สงขลา 13 ก.ค. – ตำรวจเผยชายกระโดดให้รถชนบริเวณหน้าตลาดกิมหยง จ.สงขลา ป่วยทางจิต ในวันเกิดเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดหนีลงจากรถญาติที่ไปรับมาจากสถานีตำรวจ ก่อนก่อเหตุกระโดดให้รถชน เชื่อไม่ประสงต่อทรัพย์ คาดอาจเพราะอาการทางจิตกำเริบ ตำรวจและญาติเร่งตามหาตัว
ภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ขณะขับไปบนถนนเพชรเกษม ฝั่งตรงข้ามตลาดกิมหยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อย่างช้าๆ แต่จู่ๆ มีชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ริมถนนวิ่งเข้าหารถ ก่อนกระโดดขึ้นฝากระโปรง ทำให้ดูคล้ายถูกรถชนและลงไปนอนกองกับพื้น ไม่ยอมลุกขึ้น คนขับจึงลงไปดูพร้อมกับบอกให้ลุกขึ้น และบอกว่ามีกล้องหน้ารถ ไม่ต้องแกล้งนอนเจ็บ ชายคนดังกล่าวจึงยอมลุกขึ้นและเดินจากไปในลักษณะขากะเผลกเหมือนได้รับบาดเจ็บ โดยที่หน้าผากมีการติดผ้าก๊อซเอาไว้ด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.20 น. วานนี้ (11 ก.ค.) จากนั้นเจ้าของรถนำคลิปไปโพสต์ลงโซเชียล พร้อมข้อความระบุว่า “ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอกับครอบครัวเรา มีคนหากินด้วยวิธีแบบนี้จริงๆ ในหาดใหญ่ ทางจากตลาดกิมหยงไปโรบินสัน มันเกิดก่อนโควิดว่าพร้อมๆ กับโควิดไม่รู้ แต่เป็นวิธีสิ้นคิดและอาจจะสิ้นใจไปด้วย อย่าทำให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนกับความเห็นแก่ตัวของคุณเลย ฝากแชร์เตือนภัยกันด้วย ปล.คนที่ขับรถเครื่องนั้นมาได้จังหวะจัง ชี้ๆ แต่หารู้ไม่ว่าคุณน่ะชี้คนผิดเข้าข้างคนเปรตอยู่ อยากให้เห็นกันถ้วนหน้า ลงไทยรัฐดีมั้ย”
จากนั้นมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่าเป็นมิจฉาชีพที่หากินด้วยวิธีง่ายและวิธีสกปรก ต้องการให้รถชนเพื่อเรียกเงินค่าเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น บางคนบอกว่าโชคดีมากที่รถคันนี้ติดกล้อง จึงเป็นหลักฐานอย่างดี เพราะหากไม่มีกล้องอาจจะกลายเป็นเรื่องขึ้นมาได้ และชายคนนี้อาจจะเรียกเงิน อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่สอบถามไม่มีผู้ใดรู้จักหรือทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครมาจากไหน
ล่าสุดเพจสถานีตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แจ้งว่าทราบชื่อชายคนดังกล่าวแล้ว อายุ 45 ปี เป็นชาวจังหวัดสตูล มีอาการป่วยทางจิต และไม่น่าจะวิ่งให้รถชนเพื่อเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใด โดยก่อนเกิดเหตุการณ์นี้เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 กรกฎาคม ชายคนนี้มีอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาดก่อความเดือนร้อนรำคาญ บริเวณสถานีขนส่งหาดใหญ่ สายตรวจวิหคเข้าตรวจสอบและควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ และจัดทำประวัติ ก่อนจะติดต่อญาติเข้ามารับตัวกลับไป แต่ต่อมาเวลา 14.00 น. ญาติบอกว่าชายคนดังกล่าวคลุ้มคลั่งและกระโดดลงจากรถวิ่งหนีไปที่บริเวณหน้าหอนาฬิกา ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับจุดที่วิ่งให้รถชน ตำรวจฝ่ายปราบปราม สภ.หาดใหญ่ กำลังอยู่ระหว่างประสานญาติเพื่อติดตามตัว
ด้านญาติได้ส่งข้อความผ่านเพจอาสาพิทักษ์เมืองหาดใหญ่ บอกว่าชายคนนี้มีอาการทางจิตและหนีออกจากบ้าน เชื่อว่าเหตุการณ์ตามคลิปไม่ได้มีประสงค์จะเรียกทรัพย์หรือกรรโชกทรัพย์ แต่คาดว่าเพราะอาการทางจิตกำเริบ และญาติกำลังตามหาตัว ผู้ใดพบเห็นให้โทรแจ้ง 08 9974 1709 และฝากขอโทษเจ้าของรถด้วย.-สำนักข่าวไทย
Top Viewed • อ่านมากสุด
ดูทั้งหมด
คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.
รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต
“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19
“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ
สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ
แผ่นดินไหว 6.4 ในไต้หวัน
เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ในไต้หวัน มีรายงานความเสียหายเล็กน้อย ผู้คนส่วนหนึ่งติดอยู่ในอาคารที่ได้รับความเสียหาย
ข่าวแนะนำ
นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก
นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก
กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!
ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5
ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”
ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง
ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว
“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย