กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-“นพ.ยง”เผยสายพันธุ์โควิด-19 ที่ระบาดในไทยช่วงแรก เป็นสายพันธุ์ S ส่วนทั่วโลกเป็นสายพันธุ์ G และขณะนี้ตรวจพบใน state quarantine เชื่อว่าถ้าหากมีการระบาดระลอก2 จะเป็นสายพันธุ์ G ที่ย้อน กลับมาจากต่างประเทศ ดังนั้น การระบาดระลอก 2 จะต้องป้องกันอย่างเต็มที่ แม้สายพันธุ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของโรค แต่แพร่ระบาดโรคได้ง่ายกว่า
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan วันนี้ (13ก.ค.) เรื่องโควิด-19 แพร่กระจายโรคได้ง่ายขึ้น โดยระบุว่าปีการศึกษาและเผยแพร่ในวารสาร cell มีข้อมูลที่น่าสนใจ แต่เดิมสายพันธุ์ของโควิด-19 เริ่มต้นจากประเทศจีนเป็นสายพันธุ์ S และสายพันธุ์ L
สายพันธุ์ L แพร่กระจายได้ง่ายในนอกประเทศจีน แต่สายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทยใน wave แรก พบได้ทุกสายพันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ S มี ลักษณะจำเพาะในตำแหน่ง 829 บน spike โปรตีน หรือหนามแหลมที่ยื่นออกมา มีการเปลี่ยนแปลงเป็น Threonine (T829) เลยอยากเรียกว่าเป็นสายพันธุ์ T สายพันธุ์ T เป็นลูกสายพันธุ์ S ตอนนี้น่าจะหมดไปแล้ว เพราะเกิดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
สายพันธุ์L เมื่อไประบาดนอกประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป ได้ออกลูกหลาน เป็นสายพันธุ์G และV โดยสายพันธุ์ G มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง 614 บนหนามแหลมที่ยื่นออกมา(spike) โดยเปลี่ยนแปลงจาก Aspartate (D) ไปเป็น Glycine(G) หรือเรียกว่าสายพันธุ์G614 สายพันธุ์G นี้แพร่กระจายได้ง่ายมาก ออกลูกหลานมาเป็น สายพันธุ์ GH และ GR
จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าสายพันธุ์ G นี้ แพร่ระบาดได้ง่าย (ในวารสาร cell) เพราะพบว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ G จะมีปริมาณเชื้อที่ลำคอค่อนข้าง มาก จึงแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้ง่าย ทำให้ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น แต่สายพันธุ์G นี้ไม่ได้ทำให้โรครุนแรงขึ้น ยังคงเหมือนเดิม เพียงทำให้มีการแพร่กระจายไปทั่วโลกได้มากขึ้น
ดังนั้น ขณะนี้สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก จึงเป็นสายพันธุ์G มากที่สุด สายพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและมาตรวจพบใน state quarantine ของประเทศไทย จึงมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นสายพันธุ์G แล้ว และเชื่อว่าถ้ามีการระบาดในระลอก 2 สายพันธุ์ที่จะระบาดจะต้องเป็นสายพันธุ์ G ที่ย้อนกลับมาจากประเทศทางตะวันตก และในเอเชียอยู่ขณะนี้ ไม่น่าจะเป็นสายพันธุ์ S ที่เคยระบาดอยู่ในประเทศไทย
ขณะนี้ทางศูนย์ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสำนักงานควบคุมโรคเขตเมือง สปคม. ในการศึกษาสายพันธุ์ที่พบอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะที่อยู่ใน state quarantine เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลพื้นฐาน และถ้ามีการระบาดเกิดขึ้นในประเทศไทย เราก็สามารถศึกษาย้อนกลับว่าสายพันธุ์ที่ระบาดน่าจะมาจากประเทศใด ในการศึกษานี้เราจะดูตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงของไวรัสทั้งหมด 6 ตำแหน่ง ทำได้ไม่ยากและรวดเร็วเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลสำหรับประเทศไทยต่อไป ถ้าสายพันธุ์G แพร่ได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ S ตามที่ได้มีการศึกษาไว้ การระบาดระลอก 2 ก็จะต้องป้องกันอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามสายพันธุ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของโรค เป็นการติดตามการระบาดวิทยาและเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโรคได้ง่ายหรือยากเพราะสายพันธุ์ G เจริญเติบโตได้ดีในทางเดินหายใจจึงมีปริมาณไวรัสมากกว่า .-สำนักข่าวไทย