เพื่อนบ้านยินดีให้ตรวจสอบ “ร็อตไวเลอร์” หลังพบศพ “น้องกานต์” เหลือครึ่งท่อน

จันทบุรี 7 ก.ค. – เพื่อนบ้านยินดีให้ตรวจสอบร็อตไวเลอร์ หลังพบศพ “น้องกานต์” เด็ก 6 ขวบ หายออกจากบ้าน ในสภาพถูกสัตว์กัดแทะเหลือครึ่งท่อน กลางสวนยางพารา และพบรอยเท้าสุนัขจำนวนมาก มีคราบเลือดติดอยู่กับกอหญ้าในสวนทุเรียน ห่างจากจุดพบศพประมาณ 50 เมตร รอผลตรวจยืนยัน 


ความคืบหน้ากรณี  ด.ช.อนวัช นนธิจันทร์ หรือ น้องกานต์ อายุ 6 ขวบ หายตัวออกไปจาก บ้านเลขที่ 29 หมู่ 2 บ้านโป่งแรด ต.พลับพลา อ.มือง จ.จันทบุรี เมื่อช่วงสายวันที่ 4 ก.ค.63 ซึ่งครอบครัวและเพื่อนบ้านช่วยกันออกตามหาจนพบเบาะแสสำคัญ เป็นตุ๊กตามดตะนอยสีดำ ที่น้องกานต์ถือติดตัวมาด้วยในวันที่หายออกจากบ้าน วางอยู่บนหน้าศาลพระภูมิ กลางสวนผลไม้ของเพื่อนบ้าน ห่างจากบ้านน้องกานต์ประมาณ 200 เมตร และที่ชาวบ้านต่างพากันขนหัวลุก เมื่อพบรูปนั้นนางรำ 5-6 ตัว อยู่ในสภาพถูกจับหักหัว วางเรียงกันอยู่บนพื้นปูน ใต้ศาลพระภูมิ จึงเชื่อกันว่าอาจจะเป็นอาถรรพ์ผีบังตา ทำให้ยังหัวตัวน้องกานต์ไม่พบ


ล่าสุดช่วงสายเมื่อวานนี้ พบน้องกานต์แล้ว แต่เสียชีวิตในสภาพศพเหลือครึ่งท่อน จุดที่พบศพน้องกานต์ อยู่บริเวณกลางสวนยางพาราของนายเกรียงวุฒิ วรรณทอง 47 ปี ห่างจากบ้าน น้องกานต์ ประมาณ 200 เมตร  


ต่อมาตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าศพน้องกานต์เริ่มเน่าเปื่อย มีรอยคล้ายถูกสัตว์กัดแทะ ส่วนท่อนล่างช่วงเอว และส่วนชิ้นส่วนอวัยวะอื่นๆ ยังหาไม่พบ   ใกล้กันพบเสื้อยืดสีแดง และกางเกงขาสั้นลายพรางทหารตกอยู่ห่างจากศพประมาณ 30 เมตร 

นอกจากนี้ บริเวณที่เกิดเหตุยังพบมีรอยเท้าสุนัขจำนวนมาก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ยังไปพบรอยคราบเลือดจำนวนมากติดอยู่กับกอหญ้าในสวนทุเรียน ห่างจากจุดที่พบศพน้องกานต์ ประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่วิทยาการได้ไปตรวจสอบร่อยรอยและเก็บวัตถุพยานไว้เป็นหลักฐาน

ตำรวจคาดว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากน้องกานต์ เดินหลงเข้าไปในสวนผลไม้เพื่อนบ้าน และอาจถูกสุนัขทำร้ายจนเสียชีวิต หลังจากศพเริ่มเน่าเปื่อยจึงถูกฝูงสุนัขลากมารุมแทะในป่ายาง จึงทำให้ไม่พบตัวน้องกานต์ 

