เมาศุกร์แรกหลังปลดล็อกเฟส 5 จากหลายจังหวัด

ภูมิภาค 3 ก.ค.-บรรยากาศสถานบันเทิงวันศุกร์แรกหลังคลายล็อก เฟส 5 ร้านดังย่านนิมมาน เชียงใหม่ ถูกจองเต็ม ต้องนั่งรอหน้าร้าน เช่นเดียวกับมหาสารคาม วัยรุ่นแห่เข้าร้านเหล้าคึกคักตั้งแต่หัวค่ำ ส่วนพัทยา-สมุย ยังเงียบเหงา บางร้านยังปิดกิจการ


ร้านเหล้านิมมานเชียงใหม่ คึกคักจองเต็ม ต้องนั่งรอหน้าร้าน 


ช่วงวันศุกร์หยุดยาว ติดต่อกันถึง 4 วัน ร้านอาหารวอร์มอัพ ย่านถนนนิมมานเหมินทร์ในตัวเมืองเชียงใหม่ แหล่งบันเทิง ยอดนิยมของเมืองเชียงใหม่ มีลูกค้าจองโต๊ะล่วงหน้า เต็มตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ทางร้านสามารถรองรับได้ ประมาณ 400–500 ที่นั่ง ซึ่งต้องมีการเว้น ระยะห่าง หากเป็นช่วงปกติ รับได้ถึง 800 คน ลูกค้าวันนี้ ส่วนใหญ่ เป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน มากันตั้งแต่ 17.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเริ่มเปิดร้าน และให้บริการถึงเที่ยงคืน บางคนไม่ได้จองโต๊ะไว้ ต้องนั่งรอนอกร้าน ขณะที่ทางร้าน มีมาตรการเข้มงวด ทั้งให้สวมหน้ากากอนามัย ใช้แอลกอฮอล์ล้างมือ และตรวจวัดไข้ลูกค้าทุกคน  

นายศิระภัทร สุริยะศักดิ์ ผู้บริหารร้านวอร์มอัพบอกว่าที่ผ่านมาลูกค้าก็ยังไม่เยอะ ต้องมีการควบคุมต้นทุน ใช้พนักงานและบุคลากรให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งพนักงาน มีมากกว่าโต๊ะเก้าอี้ ให้บริการ ก็ต้องใช้วิถีหมุนเวียน ต้องดูแลพนักงานเป็น 100 ชีวิต แต่ก็พออยู่ได้ จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาปกติ  ขณะที่ช่วงหยุดยาวอยากประชาชนและนักท่องเที่ยวออกมากระตุ้นเศรษฐกิจกันให้มากๆ 


ขณะที่ถนนคนเดินวันนิมมาน ย่านถนนนิมมานเหมินทร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่เปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าที่เดือดร้อนมาเปิดร้านขายสินค้า ช่วงวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ฟรี และให้คนใจดีมาช็อป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือกัน โดยเปิดให้ช็อปถึง 7 โซน ทั้งสมบัติผลัดกันชม โรงแรมสะท้อนใจ สอยดาว นางฟ้าแลนดิ้ง ดาราพาณิชย์ แบรนด์เนมอัดอั้น อาหารแก้เซ็ง ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวมาเดินจับจ่าย กันอย่างคึกคักเช่นกัน สร้างรายได้ให้พ่อค้าแม่ค้า 

สถานบันเทิงมหาสารคามคึกคัก วัยรุ่นเต็มร้าน

ที่จังหวัดมหาสารคาม มีสถานบันเทิง 4 แห่ง  เปิดมาได้ 2 วัน แต่ละแห่งลูกค้าเข้ามาเที่ยวกันอย่างคึกคัก หลังจากที่ปิดไปนาน วันนี้ลูกค้ามาเที่ยวกันจำนวนมาก เพราะอีก 2 วัน ร้านจะต้องปิดวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา โดยแต่ละร้านได้ลดจำนวนโต๊ะลงไปกว่าครึ่ง เพื่อจัดให้ได้ตามระยะห่างและไม่ให้แต่ละโต๊ะนั่งเกิน 5 ที่นั่ง เป็นการจำกัดคนที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ต้องมาเที่ยวเร็วกว่าเมื่อก่อน 

นักดื่มบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเหตุที่ต้องมาเร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะร้านจำกัดจำนวนคนเข้า และร้านปิดเร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อน 2 ชั่วโมง แต่ปรับเวลาเปิดให้เร็วขึ้น ตั้งแต่ 17.00–24.00 น. วงดนตรีขึ้นเล่นตั้งแต่ 18.00 น. ที่หน้าสถานบันเทิงจะมีโต๊ะ และพนักงานต้อนรับใส่หน้ากากเฟซซิลด์ ส่วนลูกค้าต้องสวมหน้ากากไม่อย่างนั้นไม่ให้เข้า รวมทั้งต้องตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนแอปฯ ไทยชนะจำกัดคนเข้าออก ส่วนพนักงานในร้านแต่ละแห่งก็ดีใจที่ได้กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากหยุดไปกว่า 3 เดือน

พัทยาสุดเงียบเหงา Walking Street  เกือบร้าง 

บรรยากาศคลายล็อกดาวน์เฟส 5 ผับ บาร์ คาราโอเกะ ใน Walking Street พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ยังเงียบเหงา ผับขนาดใหญ่บางร้าน ยังไม่กล้าเปิดให้บริการ เพราะถ้าเปิดแล้วต้องมีค่าใช้จ่ายสูง ส่วนบาร์ คาราโอเกะ เริ่มทยอยเปิดให้บริการแล้วเป็นบางส่วน แต่ต้องอยู่ในกฏระเบียบที่ ศบค. กำหนดไว้ ส่วนร้านเหล้าในพื้นที่เมืองพัทยา มีมาตรการป้องกันเข้มโดยมีฉากใสกั้นให้กับนักท่องเที่ยวทุกโต๊ะ เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสแกนแอปฯ ไทยชนะ ก่อนเข้าใช้บริการภายในร้าน

พนักงานแคชเชียร์บาร์เบียร์ นิวสตาร์บาร์ เล่าว่าหลังจากที่เปิดร้านก็พอที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามานั่งที่ร้านบ้าง ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มานั่งที่ร้านประจำจะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา ส่วนบางร้านที่ยังไม่เปิดนั้น คิดว่าเป็นเพราะลูกค้าชาวต่างชาติมีน้อย หากเปิดไปก็อาจไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมไปถึงค่าจ้างของพนักงานต่างๆ 

สมุยยังเงียบสถานบังเทิงขึ้นป้ายขายกิจการ

บรรยากาศการท่องเที่ยว บริเวณถนนเลียบชายหาดเฉวง ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้จะมีการผ่อนคลายกิจการเฟส 5 แต่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร รวมถึงโรงแรมที่เคยคึกคักยังคงไม่เปิดให้บริการ บางแห่งติดป้ายประกาศขายธุรกิจของตัวเอง และประกาศให้เช่าเพื่อดำเนินการต่อ ส่วนร้านที่เปิดให้บริการมีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการจำนวนน้อย ส่วนผู้ประกอบการบางรายได้ตั้งจุดแจกข้าวกล่องและไข่ไก่แก่พนักงานที่ยังตกงานไม่มีรายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนชายหาดเฉวงซึ่งเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงของเกาะสมุยก็อยู่ในสภาพที่ไม่มีนักท่องเที่ยว จากที่เคยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ลงมานอนอาบแดดและเล่นน้ำทะเลบริเวณชายหาด 

นางจันทร์เพ็ญ มอส เจ้าของร้านคาเฟ่ ยูโน่ ซึ่งเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยว กล่าวว่า บรรยากาศนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการเริ่มดีขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่อาศัยบนเกาะสมุย เกาพะงัน และเกาะเต่า ได้ออกจากบ้านมาใช้บริการ ส่วนราคาอาหารและเครื่องดื่มทางร้านได้ปรับลดลงอย่างมากเพื่อให้ขายได้ ซึ่งถึงแม้จะลดราคาแต่ก็ยังแย่เพราะรายได้แค่จ่ายเงินเดือนลูกน้องเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]