กรุงเทพฯ -5 ก.ค. – กลุ่ม ปตท.ศึกษาเพิ่มพอร์ตไฟฟ้า ปรับโครงสร้างธุรกิจรับมือเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง เตรียม 4-5 พื้นที่ร่วมทุนโรงไฟฟ้าชุมชน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท.อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้ารองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงที่พลังงานรูปแบบใหม่ (new Energy) เช่น พลังงานทดแทน ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ระบบสำรองไฟฟ้า (ESS) ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบริหารจัดการและสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางของพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในปลายปี 2563 สำหรับการผลิตไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิง conventional หรือฟอสซิล เช่น ก๊าซธรรมชาติ, น้ำมัน และถ่านหิน กับประเภท New Energy
“ในช่วง 10 ปีข้างหน้า เช่น ก๊าซธรรมชาติ เพราะถือว่าเป็นพลังงานสะอาดและเป็นพลังงานหลักที่จะมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาวแต่New Energy กำลังขยายตัว ปตท.ก็ต้องเปลี่ยนให้ทัน” นายอรรถพล กล่าว
สำหรับการลงทุนไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ทางบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ยังเป็นแกนหลักของกลุ่ม ปตท. แต่ทุกบริษัทในเครือ ทั้ง TOP, PTTGC และ IRPC ก็ต้องศึกษา เพื่อดูว่าหากลงทุนเองหรือ GPSC ลงทุนอะไรจะไปได้เร็วและสร้างความเติบโตของกลุ่มได้ดีกว่า
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากของกระทรวงพลังงานที่มีเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบ 700 เมกะวัตต์ ในช่วงปี 2563-2565 นั้น ปตท.พร้อมที่จะลงทุนเพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยเน้นศึกษาพื้นที่ตามแนวท่อก๊าซธรรมชาติ และพื้นที่โครงการรักษ์ป่า สร้างคน 84 ตำบลวิถีพอเพียง ของ ปตท. คาดว่าจะมีความพร้อมลงทุน ประมาณ 4-5 ชุมชน.-สำนักข่าวไทย