พ.ต.ท.ปิติ พานิช รองผู้กำกับสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมสอบปากคำพยานแวดล้อม เบื้องต้นพุ่งประเด็นไปที่น้องกานต์อาจถูกสัตว์ทำร้าย ากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าบริเวณสวนผลไม้ใกล้เคียง มีเพื่อนบ้านเลี้ยงสุนัขพันธุ์ล็อตไวเลอร์ ไว้ภายในสวน ตำรวจสืบสวนได้ประสานขอเข้าไปตรวจสอบสุนัขล็อตไวเลอร์ตัวดังกล่าว ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องกานต์หรือไม่ ขณะที่เจ้าของสุนัขพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ ยินดีที่จะนำสุนัขล็อตไวเลอร์ ไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และหาข้อเท็จจริง 

ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามนายสุขุม สาทิพย์จันท์ พ่อของน้องกานต์ ที่ได้เดินทางมาดูศพลูกชาย บอกว่า หลังจากเลิกรากับภรรยา ตนเองได้เลี้ยงดูน้องกานต์เพียงลำพัง จนอายุได้ 5 ขวบ มาคบหากับแฟนใหม่ และต้องย้ายไปทำงานที่ จ.ตาก จึงพาน้องกานต์มาฝากให้นายสุทธิเกียรติ น้องชาย เป็นคนเลี้ยง นิสัยส่วนตัวน้องเป็นคนเงียบๆ ชอบเล่นคนเดียว ส่วนที่สาเหตุที่ทำให้น้องกานต์หายตัวไป ไม่ได้สงสัยว่าใครทำร้าย ให้ตำรวจเป็นผู้สืบสวนหาข้อเท็จจริง แต่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำหน้าที่พ่อที่ดี อยู่ดูแลลูกใกล้ชิด จนลูกมาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ  

ขณะที่นายสุทธิเกียรติ นนธิจันท์ อายุ 24 ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของน้องกานต์ บอกว่า รับน้องกานต์ มาดูแลได้ประมาณปีเศษ ปกติน้องเป็นคนเงียบๆ มีนิสัยแปลกๆ ชอบไปเล่นกับรูปปั้นตามศาลพระภูมิ ซึ่งเคยเตือนน้องไปหลายครั้งว่าเป็นของไม่ดี ห้ามมาเล่นอีก แต่น้องก็แอบมาเล่น   เชื่อว่าน้องไม่ได้ถูกคนทำร้าย น่าจะเป็นสัตว์มากกว่า 

ด้านนายเกรียงวุฒิ วรรณทอง เจ้าของสวนยางที่มาพบศพคนแรก บอกว่า พบกลุ่มแมลงวัน บินแตกตัวผิดสังเกต จึงเดินเข้ามาดู ก็พบว่าเป็นศพมนุษย์ เหลือเพียงครึ่งท่อน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเด็กที่หาย จนเดินมาพบเสื้อผ้า จึงแน่ใจว่าเป็นน้องกานต์ จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ

ส่วนเรื่องการรับศพน้องกานต์ไปบำเพ็ญกุศล พ่อของน้องกานต์ บอกว่า เนื่องจากครอบครัว มีฐานะยากจน จึงไม่มีทุนทรัพย์ที่จะทำศพลูกชาย ทางชาวบ้านที่ร่วมตามหาน้องกานต์ ตลอดจนผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมบริจาคเงินให้กับนายสุขุมช่วยเหลือเป็นค่าทำศพ 

ขณะที่นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา บอกว่า การเสียชีวิตของน้องกานต์ เป็นเรื่องความประมาทที่ปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียวมากกว่า สาเหตุการตายคงต้องปล่อยให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนไป แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาลพระภูมิ ถ้าไม่สบายใจแล้วจะไปตั้งทำไม เอาที่ไปทำสวนหย่อมหรือสนามเด็กเล่นให้ลูกหลานวิ่งเล่นหรือทำประโยชน์อย่างอื่นมากกว่า อย่าไปเชื่อคนนั้นคนนี้ที่มาบอกว่าต้องไปทำพิธีอะไร ไม่เกี่ยวหรอก อย่าให้เขาหลอกให้เสียเงินเสียทองอีกเลยเอาเงินเอาทองไปทำประโยชน์อื่น ๆ จะดีกว่า. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

พบแล้วเด็ก 6 ขวบ เป็นศพเหลือครึ่งท่อน ในสวนยางห่างบ้าน 200 ม.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล