สธ.แนะตลาดสดเข้ม กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์หนู ลดเสี่ยงนำโรค

สธ.9 ก.ค.-อธิบดีกรมอนามัย แนะตลาดสดคุมเข้มความสะอาด กำจัดขยะ ตัดตอนแหล่งเพาะพันธุ์หนู ลดเสี่ยงนำโรค หลังมีการนำเสนอข่าวจีนพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อกาฬโรค ส่วนประเทศไทยยังไม่พบ



 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนำเสนอข่าวประเทศจีนพบ ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อกาฬโรคในเมืองบายันนูร์ เขตมองโกเลียนั้น สำหรับประเทศไทยแม้จะยังไม่พบโรคดังกล่าว แต่สถานประกอบการที่ต้องเฝ้าระวังและมีความเสี่ยงของแหล่งเพาะพันธุ์หนูที่เป็นสัตว์นำโรคนี้มาสู่คนคือตลาดสด ซึ่งต้องคุมเข้มความสะอาด ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ โดยต้องกำจัดแหล่งอาหาร กำจัดเศษอาหาร เศษผักผลไม้ ต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ไม่รั่วซึม มีฝาปิดมิดชิด และนำไปกำจัดอย่างถูกต้องหรือนำไปหมักทำปุ๋ย หรือเป็นอาหารสัตว์ รวมทั้งหมั่นล้างทำความสะอาดถังขยะ และไม่ให้มีเศษอาหารหรือกลิ่นอาหารอยู่ในท่อน้ำทิ้ง ทำความสะอาดพื้นที่ห้องครัวสม่ำเสมอ รางระบายน้ำ กำจัดน้ำโสโครกอย่างถูกวิธี ไม่ให้อุดตันและมีเศษอาหารตกค้าง และควรปิดช่องทางหนูวิ่งเข้าออกตลาดด้วยลวดตาข่าย แผ่นโลหะ คอนกรีต อิฐ หิน เหล็ก หรือกระเบื้องหนา ๆ หรือวัสดุอื่น ๆ 


นอกจากนี้ควรมีการล้างตลาดเดือนละครั้ง หรือหากอยู่ในช่วงที่มีการระบาดของโรคควรล้างตลาดตามหลักการสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเน้นที่ 3 จุดสำคัญ ได้แก่ พื้น เขียง แผง เพราะเป็นจุดที่อยู่ใกล้ชิดและสัมผัสอาหารมากที่สุด หากไม่สะอาด หนูอาจจะมาแทะกินเศษอาหารที่ติดตามพื้น เขียง แผง กลายเป็นเส้นทางผ่านเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า การล้างตลาดที่ถูกหลักสุขาภิบาลมี 2 ขั้น ตอนสำคัญ ขั้นที่ 1 การล้างด้วยน้ำและผงซักฟอก เพื่อกำจัดคราบสกปรก แล้วฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนบริเวณบนแผงหรือพื้นทางเดิน แต่หากมีคราบไขมันจับให้ใช้น้ำผสมโซดาไฟราดลงบนพื้นหรือแผงทิ้งไว้นาน 15-30 นาที และใช้แปรงลวดถูเพื่อช่วยในการขจัดคราบไขมัน และขั้นที่ 2 การฆ่าเชื้อโรคโดยใช้น้ำผสมผงปูนคลอรีนใส่ลงในฝักบัวรดน้ำและลดบริเวณแผง เขียง ทางเดิน ทางระบายน้ำเสียให้ทั่ว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น ส่วนบริเวณที่มีกลิ่นคาวให้ใช้หัวน้ำส้มสายชูผสมน้ำให้เจือจางราดบริเวณที่มีกลิ่นคาว 

สำหรับบริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม อ่างล้างมือ ที่ปัสสาวะ และก๊อกน้ำสาธารณะที่ใช้ในตลาดต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือผงซักฟอกช่วย และล้างด้วยน้ำสะอาด ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคได้


“ทั้งนี้ ในช่วงการระบาดโรคโควิด-19 กรมอนามัยเน้นย้ำทั้งผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า และผู้ใช้บริการ ให้ยึดปฏิบัติในมาตรการหลักตลอดเวลาคือ การลงทะเบียนเข้า-ออกตลาด สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือก่อนและหลังเข้าออกตลาด ทำความพื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ และเว้นระยะ ห่างระหว่างบุคคล เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