ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 13 ก.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,342.37 จุด ลดลง 8.13 จุด (-0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 62,374.16 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,363.82 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,339.69 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่ยืนในแดนบวกได้ เหมือนกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ปรับตัวขึ้น หลังจากที่มีความคืบหน้ายาต้านไวรัสโควิด-19 ในทางบวก แต่ทั้งนี้ตลาดในยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สได้ลดช่วงบวกลง หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนายมาร์โก รูบิโอ และนายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีน 4 ราย จากกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์
สำหรับตลาดบ้านเราก็รับ Sentiment ลบจากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)ยอมรับความเสี่ยงติดเชื้อระลอกสองใกล้เข้ามาหลังพบรอยรั่วจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีของทหารอียิปต์ที่เดินทางเข้ามาพักใน จ.ระยอง และผลตรวจยืนยันพบการติดเชื้อ ทำให้จะต้องมีการจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยมากขึ้น
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.) นายณัฐพล กล่าวว่า ถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่รุนแรง และไทยยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยก็จะฟื้นตัวขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,340-1,335 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด
นอกจากนี้ สัปดาห์นี้ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมถึงจะต้องติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/63 ของจีน ส่วนบ้านเราให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาเศรษฐกิจหรือไม่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังแพร่ระบาดโควิด
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 894.36 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 208.49 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 422.87 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 679.98 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย