นนทบุรี 7 ก.ค.-พาณิชย์เตรียมจัดงาน GI Market 2020 ปลายเดือนนี้
หวังเป็นช่องทางกระจายสินค้าให้ทั่วไทยเห็นของดีของเด่น พร้อมเร่งจัดระบบผู้ค้า GI
ทั่วประเทศใหม่เพื่อเพิ่มทั้งตลาดในและต่างประเทศ
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยว่า เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วไทยได้รับรู้ของดีของเด่นสินค้าที่ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
หรือ (GI) ทั่วประเทศ
กรมทรัพย์สินทางปัญญาเตรียมจัดงาน GI
Market 2020 ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2563 ที่บริเวณลานWork & Play ชั้น 1
ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 24
– 30 สิงหาคม 2563 ที่บริเวณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ณ
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ
ซึ่งในปีนี้ปกติการจัดงานครั้งแรกจะต้องอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมแต่เนื่องจากติดปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด-19
ระบาดในช่วงเวลาดังกล่าวจึงได้เลื่อนเวลาจัดงานครั้งแรกมาเป็นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้แทน
ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวจะเป็นนำสินค้า GI ของดีของเด่นของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศมาอยู่ในงานเพื่อให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบสินค้า
GI ได้มาเลือกซื้อเลือกชิมได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นถือเป็นการเพิ่มช่องทางการระบายสินค้า
GI ทั่วประเทศให้ถึงมือผู้บริโภค ดังนั้น
กรมทรัพย์สินทางปัญญาขอเชิญชวนประชาชนมาเลือกซื้อสินค้า GI ภายในงาน GI Market 2020 ได้ทั้ง 2
งานดังกล่าว
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาไปหารือกับเกษตรกร
ผู้ผลิตสินค้า GI
ที่มีอยู่ประมาณ 5,000-10,000 ราย ร่วมกันทำแผนด้านการผลิตและการตลาด
โดยที่ผ่านมา การทำตลาดสินค้า GI หลายชนิดประสบปัญหาการขาดแคลนสินค้า
และสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด จึงต้องวางแผนร่วมกันตั้งแต่การผลิต
ไปจนถึงการทำตลาดทั้งในประเทศและส่งออก และเท่าที่ทราบ มีผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า GI
ที่ขึ้นทะเบียนกว่า 2,000 ราย แต่ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะเป็น
5,000-10,000 ราย ดังนั้น
จะทำอย่างไรที่จะเชิญชวนผู้ประกอบการเหล่านี้เข้ามาร่วมเป็นทีมเดียวกันที่จะร่วมกันวางวางแผนทางการตลาดเพื่อสร้างความสมดุลของสินค้า
และประเมินความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดย
กรมทรัพย์สินทางปัญญาเตรียมแผนเดินหน้าเร่งประชาสัมพันธ์สินค้า GI ในทุกช่องทาง
เพราะเห็นเป็นสินค้าคุณภาพ เป็นของดี ของหายากของชุมชน
ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก
ที่จะทำควบคู่ไปกับการผลักดันให้มีการจดทะเบียนคุ้มครอง GI ในต่างประเทศอีกด้วย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า
ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 126 รายการ จาก 76
จังหวัดทั่วประเทศ ล่าสุดเป็นหอมแดงศรีสะเกษและกระเทียมศรีสะเกษ
โดยมีมูลค่าทางการตลาดที่เกิดขึ้นกับชุมชนและท้องถิ่นกว่า 5,300 ล้านบาท ซึ่งกรมฯ
จะเข้าไปช่วยพัฒนาสินค้า วางแผนการผลิต การทำตลาด ที่สอดคล้องกับความต้องการ
เพราะที่ผ่านมา เจอปัญหาสินค้ามีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
หลังจากที่กรมฯ ได้ลงพื้นที่พัฒนาและช่วยวางแผนทำตลาดทั้งการนำออกงานจำหน่าย
นำไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า และนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
จนมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากและสินค้าก็มีไม่เพียงพอ
จึงต้องผลักดันให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังมีแผนที่จะช่วยจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งผลิต
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้า GI การพัฒนาบรรจุภัณฑ์
เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า การเพิ่มช่องทางการตลาดด้วยการแนะนำสินค้า GI
ที่มีศักยภาพ 3 ภาษา ซึ่งได้นำร่องไปแล้ว 4 สินค้า ได้แก่
ทุเรียนปราจีน มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน และทุเรียนป่าละอู
และการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในประเทศ เช่น การจัดให้มีมุมสินค้า GI ในท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ การนำเข้าร่วมงาน GI
Market 2020 และงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อเปิดตัวสินค้า GI ออกสู่ตลาดต่างประเทศด้วย.-สำนักข่าวไทย
