เพื่อนบ้านยินดีให้ตรวจสอบ “ร็อตไวเลอร์” หลังพบศพ “น้องกานต์” เหลือครึ่งท่อน

จันทบุรี 7 ก.ค. – เพื่อนบ้านยินดีให้ตรวจสอบร็อตไวเลอร์ หลังพบศพ “น้องกานต์” เด็ก 6 ขวบ หายออกจากบ้าน ในสภาพถูกสัตว์กัดแทะเหลือครึ่งท่อน กลางสวนยางพารา และพบรอยเท้าสุนัขจำนวนมาก มีคราบเลือดติดอยู่กับกอหญ้าในสวนทุเรียน ห่างจากจุดพบศพประมาณ 50 เมตร รอผลตรวจยืนยัน 


ความคืบหน้ากรณี  ด.ช.อนวัช นนธิจันทร์ หรือ น้องกานต์ อายุ 6 ขวบ หายตัวออกไปจาก บ้านเลขที่ 29 หมู่ 2 บ้านโป่งแรด ต.พลับพลา อ.มือง จ.จันทบุรี เมื่อช่วงสายวันที่ 4 ก.ค.63 ซึ่งครอบครัวและเพื่อนบ้านช่วยกันออกตามหาจนพบเบาะแสสำคัญ เป็นตุ๊กตามดตะนอยสีดำ ที่น้องกานต์ถือติดตัวมาด้วยในวันที่หายออกจากบ้าน วางอยู่บนหน้าศาลพระภูมิ กลางสวนผลไม้ของเพื่อนบ้าน ห่างจากบ้านน้องกานต์ประมาณ 200 เมตร และที่ชาวบ้านต่างพากันขนหัวลุก เมื่อพบรูปนั้นนางรำ 5-6 ตัว อยู่ในสภาพถูกจับหักหัว วางเรียงกันอยู่บนพื้นปูน ใต้ศาลพระภูมิ จึงเชื่อกันว่าอาจจะเป็นอาถรรพ์ผีบังตา ทำให้ยังหัวตัวน้องกานต์ไม่พบ


ล่าสุดช่วงสายเมื่อวานนี้ พบน้องกานต์แล้ว แต่เสียชีวิตในสภาพศพเหลือครึ่งท่อน จุดที่พบศพน้องกานต์ อยู่บริเวณกลางสวนยางพาราของนายเกรียงวุฒิ วรรณทอง 47 ปี ห่างจากบ้าน น้องกานต์ ประมาณ 200 เมตร  


ต่อมาตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าศพน้องกานต์เริ่มเน่าเปื่อย มีรอยคล้ายถูกสัตว์กัดแทะ ส่วนท่อนล่างช่วงเอว และส่วนชิ้นส่วนอวัยวะอื่นๆ ยังหาไม่พบ   ใกล้กันพบเสื้อยืดสีแดง และกางเกงขาสั้นลายพรางทหารตกอยู่ห่างจากศพประมาณ 30 เมตร 

นอกจากนี้ บริเวณที่เกิดเหตุยังพบมีรอยเท้าสุนัขจำนวนมาก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ยังไปพบรอยคราบเลือดจำนวนมากติดอยู่กับกอหญ้าในสวนทุเรียน ห่างจากจุดที่พบศพน้องกานต์ ประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่วิทยาการได้ไปตรวจสอบร่อยรอยและเก็บวัตถุพยานไว้เป็นหลักฐาน

ตำรวจคาดว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากน้องกานต์ เดินหลงเข้าไปในสวนผลไม้เพื่อนบ้าน และอาจถูกสุนัขทำร้ายจนเสียชีวิต หลังจากศพเริ่มเน่าเปื่อยจึงถูกฝูงสุนัขลากมารุมแทะในป่ายาง จึงทำให้ไม่พบตัวน้องกานต์ 

พ.ต.ท.ปิติ พานิช รองผู้กำกับสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมสอบปากคำพยานแวดล้อม เบื้องต้นพุ่งประเด็นไปที่น้องกานต์อาจถูกสัตว์ทำร้าย ากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าบริเวณสวนผลไม้ใกล้เคียง มีเพื่อนบ้านเลี้ยงสุนัขพันธุ์ล็อตไวเลอร์ ไว้ภายในสวน ตำรวจสืบสวนได้ประสานขอเข้าไปตรวจสอบสุนัขล็อตไวเลอร์ตัวดังกล่าว ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องกานต์หรือไม่ ขณะที่เจ้าของสุนัขพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ ยินดีที่จะนำสุนัขล็อตไวเลอร์ ไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และหาข้อเท็จจริง 

ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามนายสุขุม สาทิพย์จันท์ พ่อของน้องกานต์ ที่ได้เดินทางมาดูศพลูกชาย บอกว่า หลังจากเลิกรากับภรรยา ตนเองได้เลี้ยงดูน้องกานต์เพียงลำพัง จนอายุได้ 5 ขวบ มาคบหากับแฟนใหม่ และต้องย้ายไปทำงานที่ จ.ตาก จึงพาน้องกานต์มาฝากให้นายสุทธิเกียรติ น้องชาย เป็นคนเลี้ยง นิสัยส่วนตัวน้องเป็นคนเงียบๆ ชอบเล่นคนเดียว ส่วนที่สาเหตุที่ทำให้น้องกานต์หายตัวไป ไม่ได้สงสัยว่าใครทำร้าย ให้ตำรวจเป็นผู้สืบสวนหาข้อเท็จจริง แต่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำหน้าที่พ่อที่ดี อยู่ดูแลลูกใกล้ชิด จนลูกมาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ  

ขณะที่นายสุทธิเกียรติ นนธิจันท์ อายุ 24 ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของน้องกานต์ บอกว่า รับน้องกานต์ มาดูแลได้ประมาณปีเศษ ปกติน้องเป็นคนเงียบๆ มีนิสัยแปลกๆ ชอบไปเล่นกับรูปปั้นตามศาลพระภูมิ ซึ่งเคยเตือนน้องไปหลายครั้งว่าเป็นของไม่ดี ห้ามมาเล่นอีก แต่น้องก็แอบมาเล่น   เชื่อว่าน้องไม่ได้ถูกคนทำร้าย น่าจะเป็นสัตว์มากกว่า 

ด้านนายเกรียงวุฒิ วรรณทอง เจ้าของสวนยางที่มาพบศพคนแรก บอกว่า พบกลุ่มแมลงวัน บินแตกตัวผิดสังเกต จึงเดินเข้ามาดู ก็พบว่าเป็นศพมนุษย์ เหลือเพียงครึ่งท่อน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเด็กที่หาย จนเดินมาพบเสื้อผ้า จึงแน่ใจว่าเป็นน้องกานต์ จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ

ส่วนเรื่องการรับศพน้องกานต์ไปบำเพ็ญกุศล พ่อของน้องกานต์ บอกว่า เนื่องจากครอบครัว มีฐานะยากจน จึงไม่มีทุนทรัพย์ที่จะทำศพลูกชาย ทางชาวบ้านที่ร่วมตามหาน้องกานต์ ตลอดจนผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมบริจาคเงินให้กับนายสุขุมช่วยเหลือเป็นค่าทำศพ 

ขณะที่นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา บอกว่า การเสียชีวิตของน้องกานต์ เป็นเรื่องความประมาทที่ปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียวมากกว่า สาเหตุการตายคงต้องปล่อยให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนไป แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาลพระภูมิ ถ้าไม่สบายใจแล้วจะไปตั้งทำไม เอาที่ไปทำสวนหย่อมหรือสนามเด็กเล่นให้ลูกหลานวิ่งเล่นหรือทำประโยชน์อย่างอื่นมากกว่า อย่าไปเชื่อคนนั้นคนนี้ที่มาบอกว่าต้องไปทำพิธีอะไร ไม่เกี่ยวหรอก อย่าให้เขาหลอกให้เสียเงินเสียทองอีกเลยเอาเงินเอาทองไปทำประโยชน์อื่น ๆ จะดีกว่า. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

พบแล้วเด็ก 6 ขวบ เป็นศพเหลือครึ่งท่อน ในสวนยางห่างบ้าน 200 ม.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย

เคลียร์ BM21 หมู่บ้านกระสุนตก 5 ลูก อ.น้ำยืน อุบลฯ

อุบลราชานี 1 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ใน 8 หมู่บ้าน 24 จุด พบกระสุน BM21 ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และพร้อมทำงาน โดยในช่วงเช้าทำลาย 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณริมถนนสายน้ำยืน นาจะหลวย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนขุดดินด้านบนแล้วหย่อนระเบิด C4 ลงไปในหลุมที่หัวกระสุน BM21 ตกแต่ไม่ระเบิด จากนั้นจึงจุดชนวนทำลายระเบิด ใช้เวลาเพียง 20 นาที หัวกระสุนถูกทำลายโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ […]

ทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่จุดกัมพูชายิงถล่ม

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – วันนี้คณะทูตานุทูตและทูตทหาร รวม 23 ประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ถูกกัมพูชาโจมตี และศูนย์พักพิง การลงพื้นที่ในวันนี้ทางประเทศไทยต้องการให้คณะทูตทั้ง 23 ประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงและนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ จุดแรกคือปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM21 โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปให้คณะได้รับฟังถึงเหตุการณ์วันแรกที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียจากที่เกิดขึ้นต่อคณะทูตานุทูตผ่านล่าม พร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นคณะทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ ต่อไปยังจุดกระสุนตกใส่พลเรือน ที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ส่งผลทำให้อาคาร รพ.สต. เสียหาย ที่นี่ ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ประจำกว่า 30 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางจังหวัดได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง โดยนางเข็มจิรา จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.บ้านชำเม็ง บอกว่าถ้าวันนั้น หากยังไม่มีการอพยพ […]

ชาวบ้านผวาโดรนปริศนา บินว่อนพื้นที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 1 ส.ค. – ชาวบ้านหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ผวาพบโดรนปริศนาบินว่อนหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ หวั่นเป็นของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบินสอดแนม ชาวบ้านหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ต่างหวาดผวา หลังยังพบโดรนปริศนาจำนวนหลายลำบินว่อนในหลายอำเภอ เช่น อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ละหานทราย อ.ประโคนชัย และ อ.บ้านกรวด แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ถึงที่มาที่ไปของโดรนว่ามาจากไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นของคนไทยก็จะนำตัวมาสอบถาม จุดประสงค์ในการบิน และอาจถูกดำเนินคดี เนื่องจาก ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้ออกประกาศห้ามอากาศไร้คนขับหรือโดรนบิน ในช่วงนี้เด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย แต่หากเป็นโดรนฝ่ายกัมพูชาที่ลักลอบบินเข้ามาสอดแนมหรือจับพิกัดเป้าหมายสำคัญในไทย เจ้าหน้าที่จะเร่งหามาตรการป้องกันสกัดกั้น เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติ สำหรับภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย หลังเจรจาหยุดยิง ขณะนี้ยังไม่พบการปะทะกันขึ้น แต่โรงเรียนในพื้นที่แนวชายแดนทั้ง อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย รวม 85 แห่ง ยังคงปิดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่จังหวัดยังไม่มีประกาศให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้านพักได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ประกอบกับต้องเคลียร์พื้นที่ก่อนเพราะมีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่มากกว่า 240 ลูก.-สำนักข่าวไทย