กทม.13 ก.ค.- คนขับขี่ จยย.อยากให้คู่กรณีวอลโว่หัวร้อน แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวเข้าพบตำรวจ อ้างสาเหตุจากเข้าใจผิดว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับตัวเอง
หลังมีผู้เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ที่มีชายฉกรรจ์รายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์วอลโว่ สีขาว รุ่น ซี 30 ใช้เท้าเตะและชักอาวุธปืนข่มขู่ ชายคู่กรณีที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า หลังขับรถชนท้ายรถจักรยานยนต์ล้มจนคู่กรณีและคนซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (13 ก.ค.) ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ได้ลงพื้นที่ถนนเส้นที่เกิดเหตุย่านซอยนาวง พัฒนา 11 และเดินทางไปพบนายเก่ง ไกรสร อายุ 42 ปี คู่กรณีฝ่ายรถจักรยานยนต์ ที่อยู่ระหว่างพักรักษาตัวจากบาดแผลตามใบหน้า ศรีษะ และร่างกายหลายแห่ง
นายเก่ง ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุเดินทางไปธุระกับเพื่อนขณะขับขี่จักรยานยนต์กลับที่พักย่านหลักหก จังหวัดปทุมธานี ยอมรับว่า ไฟท้ายรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่เสีย ระหว่างนั้นรถยนต์ของชายคู่กรณีได้พุ่งชนท้ายจนรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ จากนั้นจำได้แค่ว่าตนตกใจจนสิ้นสติว่าชายคนดังกล่าวจะทำอันตรายตนอีก ถึงขนาดจำไม่ได้ว่าถูกเตะและอีกฝ่ายใช้อาวุธปืนข่มขู่ จนถึงขนาดต้องยกมือไหว้ท่วมหัว มารู้สึกตัว มีสติอีกครั้งที่โรงพยาบาลภูมิพล ตอนนี้ยังเจ็บปวดตามร่างกายจนไม่สามารถออกไปขายของได้ โดยเฉพาะบริเวณกระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายที่หักต้องรอให้แพทย์ประเมินว่าจำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่ และไม่รู้ว่าต้องขาดรายได้นานแค่ไหน อยากให้คู่กรณีชดใช้ค่ารักษาพยาบาล ค่าขาดประโยชน์ และขอโทษตนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.) จะเดินทางไปพบคู่กรณีเพื่อเจรจาค่าเสียหาย ที่ สน.ดอนเมือง
พันตำรวจเอกรังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง กล่าวว่า คดีรถชน ชายคนขับรถยนต์วอลโว่ ได้รับสารภาพแล้วว่าเป็นฝ่ายผิด ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้นเบื้องต้นพิจารณาตามภาพแล้วเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น และข่มขู่ให้ตกใจกลัว ซึ่งเป็นข้อหาลหุโทษ และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฐานมีและพกอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ด้านชายคนดังกล่าวได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาทางอาญา โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า ได้ยอมรับที่จะชดใช้ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุแก่คู่กรณีแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากความเข้าใจผิดว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการใช้อาวุธข่มขู่ และขอโทษสังคมกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีรายงานว่าชายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. .-สำนักข่าวไทย

