ด.ต.สุดทนลูกชายเพื่อนบ้านเปิดเพลงดัง ชักปืนยิงใส่พ่อ 2 นัด บาดเจ็บ

บุรีรัมย์ 14 ก.ค. – ดาบตำรวจฉุนลูกชายเพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดัง เตือนไม่ฟัง แถมยั่วยุด้วยการเปิดเสียงเพลงดังขึ้นเรื่อยๆ สุดทนชักปืนยิงใส่พ่อของชายที่เปิดเพลงเสียงดัง 2 นัด บาดเจ็บ หลังเข้ามาห้าม พี่ชายดาบตำรวจเผยทั้งคู่ทะเลาะกันประจำ คาดก่อเหตุเพราะอัดอั้นมานาน  

คลิปเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.บุรีรัมย์ ในภาพเป็นการต่อสู้กันระหว่าง ด.ต.ไชยงค์ แจ่มรุ่งโรจน์ อายุ 53 ปี ตำรวจสังกัด สภ.กระสัง ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ ต.บ้านปรือ กับนายรมย์ ร่าเริงยิ่ง อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน สาเหตุเกิดจากการที่ ด.ต.ไชยงค์ ไม่พอใจที่ลูกชายของนายรมย์ที่เปิดเพลงเสียงดัง ทั้งที่เคยห้ามปรามแล้วแต่ไม่ยอมฟัง

ตำรวจ สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านสำโรง หมู่ 5 ต.บ้านปรือ อ.กระสัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย พบนายรมย์ถูกยิงบริเวณขาหนีบด้านซ้ายและชายโครงซ้ายรวม 2 นัด หน่วยแพทย์ฉุกเฉินจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์   

จากการสอบถามทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ ด.ต.ไชยงค์  โดยชนวนเหตุเกิดจาก ด.ต.ไชยงค์ ไม่พอใจที่ลูกชายนายรมย์เปิดเพลงเสียงดัง จึงเกิดการทะเลาะวิวาท และ ด.ต.ไชยงค์ ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงใส่นายรมย์ได้รับบาดเจ็บ หลังก่อเหตุ ด.ต.ไชยงค์ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวที่ สภ.กระสัง

นางช้อย ยอดเครือ อายุ 63 ปี แม่ยายผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายอิทธิพล หลานชาย ซึ่งเป็นลูกของผู้บาดเจ็บ เปิดเพลงฟังอยู่หน้าบ้าน จู่ๆ ด.ต.ไชยงค์ ซึ่งอยู่บ้านตรงข้าม เดินมาใช้ยิงปืนใส่หลาน แต่ไม่รู้ว่ายิงขู่หรือเจาะจงยิงใส่ตัวหลาน แต่กระสุนโดนประตูบ้าน ด้วยความตกใจหลานจึงวิ่งหนี จากนั้นนายรมย์ ผู้เป็นพ่อ ที่เพิ่งเลิกงานมา เดินไปบอก ด.ต.ไชยงค์ ให้ใจเย็น พูดจากันดีๆ ไม่ต้องใช้ปืน พอพูดจบ ด.ต.ไชยงค์ กลับชักปืนยิงใส่ 2 นัด เข้าที่ขาหนีบและชายโครงซ้ายได้รับบาดเจ็บ

จากนั้นนายรมย์จึงวิ่งหนีมานั่งอยู่ใต้ถุนบ้านในสภาพเลือดอาบ ด.ต.ไชยงค์ ก็เดินตามมาชกต่อยซ้ำอีก ทั้งที่นายรมย์ถูกยิงเลือดอาบเต็มตัวแล้ว ตนพยายามเข้าไปช่วย แต่ด้วยที่อายุมากแล้ว ไม่สามารถสู้แรง ด.ต.ไชยงค์ จึงตะโกนให้เพื่อนบ้านมาช่วย ตอนแรกไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะกลัวจะถูกลูกหลง และ ด.ต.ไชยงค์ ยังมีปืนอยู่ในตัว เมื่อทั้งสองกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่เกือบ 10 นาที จึงมีชาวบ้านเข้าไปช่วยแยกออกจากกัน จากนั้นตนจึงโทรศัพท์แจ้ง 191         


นางช้อยยอมรับว่า หลานชายชอบเปิดเพลงฟังจริง เปิดตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่ได้เสียงดังรบกวนมาก เพราะบ้านตนเองก็อยู่ติดกับบ้านหลาน ยังไม่ได้ยินเสียงดัง ยืนยันว่านายรมย์ไม่ได้พูดจาท้าทายตำรวจ แค่ไปบอกว่าให้พูดกันดีๆ ไม่ต้องใช้ปืนแค่นั้น ไม่คิดว่าจะโดนยิงแบบนี้       

ด้านนายชัยยา แจ่มรุ่งโรจน์ อายุ 60 ปี พี่ชาย ด.ต.ไชยยงค์ ที่เข้าไปห้าม เล่าว่า บ้านน้องชายและบ้านของนายรมย์มักมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ เนื่องจากลูกชายผู้บาดเจ็บชอบเปิดเพลงเสียงดัง น้องชายซึ่งมีหน้าที่เป็นตำรวจตำบล จึงเข้าไปห้ามให้ลดเสียงเป็นประจำ แต่อีกฝั่งไม่ยอมลดเสียงเพลงลง แถมยั่วยุด้วยการเปิดเสียงเพลงดังขึ้นเรื่อยๆ และยังพูดจาท้าทาย จนวันนี้ก่อนเกิดเหตุยังเปิดเพลงเสียงดังอีก ทำให้น้องชายเกิดความโมโหจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ในฐานะที่ตนเองเป็นพี่ชายก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่คิดว่าน้องคงทำไปเพราะความอัดอั้นมานาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว