันที่ 10 ก.ค. เวลา 05.40 น. ผ่านขั้นตอนตรวจทางมาตรฐานควบคุมโรค โดยตรวจเชื้อจากโพรงจมูกที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีอุปทูตซึ่งเป็นบิดา และคนขับรถ 1 คน เจ้าหน้าที่ทูต 1 คน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดมารับไปที่พักอาศัย คือ คอนโด One X โดยไม่ได้แวะพักจอดที่ใด ซึ่งผู้ป่วยถึงที่พักเวลา 09.25 น. ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัย ส่วนน้องสาวคนเล็กและมารดาไม่ได้ใส่หน้ากาก ขึ้นลิฟต์หมายเลข 3 จากที่มี 4 ตัว โดยไม่ได้พูดคุยหรือใช้ลิฟต์ร่วมกับผู้ใด และในวันที่ 10 ก.ค. เจ้าหน้าได้โทรแจ้งผลว่า ด.ญ.อายุ 9 ปี ผลยืนยันพบเชื้อ จึงติดต่อโรงพยาบาล ซึ่งสถานทูตแจ้งว่าวันที่ 10 ก.ค. เวลา 11.38 น. มีรถของสถานทูตพร้อมคนขับ ใส่หน้ากาก มารับไปที่ รพ.พญาไท นวมินทร์ ระหว่างรักษามีอาการปอดอักเสบ จึงขอย้ายไปรักษาสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) ในวันที่ 12 ก.ค. เวลา 04.00 น. และครอบครัวย้ายไปพักบ้านพักสถานทูตซูดานที่ซอยสวนพลู ซึ่งมีประตู 3 ชั้น พื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา อาศัยร่วมกับภรรยาและลูก 3 คน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ค. ครอบครัวผู้ป่วยที่อยู่ในห้องคอนโดไม่ได้ออกไปใช้บริการสระว่ายน้ำ หรือฟิตเนส บิดาซื้ออาหารให้ 1 ครั้ง และลงมาเปลี่ยนรีโมตแอร์ให้ 1 ครั้ง โดยครอบครัวพักอาศัยชั้นที่ 19 ซึ่งคอนโดมีทั้งหมด 229 ห้อง อาศัยจริง 200 ห้อง เป็นต่างชาติ 70% ซึ่งคอนโดนี้เคยมีผู้ติดเชื้อมาก่อนแล้ว 2 คนในเดือนมีนาคม  มีการประกาศมาตรการป้องกันโดยจำกัดจำนวนคนขึ้นลิฟต์ ทำความสะอาดลิฟต์ทุกตัว แอลกอฮอล์ ถูพื้นทุกวันด้วยน้ำยาฟอกขาว ทั้งนี้ พบว่าลูกบ้าน 50% ไม่ได้ใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในลิฟต์ การประเมินผู้สัมผัสมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ สัมผัสเสี่ยงสูง คือ ครอบครัว บิดา มารดา และน้องสาว 3 คน นัดหมายตรวจเชื้อวันที่ 15 ก.ค. คนขับรถ 1 คน เจ้าหน้าที่สถานทูต 1 คน ซึ่งจะนัดหมายตรวจหาเชื้อ และสนามบินคนขับรถตู้ 2 คน ส่วนคนสัมผัสเสี่ยงต่ำ คือ คนใช้ลิฟต์ต่อจากครอบครัวมี 15 คน

โฆษก ศบค. เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. (ศบค.ชุดเล็ก) มีข้อสรุปถึงกรณีนี้  3 ข้อ คือ 1. เรื่องทางการทูต มีข้อสรุปว่า การให้ทูตไปพำนักในสถานทูต มีความเสี่ยง และทำให้เกิดกรณีซูดานขึ้น กระทรวงการต่างประเทศ จะทบทวนขอให้ผู้ที่เป็นนักการทูตที่เข้ามาในประเทศ เข้าสู่สถานกักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน  2. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยกเลิกการอนุญาตการบินเข้าของเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ ทั้งที่อนุญาตไปแล้วและกำลังจะอนุญาต รวม 8 เที่ยวบิน ในวันที่ 17-20 ก.ค. และวันที่ 25-29 ก.ค. และ 3. ให้ชะลออนุญาตการเดินทางเข้ามาราชอาณาจักรแบบผ่อนคลาย ตามข้อกำหนดฉบับที่ 12 รวม 3 กลุ่ม คือ 1 กลุ่มที่มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาต   2 บุคคลในคณะทูตทั้งหลาย และ 3 กลุ่มนักธุรกิจเข้ามาในระยะสั้น โดยขอใช้เวลานี้ทบทวนระบบทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนอีกครั้ง ก่อนรับคนต่างชาติเข้ามา

“ต้องขออภัยคนจังหวัดระยอง และกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่จังหวัดระยอง เด็กต้องปิดโรงเรียนมากกว่า 10 โรงเรียน พวกเราก็ไม่สบายใจ ต้องขออภัยอย่างสูง และจะทำให้ดีกว่านี้ ละเอียดกว่านี้”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ศบค.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบแน่นอน ส่วนการกำกับดูแลนั้น เนื่องจากกลุ่มทหารอียิปต์ที่เข้ามาเป็นกรณีผู้ควบคุมยานพาหนะ ไม่มีการกำหนดต้องมีผู้ควบคุม เพราะให้เข้ามาแค่มีหนังสือแสดงตัว มีกรมธรรม์ คัดกรองทางเดินหายใจเท่านั้น แม้แต่การเก็บตัวอย่างทางโพรงจมูกตามมาตรการก็ไม่ได้กำหนดไว้ มีเพียงใช้ระบบติดตามตัว ซึ่งตรงนี้ต้องไปติดตามเพิ่ม และใช้พื้นที่กักกันที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนด ตลอดเวลาที่พำนักอยู่ในราชอาณาจักร สถานที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ราชการกำหนด แต่ข้อหละหลวม คือ สถานทูตไปติดต่อโรงแรมโดยตรง นำไปสู่การเข้าพัก และทำให้ทีมดูแลมารับทราบทีหลัง เมื่อรับทราบจึงขออนุญาตเข้าไปตรวจ

ส่วนต้องทบทวนสิทธิวีไอพีเข้ามาในไทยหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่การ์ดตกเสียเอง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผมเสียใจกับคำพูดที่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง เราคุยเรื่องนี้กันมาก มีอะไรต้องปรับปรุงตัวเอง ก็จะพัฒนาตัวเองมากที่สุด เราต้องขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นทุก ๆ เรื่อง รับมาเป็นข้อปฏิบัติ ทำให้ดีที่สุด ในจุดเล็กๆ หละหลวมทุกจุด ความรับผิดชอบของเราที่อาจไม่ละเอียดในทุกข้อต่อ แต่ยืนยันว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มวีไอพี

เมื่อถามว่ากลุ่มทหารอียิปต์ไปเที่ยวสถานบริการ อาบ อบ นวด ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากการสอบสวนไม่มีการไปเที่ยวกลางคืน เพราะเดินทางมาถึงดึก บางคืนตีสองและมีภารกิจเช้าและคณะนี้ไม่ใช่วีไอพี เป็นเพียงคณะลูกเรือ และส่วนใหญ่กรณีเช่นนี้จะพักกันที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ มีเพียงคณะนี้เท่านั้นที่มาลงที่สนามบินนานาชาติ อู่ตะเภา ดังนั้นศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบ

ต่อข้อถามว่า จะจำกัดวงความเสียหายจากการดูแลอย่างไร จะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์จนต้องล็อกดาวน์หรือไม่ และจะเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากความหละหลวมหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราสอบสวนโรค ดูเส้นทางการเดินทางของ 31 คน ไม่ใช่แค่ผู้ติดเชื้อ เพื่อจำแนกแยกแยะผ่านเวลา และเส้นทาง จึงได้ตัวเลขออกมาของผู้ที่ใช้ไทยชนะในช่วงเวลาเดียวกัน เราตีวงขอบเขตได้ และจะติดตามในระยะเวลา 14 วัน ว่ามีการติดเชื้อในพื้นที่ขึ้นมาหรือไม่ หากควบคุมโรคได้ก็ไม่ต้อง ล็อกดาวน์ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือ แพร่กระจายกันไปมากขึ้น มาตรการเพิ่มเติมก็จะเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการเยียวยายังไม่มีการพูดคุยประเด็นนี้ ที่ผ่านมาไม่ว่าสนามมวย สถานบันเทิงทองหล่อ เรายังไม่เคยพูดคุยประเด็นด้านนี้ว่าต้องเยียวยาสถานที่ตรงนั้น ถ้าจะคุยกันก็ต้องโยงทุกที่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องที่พยายามจัดการให้ดีที่สุด

“ในนาม ศบค. ปฏิเสธการรับผิดชอบไม่ได้ เรารับทราบมองเห็นว่า หลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ หลายเรื่องคาดไม่ถึง ไม่รู้จะมีรายละเอียดมากมายอย่างนี้ ที่เกิดขึ้นมาก็ดำเนินการมาแล้วปรับปรุงกันเรื่อย ๆ เป็นบทเรียนสำคัญ ผมตัวแทน ศบค. ผอ. หัวหน้าส่วน ทำงานเต็มที่ ฝากขออภัย ขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือกัน ตอนนี้เห็นความเข้มแข็งสื่อมวลชน ทีมพื้นที่แม้จะมีประเด็นอย่างนี้ บอกว่าการค้นพบผู้ติดเชื้อหนึ่งคน เป็นความเข้มแข็งพื้นที่ ไม่ลดละขอตรวจแม้ผู้ที่เข้ามาไม่ให้ความร่วมมือ มองเห็นคือระบบจากระดับมดงานทำงานได้อย่างดี” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่โลกโซเชียลมีเดียมีการแชร์ไทม์ไลน์ของบุตรสาวอุปทูตซูดาน เดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ นั้น ทาง ศบค.แถลงยืนยันว่าไม่เป็นความจริง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]

ปชน.ประณามแกนนำม็อบปราศรัยเจตนาปูทางรัฐประหาร

พรรคประชาชน 29 มิ.ย.-พรรคประชาชน ประณามแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรัฐประหาร ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือ ยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่  พรรคประชาชนแสดงความเห็นถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า ความเห็นของพรรคประชาชนต่อการชุมนุมของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต  พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง  พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชน ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา […]

เหนือ-อีสานตอนบน ฝนฟ้าคะนองกระจาย ตกหนักบางแห่ง

กทม. 29 มิ.ย.-กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือและอีสานตอนบน ฝนฟ้าคะนองกระจายและตกหนักบางแห่ง ส่วนตอนล่าง ภาคกลาง และตะวันออก เริ่มมีฝนลดลง แต่ยังตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เริ่มมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ อ่านแถลงการณ์ เรียกร้องนายกฯ ลาออก

28 มิ.ย. – กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ไม่หวั่นฝนตก ชุมนุมเต็มพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ทั้งบนถนนและสะพานลอย ฟังแกนนำปราศรัยและอ่านแถลงการณ์เรียกร้องนายกฯ แพทองธาร ลาออกทันที เหตุมีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศ​ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทันที​ หลังจากผู้ชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้ร่วมกันเคารพธงชาติ นายนิติธร​ ล้ำเหลือ เป็นตัวแทน​อ่านแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์การเมืองการปกครองของไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2475 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน นับเป็นระยะเวลา 93 ปี บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า บรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง การรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมณ์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งมิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนอย่างแท้จริง จนก่อให้เกิดวิกฤตด้านการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคง ดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และสังคมอย่างกว้างขวางลึกและรุนแรง เหตุมาจากการที่มีผู้ไม่นำพา ไม่นับถือยำเกรงกฎหมาย กฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนัก สำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล ให้ความสำคัญกับรูปแบบและวิธีการ ยิ่งกว่าหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย […]