เปิดใจหนุ่มใหญ่ เปย์รักออนไลน์ 2 ปี สูญเงิน 4 ล้าน

สระบุรี 10 ก.ค. – เปิดใจหนุ่มใหญ่เปย์รักออนไลน์ 2 ปี ไม่เคยเจอหน้า สูญเงินกว่า 4 ล้านบาท พบสเตทเมนต์โอนเงินตั้งแต่ปี 62 ถึงกลางปี 63 รวม 16 ครั้ง มากสุดโอนเงิน 1.3 ล้านบาท เจ้าตัวบอกเหลือเงินติดตัวเพียงหมื่นเศษ หวั่นสาวที่ลวงจะนำเงินไปคบผู้ชายคนใหม่ วอนตำรวจช่วยเร่งรัดคดี

นี่เป็นสัญญารักออนไลน์ระหว่างนายเอก พ่อม่าย วัย 53 ปี ชาวสระบุรี กับนางสาวแจง สาวเมืองเหนือ วัย 32 ปี ถูกเขียนด้วยลายมือของฝ่ายหญิงลงบนกระดาษแผ่นหนึ่ง ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะใช้ชีวิตคู่ฉันสามีภรรยา

ความรักของทั้งคู่เริ่มก่อตัวเมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2561 รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยแชทเรื่อยมาจนสนิทสนมและตกลงกันเป็นแฟน แต่ไม่เคยพบหน้ากัน เคยนัดเจอกัน 1 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พบ หลังจากนั้นฝ่ายหญิงอ้างว่าพ่อและแม่เสียชีวิต พร้อมถ่ายภาพงานศพมาอ้าง จนฝ่ายชายโอนเงินให้หลายหมื่นบาท ผ่านไปไม่กี่เดือน ฝ่ายหญิงอ้างว่าจะเข้าทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง จะต้องใช้เงินประกันการทำงาน ฝ่ายก็โอนเงินให้ ก่อนจะขอเงินเพิ่มและบอกจะมาทำงานที่สุวรรณภูมิ

กระทั่งปลายเดือนธันวาคม 2562 ฝ่ายหญิงขอยืมเงินเพื่อจะนำไปไถ่ถอนโฉนดที่ดินพร้อมบ้านจากธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ออกมาขาย และจะนำเงินที่ได้มาใช้หนี้ หลังจากโอนเงินไปให้ยังอ้างอีกว่าติดปัญหา คนที่จะมาซื้อที่ไม่พอใจ อ้างทางเข้าแคบ หากโอนเงิน 1.3 ล้านบาท มาซื้อที่ที่อยู่ติดกัน เพื่อใช้ทำเป็นทางเข้า จะสามารถขายได้และเอาเงินมาใช้หนี้

เมื่อทวงถามขอเงินคืนหนักเข้า ฝ่ายหญิงกลับมีท่าทีบ่ายเบี่ยง บอกไม่มีเงิน ไม่ตอบไลน์ บล็อกเฟซบุ๊ก ทำให้เชื่อว่าถูกหลอก ก่อนเข้าแจ้งความที่ สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา

จากสเตทเมนต์ธนาคารกรุงไทยที่ฝ่ายชายนำมามอบให้ตำรวจ พบตั้งแต่ปี 2562 ถึงกลางปี 2563 โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยไม่ทราบสาขาปลายทาง จำนวน 16 ครั้ง และวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา โอนเงินมากถึง 1.3 ล้านบาท ครั้งสุดท้ายวันที่ 20 พฤษภาคม อีก 1,000 บาท รวม 2.5 ล้านบาท

นายเอกระบุเงินทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ตลอด 2 ปีที่คบกันโอนไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่มีหลังจากออกงาน ตนยังสืบทราบอีกว่าที่ฝ่ายหญิงอ้างว่าพ่อแม่เสียชีวิตไม่เป็นความจริง ทุกวันนี้ฝ่ายหญิงมีชายคนใหม่แล้ว


ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดว่าผู้เสียหายโอนเงินไปบัญชีธนาคารไหนบ้าง ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังนางสาวแจง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนนายเอกโชว์แชทไลน์สุดท้ายที่ติดต่อฝ่ายหญิง แต่สิ่งที่ปรากฏบนแชทไลน์ทั้งคู่ขึ้นเพียงว่าอ่านแล้วแต่ไร้การตอบกลับจากฝ่ายหญิง .-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่มโอน 4 ล้านให้สาว วอน ตร.ช่วยเร่งรัดคดี
หนุ่มใหญ่ถูกสาววัย 32 หลอกโอนเงิน 4 ล้าน


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน